นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "ปีเตอร์ โฟดิฟาย" เคยเป็นบุคคลล้มละลายมาก่อน เพราะช่วงหนึ่งของชีวิตเรียกได้ว่าดังมากๆ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเพลง โฟดิฟายนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วางรากฐาน! “เจเน็ต เขียว” ปัดทิ้งวงการไปทำสวน! รับย้ายไปอยู่โคราชถาวร
- สุดซึ้ง "เต๋า" พี่สาว เผยแชท "แต้ว" เล่าวินาทีพ่อมาหา
- สละโลด สดชื่น! "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" ประกาศข่าวดี "เนเงิน" ขอแต่งงานแล้ว!
ล่าสุด ปีเตอร์ เปิดเผยว่า เมื่อปี 56 ตนโดนฟ้องล้มละลายจากการที่ตนไปซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งที่พัทยาประมาณ 5 ล้านบาท แล้วพอมาถึงปี 40 ฟองสบู่แตก จึงไม่สามารถที่จะผ่อนบ้านได้จึงโดนยึด จากนั้นตนก็พยายามปลดล็อค แล้วปี 60 จึงพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย พอมาปีที่แล้ว เจอสถานการณ์โควิด 19 มันเหมือนกับตอนนั้นเป๊ะๆ เลย ทุกอย่างแย่มาก ไม่มีงาน โดนลดราคา ยอมรับว่าเข็ด กลัวว่าจะถูกฟ้องล้มละลายอีก กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม
ปีเตอร์ อัปเดตเรื่องงานให้ฟังว่า ตั้งแต่มีโควิด 19 ก็โดนยกเลิกงานราว 16 คิว รายได้ที่หายไปก็เหยียบล้าน ยอมรับเลยว่าเสียดายมาก แต่ก็ไม่รู้จะหาเงินจากทางไหนแล้ว ธุรกิจที่คิดไว้คือเปิดห้องซ้อมดนตรี แล้วพอมีโควิด นักดนตรีที่ไหนจะมาซ้อม หรือจะให้ขายของตนก็ทำไม่เป็น ตนจึงต้องอยู่กับมันให้ได้แบบมีสติ
ชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
"ชีวิตตอนนี้ก็อยู่แต่ในบ้านโควิดมางานเดือนธันวา-มกรา ก็โดนยกเลิกหมดเลยทั้งหมด 16 คิว ยังมีหวังตอนเดือนกุมภานี้ มันยังมีติดพวกคอนเสิร์ตอยู่อีก6คิว ก็คิดว่าสั่งทีมงานและนักดนตรีซ้อมกันให้เข้มข้นเพื่อจะไปแสดงเพราะว่าถ้ามันลื้อเวทีนานๆการแสดงมันจะไม่เปะ ก็ถือว่าย่ำแย่ครับ กับการใช้ชีวิต เพราะมันอยู่แต่ในบ้าน"
อย่างก่อนหน้านี้ที่ไปออกรายการคุยแซ่บโชว์แล้วบอกว่าโดนฟ้องล้มละลายอัพเดทชีวิตหลังจากนั้นได้ไหม
"มันเกิดมาตั้งแต่ปี56แล้วครับ ผมโดนฟ้องล้มละลายมันเป็นเรื่องจากที่ผมไปซื้อบ้านไว้ มันนึกถึงเหมือนครบรอบโควิด ปี39ผมซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งที่พัทยาประมาณ 5 ล้าน แล้วพอมาถึงปี40 ฟองสบู่แตก คงจำกันได้เนาะ ก็เหมือนกับโควิดเนี่ยแหละ คือฟองสบู่แตกต้มยำกุ้งทุกอย่างมันจบหมด ผมทำงานร้องเพลงที่คาเฟ่ ตอนนั้นยังไม่ได้ออกอัลบั้ม เดือนหนึ่ง 2หมื่น5 ต่อที่ มันก็ได้ 5หมื่น จัดรายการวิทยุอีกสองรายการ รายได้ผมเดือน 8หมื่น กว่าบาท ในยุคนั้นในยุคปี40 พอต้มยำกุ้งมาผมก็ไม่สามารถที่จะผ่อนบ้านได้ บ้านก็เลยโดนยึด แล้วก็มาโดนฟ้องล้มละลายในประมาณปี 55 หรือ 56 นี่แหละ ก็เลยแย่มันเหมือนกับโควิดตอนนี้เป๊ะเลย มันไม่มีงาน ทุกอย่างโดนลดราคาโดนอะไรหมดเลย มันเหมือนมาบรรจบครบรอบมันจริงๆโควิเกับฟองสบู่เหมือนกันเลย"
แล้วตอนนี้ยังเป็นบุคคลล้มละลายอยู่มั้ย
