จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Version 2 by Kim" ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "เล่นสะเละเลย รับข้อหาพยายามฆ่าไปดิ ต้นสายปลายเหตุยังไม่ชัด ที่แน่ๆกล้องน่าจะมี หนีพ้นไหมกับความรุนแรงที่ทำลงไป ...พวกกูไม่ได้ไปทำไรให้พวกมึงกันเลย บุกเข้ามาพังคอนโดกูทำร้ายพี่กูปางตายเสร็จมาทำกูต่อต้องเป็นคนเหี้ยขนาดไหน จะมาขู่ฆ่ากู พวกกูอยู่กัน4-5คน แต่พวกมึงยกพวกมากัน8-9คน อาวุธคบมือ ทั้งมีด ทั้งปืน ทั้งขวดเบียร์ ใครที่รู้จักบ้านมันหรือเห็นมันอยู่ระแวง คลอง 3-4-5 หรือแถวพระอินทร์..." พร้อมภาพห้องพักหนึ่งชำรุดพังเสียหาย
วันที่ 26 ม.ค. 64 น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงกลางคืนเวลา 21.28 น. ของวันที่ 24 ม.ค. 64 นายธีรโชติ อายุ 20 ปี แฟนเก่าของตน ที่เลิกรากันมา 2-3 เดือนแล้ว โทรมาหาตนทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ระบุโอ้อวดว่าเขามีแฟนใหม่แล้ว เจอคนที่ดีกว่า คาดว่าเพื่อให้ทำให้ตนนั้นหึงหวง ส่วนตัวแล้วไม่ได้คิดอะไร จึงได้อวยพรให้ พร้อมขอให้เปิดตัวแฟนใหม่ เพื่อให้ทั้งตนและผู้ก่อเหตุต่างฝ่ายต่างสบายใจ ก่อนจะวางสายไป
ต่อมานายธีรโชติโทรกลับมาอีกรอบ มีการพูดคุยขึ้นเสียงพูดจาไม่ดี และด่าทอ ขณะเดียวกันนายธีรโชติได้ยินเสียงผู้ชาย ซึ่งเป็นเพื่อนของตนชื่อโม จากนั้นได้มีการท้าชกต่อย ซึ่งเพื่อนของนายธีรโชติก็ต่างยุยงส่งเสริมให้นายธีรโชติเข้ามาทำร้าย ภายหลังนายอ๊อด แฟนใหม่ของตนได้พูดขึ้นมา เป็นเหตุทำให้นายธีรโชติไม่พอใจ ท้ายชกต่อยนายอ๊อดตัวต่อตัว ตนได้พยายามห้ามปราม และได้นัดเคลียร์จบปัญหากับนายธีรโชติ โดยขอเคลียร์กันลำพังเพียง 2 คน คือตนและนายธีโชติ ซึ่งนายธีรโชติก็ตกลง
กระทั่งนายธีรโชติทักแชตข้อความมาหาตน ระบุว่า "กำลังเดินทางไปหา ตัวต่อต่อนะ ไม่ใช้อาวุธ" ตนก็ตอบตกลง ด้วยความที่ตนรู้จักนิสัยของนายธีรโชติจึงได้ไปแอบซุ่มดู พบว่านายธีรโชติเดินเข้ามาใต้คอนโดฯ เพียงลำพัง สักพักยังไม่ถึงประตูคอนโดฯ ตนเห็นกลุ่มเพื่อนของนายธีรโชติวิ่งปรี่เข้ามา 8 คน แต่ช่วงที่วิ่งเข้ามาในคอนโดฯ เพื่อนของนายธีรโชติวิ่งเข้ามา 5 คน แต่ละคนพกอาวุธมีดเคียวเกี่ยวข้าว มีดพกขนาดเล็ก 3-4 เล่ม ปืนไม่ทราบขนาด ขวดเบียร์ และหมวกกันน็อก
ซึ่งคอนโดฯ ของตนนั้นจะต้องมีคีย์การ์ดเปิดประตู นายธีรโชติอาศัยช่วงจังหวะที่มีลูกบ้านเปิดประตู จึงดันตัวเข้าไป ซึ่งถึงแม้ว่าจะเข้าประตูมาได้ แต่ลิฟต์ต้องใช้คียร์การ์ดเช่นกัน ประจวบเหมาะกับลิฟต์ดันเสีย ไม่ต้องมีคีย์การ์ดก็ขึ้นไปได้ ทางรปภ.พยายามห้าม แต่ไม่สามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้
