จากกรณีพบศพเจ้าอาวาสวัดดอนแดงใหญ่ ถูกแทง 19 แผลบริเวณช่วงท้อง เสียชีวิตภายในกุฏิ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ 2 คน
กระทั่งมาทราบในภายหลังว่า 1 ในผู้ต้องหาไม่มีความผิด เนื่องจากเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับเจ้าอาวาส และถูกบังคับให้เซ็นเอกสารยอมรับว่าเป็น 1 ในผู้ก่อเหตุ ล่าสุด ทนายบุญมี จอมหงส์ เข้ามาช่วยทำคดี ทำให้ศาลอุทธรณ์คืนความยุติธรรมให้กับจำเลย
วันที่ 26 ม.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี นายประสิทธิ์ โลนุชิต อายุ 52 ปี พ่อของนายสมศักดิ์ เหยื่อในคดี เล่าว่า ลูกชายของตนเป็นซื่อ ๆ นิสัยดี เชื่อฟังพ่อแม่ เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ลูกชายของตนเป็นลูกศิษย์พระสุวรรณ ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ติดตามพระสุวรรณไปบำเพ็ญกุศลตลอด
และที่ผ่านพระสุวรรณก็คอยช่วยเหลือลูกชายตนมาตลอด ซึ่งลูกชายของตนก็นับคือพระสุวรรณเหมือนเป็นพ่ออีกคน ลูกชายของตนจะก่อเหตุแบบนั้นได้อย่างไร ซึ่งเท่าที่ตนสอบถามลูกชายก็จะตอบอย่างนี้เสมอว่าไม่ได้เป็นคนทำ
ส่วนเรื่องการรับคำสารภาพนั้น ลูกชายของตนเล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันให้รับสารภาพ ขู่ไปต่าง ๆ นานา ลูกชายตนก็เป็นคนซื่อ ๆ ก็ตกใจกลัวว่าลูกเมียจะเดือดร้อน อีกทั้งยังถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายในระหว่างสอบสวนอีกด้วย จึงเซ็นเอกสารรับคำสารภาพ ตนเชื่อมั่นตัวของลูกชายตั้งแต่แรกว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกระทั่งขณะนี้ถึงแม้เรื่องจะเดินทางมาถึงจุดจบด้วยการที่ลูกชายของตนได้รับอิสรภาพ ติดคุกอยู่ในเรือนจำนาน 6 เดือน ก็ได้รับผลกระทบ แต่ทางศาลบอกว่าจะมีการเยียวยาให้กับจำเลย
ซึ่งถ้าจะถามว่าจะเอาผิดเจ้าหน้าทึ่ตำรวจหรือไม่นั้น ตนเป็นชาวไร่ชาวนาตามปกติ ไม่มีเงินหรือมีเวลาไปเอาเรื่องใคร ตนอยากให้เรื่องมันจบแค่นี้ เพราะการที่ลูกชายตนได้รับอิสรภาพก็เป็นเรื่องราวที่ดีที่สุดแล้ว
โดยข้อมูลจากคำให้การในชั้นศาล นายบอยนอนฟังเพลงจากโทรศัพท์ในกุฏิพระสุวรรณ พระสุวรรณนั่งลงข้างนายบอย เอามือมาจับอวัยวะเพศของนายบอย นายบอยไม่พอใจผลักพระสุวรรณออกและจะกลับบ้าน พระสุวรรณโหโมไม่พอใจต่อว่านายบอยว่า "มึงจะอะไรนักหนา เรื่องแค่นี้เอง" จึงเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้นพระสุวรรณตบนายบอย นายบอยต่อยพระสุวรรณ และคว้าค้อนที่วางอยู่ในกุฏิตีที่ศีรษะพระสุวรรณ ก่อนจะวิ่งหนีไปทางประตูกุฏิ แต่เปิดประตูไม่ได้ พระสุวรรณจึงถือค้อนตามหลังนายบอยมา แต่นายบอยหันไปเห็นมีปลายแหลมวางอยู่จึงใช้มีดแทงพระสุวรรณจนล้มนอนหงายกับพื้น นายบอยนั่งข้างผู้ตายใช้มีดแทงผู้ตายซ้ำอีก รวม 17 แผลบริเวณหน้าอก จากนั้นทิ้งมีดแล้วหลบหนีไป โดยเอาโทรศัพท์ของพระสุวรรณไปด้วย
ด้านนายบุญมี จอมหงษ์ ทนายความ เปิดเผยว่า อุปสรรคของการทำคดีนี้คือจำเลยยอมรับคำสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนจนไปถึงกระบวนการศาลชั้นต้น ทั้งที่เจ้าตัวก็อ้างว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าพระสุวรรณ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบีบบังคับให้รับผิด โดยขู่และมีการใช้ความรุนแรงในระหว่างการสอบสวน ทำให้จำเลยกลัวและเซ็นใบรับคำสารภาพ ซึ่งตนขอตำหนิจำเลยว่าถ้าไม่ได้ทำ ทำไมถึงไปรับสารภาพ จำเลยก็บอกแค่ว่า "ไม่รู้ เขาให้ทำอะไรผมก็ทำ" จากนั้นตนจึงเข้ามาช่วยทำคดีนี้
จนกระทั่งมาสู่กระบวนในชั้นศาลอุทธรณ์ จับคนร้ายตัวจริงได้ คำรับสารภาพของนายธนวันต์ ยาวะโนภาส เป็นผู้ลงมือฆ่าพระสุวรรณ สารบุญ เจ้าอาวาสวัดดอนแดงใหญ่เสียชีวิต ให้การว่าไม่รู้จักกับนายสมศักดิ์ โลนุชิต กลายเป็นว่ามีข้อเท็จจริง 2 อย่าง แต่ศาลพิจารณาจากหลักฐานพยานแวดล้อม นายธนวันต์ ผู้ต้องหา ทำบัตรประชาชนตกไว้ในกุฏิ กลายเป็นว่าไม่ใช่นายสมศักดิ์ที่ถูกตำรวจตั้งเป้ามาตั้งแต่แรกว่าเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับพระสุวรรณ แต่เป็นนายธนวันต์ ผู้ต้องหา อีกทั้งเรื่องของเส้นทางการหลบหนี และการลงมือฆ่าเป็นขั้นตอน รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่นายธนวันต์ ผู้ต้องหาเอาของพระสุวรรณไปด้วย ทำให้ศาลยกฟ้องนายสมศักดิ์ แต่กว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้ นายสมศักดิ์ก็ได้ติดคุกไปแล้ว 6 เดือนเต็ม ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ร้องไปยังกระทรวงยุติธรรม ขอความช่วยเหลือเหยื่อในวงเงิน 230,000 บาท เพื่อประกันตัวออกมาก่อน
จนกระทั่งวันที่ 21 ม.ค. 64 ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้ยกฟ้องจำเลย ให้เป็นผู้บริสุทธิ์และจะดำเนินการเรื่องเงินชดเชยค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายทนาย และค่าสูญเสียรายได้ ซึ่งสามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีได้ เนื่องจากผิดพลาดมาจากขั้นตอนแรก แต่ทางครอบครัวของจำเลยเอง มีความประสงค์จะให้เรื่องจบเพียงเท่านี้ แค่ได้รับอิสรภาพก็เกินพอแล้ว