จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "เฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย v+" แชร์คลิปป่อเต็กตึ๊งฝ่ายสีน้ำเงิน กับกู้ชีพฝ่ายสีขาวมีปากเสียงกัน หลังมีชายหญิง 2 คน ประสบอุบัติเหตุรถล้มในพื้นที่ จ.สมุทรปราการโดย ในคลิปเห็นว่าฝ่ายน้ำเงินกำลังยืนทำแผลให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ มีแผลถลอกตามร่างกาย ส่วนหนุ่มคนขี่รถจักรยานยนต์นั่งอยู่ที่ทางเท้า แต่ไม่มีแผลถลอก ปวดแขนขวา และไม่ประสงค์จะไปโรงพยาบาล แต่เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพเสื้อขาวสอบถามว่าต้องไปโรงพยาบาล คนถ่ายคลิปฝ่ายน้ำเงินพยายามบอกว่าคนเจ็บไม่ไปโรงพยาบาล ก่อนจะมีปะทะคารมกัน บอกว่า "รู้ไหม กูลูกน้องใคร"
วันที่ 30 ม.ค. 64 นายภาคภูมิ ก้องสนั่น เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพสมุทรปราการ ชุดสีขาว คนถ่ายคลิป เปิดใจว่า เหตุเกิดวันที่ 28 ม.ค.
เวลาประมาณ 22.00 น. ตนรับแจ้งคนรถล้มจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยไปถึงในเวลาใกล้เคียงกัน แต่พอจอดรถ ฝ่ายกู้ภัยเสื้อสีน้ำเงิน ได้เข้าไปประชิดดูแลคนเจ็บก่อน ซึ่งมีแผลถลอกไม่ได้เป็นอะไรมาก
โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพชื่อนายต่อ พยายามสอบถามคนเจ็บว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ทางฝ่ายป่อเต็กตึ๊งได้เข้ามาพูดแทรกว่า "คุยกับคนเจ็บแล้ว เขาไม่ไปโรงพยาบาล" จากนั้นก็มีการถ่ายคลิปพวกตนในทันที ขณะนั้นนายต่อและกลุ่มเพื่อน ๆ ไม่อยากมีเรื่อง จึงเดินกลับมาที่รถ แต่มีคนหนึ่งในฝั่งน้ำเงินเดินปรี่เข้ามาหา คล้ายจะเข้ามาหาเรื่องนายต่อ จึงพยายามห้ามนายต่อไม่ให้มีเรื่อง และคู่กรณียังพูดยั่วยุว่า "เดี๋ยวมึงเจอกู" ทำให้นายต่อเกิดโมโหและพูดว่า "รู้ไหม กูเป็นลูกน้องใคร กูเป็นลูกน้องตัวเอง" แต่คลิปที่ถูกนำไปโพสต์ถูกตัดไป และนำไปโพสต์ลงสังคมออนไลน์ต้องการให้สังคมเข้าใจผิด และเสียหาย
และถ้าเห็นในคลิป ฝั่งเสื้อน้ำเงินจะเข้ามามีเรื่อง และถอดเสื้อ ถอดหมวก จะพุ่งมาหาฝั่งตนให้ได้ พวกตนไม่อยากให้บานปลายจึงพากันขึ้นรถกลับในทันที ทั้งนี้ ตนอยากบอกฝ่ายนั้นว่าให้ต่างคนต่างทำหน้าที่เขตใครเขตมัน เพราะเขตตรงนั้นเป็นของฝั่งตนอย่างถูกต้อง แต่ฝ่ายนั้นกลับพยายามทำให้ฝ่ายตนถูกเข้าใจผิดว่าไปแย่งคนเจ็บข้ามเขต ทั้งนี้ หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก พวกตนจะไม่ลงจากรถจะถ่ายรูปว่าฝ่ายน้ำเงินข้ามเขต แล้วนำเรื่องไปร้องเรียนแทน เพราะไม่เช่นนั้นอาจเสียเปรียบอย่างในคลิปอีก
ด้านนายพรพงษ์ เนียมรัตน์ กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งบางปู ที่เป็นคนถอดเสื้อในคลิป เปิดเผยว่า ฝ่ายตนเป็นฝ่ายที่มาถึงที่เกิดเหตุ ช่วยคนเจ็บก่อนที่อีกฝ่ายจะมาถึง จากนั้นท้ายคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียล คนที่ถอดเสื้อออกคือตนเอง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้กล่าวท้าทายอีกฝั่ง แต่อีกฝั่งต่างหากที่กล่าวท้าทายตน ตนจึงถ่ายรูปรถคันที่ 8 ซึ่งเป็นรถตู้ขนาดใหญ่ของอีกฝั่ง ทำให้เกิดการปะทะคารมกัน
โดยอีกฝั่งได้กล่าวว่า "มึงถ่ายเลย" ตนจึงกล่าวกลับว่า "กูถ่ายอยู่แล้ว" จากนั้นตนจึงถอดเสื้อออก อีกฝั่งจึงบอกว่า "มึงต่อยกับกูไหม" ตนเลยกล่าวกลับว่า "ก็มาดิ" แต่อีกฝั่งไม่กล้าทำ เลยไม่ได้ทีการทำร่ายร่างกายกันเกิดขึ้น มีเพียงการโต้เถียงกันไปมาเท่านั้น