ตนยอมรับว่าขณะที่เห็นนั้นใจคอไม่ดี จึงรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง ภายในห้องมีเพื่อนและพี่ชายของตน โดยมีผู้หญิง 3 คน รวมกับตน และผู้ชาย 3 คน ตนได้บอกว่านายธีรโชติกำลังยกพวกมาทำร้าย โดยนายโม เพื่อนของตน และนายชล พี่ชายของตน อาสาออกไปเจรจาให้ นายโมได้ไปดักรอที่ประตูหนีไฟ ส่วนนายชลไปรอที่หน้าลิฟต์ แต่ลิฟต์เปิดมาพวกนายธีรโชติก็ร่วมกันรุมทำร้ายนายชล กระทั่งนายธีรโชติใช้เคียวเกี่ยวข้าวฟันไปที่ศีรษะของนายชล พร้อมผลักนายชลไปที่ประตูหนีไฟ รุมกระทืบซ้ำอีก จากนั้นก็ลงมาทุบกระจกคอนโดฯ แตก ขณะเดียวกันนายธีรโชตินึกขึ้นได้ว่าตนนั้นอยู่ที่ห้อง จึงบุกมายังห้องพักของตน พร้อมใช้เคียวเกี่ยวข้าวฟันเข้ามายังประตูห้องของตน
วินาทีนั้นตนร้องตะโกนตำรวจมา ออกไป อย่าทำแบบนี้ พอประตูเป็นรู นายอาร์ม เพื่อนของนายธีรโชติได้ใช้ขวดเบียร์เขวี้ยงเข้ามาที่บริเวณใบหน้าตน แต่ตนดันหลบได้ทัน ส่วนนายธีรโชติก็ไม่หยุดใช้มีดเคียวเกี่ยวข้าวสับฟันประตูต่อ พร้อมกับกล่าวว่า "จะฆ่าให้ตาย" ทำให้ตนนั้นได้รับบาดเจ็บไปด้วย ตรงบริเวณช่วงขาและช่วงแขน ซึ่งเป็นแผลถลอก ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีไป
ภายหลังจากเกิดเหตุแล้วตนรีบไปช่วยเหลือนายชล และรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล นายชลได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณศีรษะ และปากฉีก ซึ่งทำให้นายชลบาดเจ็บ 24 จุด เย็บ 87 เข็ม และมีบาดแผลตรงบริเวณใบหน้าและตามลำตัว
สำหรับตนคบหาดูใจกับนายธีรโชติได้ 1 ปี 3 เดือน ตลอดที่ผ่านมาตนถูกทำร้ายร่างกาย รวมแล้ว 7 ครั้ง ไม่ว่าจะถูกตบตี ใช้ขวดแก้วเขวี้ยงมาที่บริเวณศีรษะจนทำให้ตนนั้นสลบไป และเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 64 นายธีรโชติได้มาที่คอนโดฯ ใช้กุญแจรถต่อยมาตรงบริเวณจมูกของตน ทำให้จมูดเอียง ตนขอไม่ให้อภัย เพราะสิ่งที่นายธีรโชติทำรุนแรงเกินไป ขอให้มาชดใช้สิ่งที่ได้กระทำลงไป ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายที่ทำข้าวของของคอนโดฯพังเสียหาย
ด้านพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ที่กระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง พิสูจน์ทราบแล้วว่ามีผู้ก่อเหตุ 4 คนและหนึ่งในนั้นก็ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด
ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ควบคุมตัวนายธีรโชติ หรือ ต่อ อายุ 21 ปี มาที่ สภ.คลองหลวง และนายธีรโชติโพธิ์ กล่าวว่า ด้านฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นแฟนตนเอง ได้บล็อกเฟซบุ๊กตนไปแล้ว จากนั้นเขาโทรศัพท์มาท้าตนเองว่าให้เข้ามาหาที่คอนโดฯ ซึ่งตนเองพร้อมกับเพื่อน ๆ ก็ไป
และประเด็นคือที่ห้องนี้ตนเองได้เช่าคนละครึ่งกับฝ่ายหญิง เมื่อตนเองไปถึง กลุ่มของคนเจ็บก็วิ่งหนีกัน และมีคนที่ถูกตนเองฟันอยู่ 1 คน ส่วนคนที่โทรศัพท์มาหาตนก็เป็นแฟนของตน และตนเองก็ไม่ได้เลิกกับแฟน และ 2 วันที่แล้วก็ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่ ตนก็ยังคบกันอยู่ แต่ฝ่ายหญิงไปคุยกับคนอื่น ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงมาง้อคืนดีตนเองตลอด และตนเองจับได้ว่าเขาทำผิด
ส่วนที่ตนไปฟันคนเจ็บนั้น เพราะเป็นฝ่ายแนะนำคนชื่ออ๊อด ให้กับแฟนตนเองรู้จัก และเขามามั่วสุมที่ห้องด้วย ตนเองก็ยอมรับว่าเป็นคนฟันจริง ฟันคนเจ็บไปหลายครั้ง ส่วนอาวุธมีดนั้น เพื่อนตนเองเป็นคนยื่นให้ และตนไม่ได้พกอาวุธมา ตนจะไปต่อยกันตัวต่อตัวเท่านั้น
นายนัท อายุ 20 ปี กลุ่มผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนเองเป็นเพื่อนกับนายต่อ แฟนเก่าของนางสาววันวิสา ในวันที่เกิดเหตุพวกตนนั่งดื่มสุราสังสรรค์กันอยู่ จากนั้นนายต่อได้ทะเลาะกับนางสาววันวิสา จึงจะเดินทางไปเคลียร์กันที่คอนโดฯ ที่เกิดเหตุ ย่านนวนคร นายต่อได้ชวนเพื่อนในกลุ่มทุกคนไปด้วย ตนเป็นห่วงเพื่อนเห็นว่าคนที่มา 8-9 คน ได้มีอาการเมาสุรา แต่ตนไม่ได้เมาสุรา จึงจะไปห้ามปราม ขณะเดียวกัน ตนได้ขึ้นลิฟต์ไปกับกลุ่มเพื่อนเห็นว่าหนึ่งในกลุ่มเพื่อนได้พกอาวุธมีด เคียวเกี่ยวข้าว และขวดเหล้ามาด้วย แต่ไม่มีการพกอาวุธปืน ตนยืนยันว่าไม่ได้ร่วมกับคนอื่นทำร้ายร่างกายพี่ชายของนางสาววันวิสา
นายมนัสชัย หรือ ชล อายุ 31 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ นายต่อได้พาพวกมารุมทำร้ายพวกตน 5 คน ขณะที่กลุ่มนายต่อมาถึงตนได้ออกจากห้องของวันวิสา เพื่อไปเจรจาให้นายต่อพูดคุย ตนได้ออกจากห้องของวันวิสาที่อยู่ชั้น 4 ขณะเดียวกันกลุ่มนายต่อออกจากลิฟต์มาเห็นตนและนายโมอยู่บันไดหนีไฟ จึงได้วิ่งตามตนมารุมทำร้าย ใช้อาวุธมีด ขวดเบียร์ เคียวเกี่ยวข้าว เหล็ก กระหน่ำมาที่ศีษะของตน แต่ขณะนั้นไม่เห็นอาวุธปืน จนตนได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย เย็บทั้งหมด 87 เข็ม ทั้งนี้ ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด