แฉวีรกรรมป้าถูกทุบรถ ตัวจริงสุดแสบยิงปืนไล่โจ๋ - ขว้างหินใส่ชาวบ้าน เจ้าตัวปิดปากงดจ้อสื่อ (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “เจ๊มอยV+” แชร์เรื่องราวเตือนภัยผู้ที่ใช้ถนนซอยบงกช 65 ว่าใช้เส้นในซอยดังกล่าวแล้วถูกเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ปล่อยสุนัขออกมาไล่กัด จนตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ล้ม แล้วถูกเจ้าของบ้านยิงปืนขู่มาจากข้างในบ้าน

ล่าสุดวันที่ 3 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ซอยบงกช 65 อยู่ในพื้นที่ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นบ้านอยู่ช่วงกลางซอย มีประตูเหล็กกั้น และปิดบ้านเงียบ ภายในบ้านพบสุนัข เห่าอยู่ 1 ตัว ซึ่งที่สังเกตเห็นเป็นสุนัขพันธ์ไทย บริเวณหน้าบ้านเป็นถนน 2 เลน แต่ 1 เลนด้านที่ติดกับบ้าน มีรถยนต์เก่า 1 คัน ถูกวางขวางไว้ 1 เลน อีกทั้งยังมีแท่นปูน 6 เหลี่ยม มาวางกันทางไว้ตลอดช่วงหน้าบ้าน

ทีมข่าวพยายามกดกริ่งเรียก และตะโกนเรียกอยู่นาน แต่ก็ไม่พบว่าเจ้าของบ้านจะออกมา มีเพียงเสียงสุนัขที่ขู่และเห่าออกมาจากบ้านตลอดเวลา 

จากนั้นทีมข่าวเดินทางเข้าไปพูดคุยกับนายธนโชติ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันที่ 29 ธ.ค.63 ตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ กำลังจะกลับบ้านแถวคลองหลวง เลยเข้าซอยบงกช 65 เป็นครั้งแรก เนื่องจากซอยที่เข้าประจำมีการก่อสร้างทำถนน เมื่อตนขี่เข้ามาในซอยผ่านบ้านหลังดังกล่าว เจอประตูบ้านแง้มไว้ จากนั้นมีหมาวิ่งไล่เห่าตน 4 ตัว แล้วตัดหน้ารถล้ม จากนั้นตนจึงกระโกนด่าหมา เจ้าของบ้านได้ยินก็ชะเง้อมองที่ประตูบ้าน

ขณะนั้นมีเด็กอายุ 16 ปี เป็นคนในพื้นที่ ขี่มอเตอร์ไซต์ผ่านและเข้าช่วยเหลือตน แล้วบอกว่าระวังบ้านหลังนี้มีปืน ป้าเจ้าของบ้านก็ด่าออกมาว่า "ทำไมมีปัญหาอะไร คนอื่นขับรถผ่านไม่เห็นมีปัญหา เห็นขับเข้ามาหลายรอบแล้วไอ้พวกเด็กเวร" จากนั้นตนเกิดอาการหัวร้อน ด่ากลับเพราะเจ้าของบ้านปล่อยให้สุนัขออกมาจากบ้าน จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงดังคล้ายปืน 3 นัด แต่ในคลิปถ่ายไว้ไม่ทันนัด 2 นัดแรก จากนั้นเจ้าของบ้านก็เรียกหมาเข้าบ้าน โดยที่ไม่มีการออกมาดู

ทั้งนี้ตนได้บาดเจ็บ มีรอยถลอกเล็กน้อย รถมอเตอร์ไซค์ถลอกเพราะล้ม แต่ไม่โดนสุนัขกัดเพราะคนช่วยไว้ทัน จากนั้นไม่นานป้าเจ้าของบ้านโทรแจ้งตำรวจมา โดยขับรถกระบะส่วนตัวสีดำ ไม่แสดงบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่ และไม่สวมเครื่องแบบ บอกว่าจะเอาตนและเด็กชาย วัย 16 ปี ไปโรงพัก แต่ไม่มีใครกล้าไปเพราะไม่รู้เป็นใคร ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้แจ้งตำรวจเอาความแต่อย่างใด เพราะตนจะรีบไปต่างจังหวัดกับที่บ้าน

