เป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงแบบไม่มีแผ่ว สำหรับนักร้องลูกทุ่งเสียงนุ่มหน้าหล่อ "เต๋า ภูศิลป์" จากค่ายแกรมมี่โกลด์ เพราะนอกจากงานร้องเพลงจะปัง มีผลงานใหม่ให้ฟังกันไม่ขาดสาย งานละครก็ยังเปรี้ยง มีผลงานใหม่ให้เห็นกันอยู่ตลอด ล่าสุดได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดใจที่นี่เป็นที่แรกถึงเรื่องหัวใจที่ไม่เคยพูดที่ไหน และเป็นสิ่งที่สาวๆ อยากรู้ที่สุดว่าสถานะหัวใจของ "หนุ่มเต๋า" โสด หรือมีเจ้าของแล้วจ๊ะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "พระมหาสมปอง" ฝากข้อคิด "โลกนี้มีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบก" ช่วงเวลาที่ยากลำบากจะผ่านไป
- "ชูษี เชิญยิ้ม" หลงแสงสีเกือบหมดตัว โชคดีที่กลับตัวทันเพราะ "ลูก"
- "บิว กัลยาณี" ยอมรับ! ท้อหนักถึงขั้นอยากหันหลังให้วงการ เปิดใจสาเหตุไม่ออกเพลงใหม่
- "กิก ดนัย" ลั่น! ถอดเขี้ยวเล็บความเจ้าชู้แบบถาวร หลังเจอภรรยาปราบจนอยู่หมัด
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เขาดังมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วนะ เพราะได้ขึ้นร้องเพลงกับแม่นกน้อยบนเวทีเสียงอีสาน ตอนนั้นกี่ขวบ
เต๋า ภูศิลป์ : ตอนนั้นป.4 ครับ ที่ขึ้นไปร้องเพลงได้ เพราะคุณแม่นกน้อยไปแสดงที่อุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ ย่าก็มีเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณแม่นกน้อยอีกที ก็ชวนไปร้องเพลงคณะหมอลำอีสานตอนนั้น จริงๆ แล้วผมร้องเพลงถัดจากที่เพลงที่เขาจะบันทึกการแสดงสดชุดที่ 1 พอดี วันนั้นมีบริษัทมาบันทึกการแสดงสด ผมร้องเพลงที่สอง แล้วแม่นกน้อยก็จูงมือผมขึ้นมาร้องเพลงด้วยกันจะได้ออกทีวี จะได้บันทึกเทปด้วยกัน ผมก็เป็นเด็กน้อย บอกแม่ว่าผมร้องไม่ได้นะครับ แม่นกน้อยก็บอกว่าไม่เป็นไร เราก็รู้สึกว่าแม่ทำไมให้โอกาสเราจังเลย เราไม่ใช่คนในวง แม่ก็เอาเราขึ้นไปร้องเพลงด้วย ตอนนั้นอายุประมาณ 9-10 ขวบครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็ร้องเพลงแล้วครับ ไปร้องตามงานวัด งานบุญต่างๆ ครับ เพราะชอบร้องเพลงมาก
ถาม จากวันนั้นเลยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราเป็นนักร้องเลยหรือเปล่า
เต๋า ภูศิลป์ : ผมมีความสุขที่จะได้ร้องเพลงให้แฟนเพลงได้สนุกสนาน
ถาม แต่โดยปกติแล้วคนที่ชอบร้องเพลงก็อยากประกวดร้องเพลง แต่เต๋า ภูศิลป์ไม่ยอมไปประกวดร้องเพลง เพราะอะไร
เต๋า ภูศิลป์ : ไม่ชอบประกวดร้องเพลงครับ เวลาที่ผมไปยืนอยู่บนเวทีร้องเพลงไม่ตื่นเต้นครับ แต่ไปประกวดมันตื่นเต้น เลยไม่ไปประกวดเลย
ถาม แต่คนจะดังก็ดังอยู่ดี แล้วอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราได้เป็นนักร้องอาชีพขึ้นมาจริงๆ
เต๋า ภูศิลป์ : ตอนนั้นประมาณอายุ 19 ปี ก็ได้มีโอกาสร้องเพลงลงในยูทูบ ตอนนั้นมาเรียนกรุงเทพฯ แล้วรู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงอีสาน ทำยังไงดี แล้วตอนนั้นยูทูบเข้ามาใหม่ๆ อัดเพลงลงยูทูบ เป็นเพลงลูกทุ่งอีสานของพี่ไผ่ พงศธร ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีคนมาดู ก็ร้องเล่นไป ใช้มือถือเราถ่ายเอง แล้วก็มีทางค่ายเพลงติดต่อเรามาหลายค่ายมากตอนนั้น แต่ผมรู้จักแกรมมี่โกลด์ เขาก็บอกว่าสนใจเรานะ อยากจะให้ไปลงเสียง แล้วเขาจะเอาไปให้เจ้านายเขาฟัง แต่ผมก็ทิ้งข้อความที่เขาติดต่อเราไว้สองถึงสามเดือนเลย เพราะเราคิดว่าไม่ใช่หรอก คงเป็นคนที่เขามาเล่นทั่วไป แล้วเขาอยากจะเจอเรา คุยแบบแกล้งหรือเปล่า พอผมลงคลิป เขาก็ติดต่อมาอีก ผมเลยไปเจอเขา ก็เจอจริง อยู่ที่ตึกแกรมมี่ ตอนนั้นประมาณปี 56-57 แล้วพี่ตี่ กริช ทอมมัส ที่ดูแลแกรมมี่โกลด์อยู่ตอนนั้น ก็ให้เราเดินให้ดู ร้องเพลงให้ฟัง แล้วก็เซ็นสัญญาเลย เราก็ตกใจ ทำไมง่ายจังเลยครับ
ถาม แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งมาเป็นนักแสดง ตอนที่โอกาสนั้นมาถึง เรารู้สึกยังไง
เต๋า ภูศิลป์ : ตอนนั้นได้มีโอกาสได้เป็นพระเอกหนัง "ผู้บ่าวไทบ้าน" แล้วก็พระเอกละคร "มนต์รักทรานซิสเตอร์" อีกเรื่องหนึ่ง เราก็ไม่คิดเหมือนกัน พูดตรงๆ เราเป็นคนตัวเล็กแล้วทำไมอยู่ดีๆ เข้ามาอยู่ในวงการได้
ถาม ถึงจะมีงานเพลง งานละคร งานแน่นขนาดนี้ แต่ก็ยังมีเวลาไปทำยูทูบได้
เต๋า ภูศิลป์ : ชื่อว่า ไปกับภู เราก็เอาเวลาช่วงที่เราไปแสดงตามจังหวัด เราก็ได้เห็นอะไรที่หลากหลาย เราก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนเราชอบเก็บความทรงจำผ่านทางสายตา จนช่วงโควิดเลยครับ ที่ทำให้เราคิดได้ว่าทำไมเราต้องเก็บสิ่งดีๆ ที่เราเห็นไว้ที่เราคนเดียวด้วย ก็เลยทำแฟนเพจ ประกอบกับเราอยากเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยในอนาคตครับ ก็เลยคิดว่าทำตรงนี้ไว้เพื่อเป็นศูนย์รวมคนที่ติดตามเราไว้เจอกัน ไว้คุยกัน เวลาเราทำอะไร เราก็จะได้บอกให้ได้รับรู้ครับ
ถาม แต่สิ่งหนึ่งเลยที่เต๋าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แต่มาเปิดในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เป็นที่แรกคือเรื่องความรัก
เต๋า ภูศิลป์ : ถ้าบอกว่าไม่มีก็เหมือนโกหกครับ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตกับความรักมาตลอด ตั้งแต่สมัยเรียนจนวัยทำงาน เราคิดว่าความรักกับงานมันจะมาคู่กันได้อย่างดี แต่ว่าเราได้เจอคนที่แบบว่าทำไมต้องไปนั่นไปนี่ ทำไมคิวเธอไม่แน่นอน ไหนบอกว่าอาทิตย์หน้าว่าง ทำไมไม่ว่าง แล้วที่นัดกันไว้ทำยังไง พอมาเจอแบบนี้บ่อยๆ เราเลยรู้สึกว่าเรามีความสุขอยู่กับการทำงาน เรามีความสุขกับการจะหาเงินมาเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว จริงๆ ผมเลี้ยงคนรักด้วยนะครับ ที่ผ่านมาเราก็เรียกว่าค่อยข้างเปย์เหมือนกัน แต่ถ้าเขาไม่เข้าใจเรา แล้วเขาอยากอยู่กับเราตลอด อยากจะขังเราไว้อยู่ด้วยตลอด ซึ่งเรารู้สึกว่างานกับความรักมันควรไปด้วยกันได้ แล้วหลังจากนั้นผมไปดูดวงกับพระอาจารย์สายกรรมฐาน ท่านเห็นผม ท่านก็บอกว่าถ้าผมมีแฟน ต้องรอให้พ่อแม่จากเราไปก่อน พระท่านว่าแบบนี้นะครับ จริงๆ ผมมองว่าที่ท่านบอกเราคือถ้ามีแฟนคือมีได้ แต่ให้ดูแลพ่อแม่ก่อน อย่าเพิ่งมี ซึ่งผมก็ดูชีวิตที่ผ่านมาว่าพอมีแฟนก็จะชวดงาน แต่พอเราทำชีวิตดีๆ รักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ทุกวันพระ งานก็จะเข้ามาแบบงงๆ เรื่อยๆ เราเลยรู้สึกว่าตอนนี้เรายังเด็กอยู่ ในอนาคตค่อยมีก็ได้ไม่เป็นไร ตอนนี้โสดร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ แต่ผมก็ไม่ได้เปิด แล้วก็ไม่ได้ปิดนะครับ ผมว่าถ้าเจอคนที่ใช่ก็น่าจะเข้ากันพอดี เหมือนจิ๊กซอว์ที่หายไป คนที่ใช่สำหรับผมคือคนที่ไม่สูงกว่าผม เป็นคนไม่งี่เง่า ชอบผู้หญิงแบบแมนๆ ลุยๆ
ถาม ปีนี้จะมีเพลงใหม่ไหม
เต๋า ภูศิลป์ : มีครับ ตอนนี้กำลังหาแนวทางอยู่ว่าเราจะไปทางไหนครับ สามารถติดตามผลงานผม Tao Phusilpa ได้ทุกช่องทางครับ