"ไม่เป็นแล้วครับผมล้มละลายไป 3 ปี 56-59 พอปี 60 ก็ปลดล็อกแล้ว ตอนนี้ก็ประมาณ3ปีแล้ว"
แล้วตอนนี้กลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยไหม
"อ่ ไม่แล้วครับ เพราะว่าผมไม่เป็นหนี้แล้ว ผมเข็ดแล้ว ผมก็ไม่สร้างหนี้แล้ว ก็ชีวิตสบายขึ้นเพราะไม่มีหนี้ แค่รับผิดชอบลูกน้องที่เป็นนักดนตรีแดนเซอร์ของเรา เวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ตเรารับผิดชอบตรงนี้ ตอนนี้ใช้อะไรก็ต้องระวังอย่างเดียว พยายามอย่าเป็นหนี้ดีที่สุด"
สมาชิกเยอะไหม
"แดนซ์เซอร์ 6 นักดนตรี 5 ก็11- 12 คนครับ รวมคนขับรถด้วย"
แล้วพอไม่มีงานทำยังไง
" ก็จะบอกทีมงานแดนเซอร์ทุกคนว่า ตอนนี้ไม่มีงานให้อยู่แต่บ้านใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ถ้าคนไหนไม่มีเงินก็ให้โทรมาบอกหัวหน้า ก็ Support เขาอยู่ เดือนนึงก็เอาไปคนละ 3000 ก่อน ใครหนักหน่อยก็เอาไปเดือนละ 5000 ทำงานเดี๋ยวเขามาใช้หนี้เราย้อนหลังได้ครับ ช่วยๆกัน"
แล้วให้เรามีซัพพอร์ตตลอดไหม
"มีครับเราก็เตรียมไว้ แต่ถ้าบางครั้งถ้ามันน้อยไป เราก็ต้องบอกลูกน้อง อย่างเค้ามาบอกว่า หัวหน้าต้องการ 3000 ผมก็จะบอกว่า 2000 ก่อน 1500 ก่อนเอาเขาอยู่ได้ ถ้านานไปกว่านี้เกินสามเดือนมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ก็ต้องอยู่กันได้ด้วยสติและอย่าตื่นอะไรกับมันมาก"
โควิดชมันกลับมาอีกท้อไหม
"อันแรกที่โดนไป มันตื่นเต้นมันเหมือนกับเป็นงานใหม่ งานยกเลิกคือมันแบบ เฮ้ยได้อยู่บ้าน งานยกเลิกมันยังสนุกอยู่ แต่พออันสองนี่หนักกว่าอันแรก พอโควิดเข้ามารอบสอง รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว มันไม่ใช่ของเล่น มันผ่านไป7เดือนแล้วมันมาอีกนี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว มันหนัก เราจะต้องไม่ประมาท ทุกวันนี้ทำอะไรไม่ประมาทเลย แม้กระทั่งขับรถ การใช้เงินก็ไม่ประมาท"
รอบนี้มันกระทบหนักกว่ารอบแรกไหม
"กระทบมากกว่ารอบแรก 100% เป็น โควิดอบแรกมันยังมองว่าเป็นแฟชั่น เข้ามาไม่รู้เรื่องเลย อยู่บ้านก็อยู่ ดูข่าวเขาให้อยู่บ้านก็อยู่ เฮฮา เพราะว่ามันยังมีทุน ตอนนี้ทุนมันหมดแล้ว คนมันเดือดร้อนกันทั่วประเทศ เราจะมามองเป็นเรื่องสนุกไม่ได้แล้ว "
งานที่ถูกยกเลิกไปหมดแล้วมูลค่าประมาณเท่าไหร่
"ผมรับงานทั้งวงรวมแดนซ์เซอร์ไม่แพง ผมรับอยู่ที่ 50,000 หรือ 45,000 คือโดนยกเลิกไป 16 คิวลองบวก ดูสิครับ"
เสียดายไหม
"โอ้โหถามว่าเสียดายไหม เป็นคำถามที่อยากตอบมาก เสียดายมาก เสียดายมากผม
หลายคนถามว่าทำไมพี่ปีเตอร์ไม่หารายได้ทาง อื่น คือตอนนี้มันใกล้จะสำเร็จแล้ว แต่ว่ามันก็เกี่ยวอีกแล้วแหละ ผมอยากจะทำอยากจะสร้างห้องซ้อมดนตรี 3ห้อง ใหญ่ กลาง เล็ก เวลานักดนตรีมาซ้อมเราจะได้เก็บค่าชั่วโมง แต่พอโควิดมา นักดนตรีเขาก็ไม่ได้มาซ้อมอีก อาชีพที่ผมเตรียมสำรองไว้มันก็โดยตรงกับโควิดอีก ก็ไม่รู้จะทำยังไงค้าขายก็ไม่ค่อยถนัด(หัวเราะ) ก็เลยเปิดร้านห้องซ้อมดนตรี แต่ก็ไม่ท้อ มันมาได้ก็ต้องไปได้ เราต้องอยู่กับมันให้ได้แบบมีสติครับผม".