ส่วนตัวไม่อยากให้มารับผิดชอบอะไร แต่อยากให้รับผิดชอบสังคม การเลี้ยงสุนัข ถ้ารู้ว่าดุก็ควรปิดประตูบ้านให้ดี ๆ ควรใจเย็นค่อย ๆ พูดจากัน การยิงปืนขู่แบบนี้ก็เกินไป ที่ตนแชร์เรื่องราวที่พบเจอมานั้น เพราะอยากเตือนภัยว่า ถ้าเข้ามาซอยนี้ให้ระวัง ไม่มีเจตนาที่จะเอาผิดใคร

จากนั้นทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนางปุ๊ก ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า พฤติกรรมเจ้าของบ้านหลังนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่เอือมกันหมด เพราะวีรกรรมค่อนข้างเยอะ ชอบปล่อยสุนัขออกมาไล่คนที่ขับรถผ่านหน้าบ้าน เหมือนกับว่าแกล้ง ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพันธุ์ไทย แต่ก่อนมีเลี้ยงร็อตไวเลอร์ 1 ตัว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว

สำหรับนิสัยส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ไม่ค่อยมีใครรู้ เพราะไม่มีใครอยากสุงสิงด้วย ปากจัดชอบด่าทุกคนที่ผ่านหน้าบ้าน ตนก็เคยเห็นถือปืนแกว่งไปมาอยู่หน้าบ้าน ก็ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนี้ กับหลานชายของตน อายุ 16 ปี ก็เคยขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าบ้าน แล้วถูกเจ้าของบ้านยิงปืนขู่มาจากด้านในบ้าน

ส่วนตนก็เคยขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่าน ถูกดักสาดน้ำใส่ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 63 ตนเคยขึ้นศาลเป็นคดีความ เพราะแม่ของตนเดินไปใส่บาตรในซอยบ้าน แต่ถูกเจ้าของบ้านตั้งใจขับรถปาดหน้า แม่ที่ป่วยเป็นความดัน และโรคหัวใจ ก็ตกใจช็อกแล้วล้มลง จึงต้องฟ้องร้อง แต่ก็ถูกยกฟ้องเนื่องจากสำนวนไม่มีน้ำหนัก

ทั้งนี้ล่าสุดตนก็ถูกเจ้าของบ้าน ปาหินใส่รถยนต์ของตนที่กำลังขับผ่าน ตนก็ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และเข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากยุ่ง หลายคนก็เริ่มชิน เพราะเจ้าของบ้านนิสัยเป็นแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ช่วงหลังมานี้กลับยิ่งหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ถูกหมากันบ้าง โดนตะปูเรือใบบ้าง แต่ก็ไม่มีใครฟ้องเพราะฟ้องไปก็เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากให้มีคนเอาจริงเสียที ขนาดเทศบาลจะมาทำถนนใหม่ ก็ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำ เจ้าของบ้านนำรถคันเก่า พร้อมแท่งปูนมากั้นเอาไว้ เรื่องก็ยังฟ้องร้องกันอยู่ระหว่างเทศบาลและเจ้าของบ้าน เนื่องจากถนนดังกล่าวเป็นทางสาธารณะ ทุกคนสามารถใช้งานได้ ไม่ใช่เป็นของคนใดคนหนึ่ง และการที่พกปืนแบบนี้ ถึงจะมีใบอนุญาตแต่ตนก็มองว่าใช้โดยพลการและเหตุสมควร

จากนั้นทีมข่าวได้โทรศัทพ์ติดต่อไปพูดคุยกับน.ส.ผกามาส กิตติดวงรัตน์ อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังเข้าเวรทำงานอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ขอให้ข่าวอะไรแล้วเนื่องจากเรื่องจบไปแล้ว และไม่ให้ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของตนอีก ส่วนประเด็นเรื่องยิงปืนขู่นายธนโชติ ตนไม่รู้ จำอะไรไม่ได้แล้ว ก่อนจะตัดสายทิ้ง