“ดีเจมะตูม” เปิดใจยอมรับผิดทุกอย่าง ไร้จิตสำนึกต่อส่วนรวม ลั่นคำด่าทอมันแฟร์แล้ว

หลังจากที่ได้ออกมาประกาศว่าตนเองติดเชื้อ โควิด-19 สำหรับ “ดีเจมะตูม เตชินท์” โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ล่าสุดจนทำให้มีกลุ่มเสี่ยงในครั้งนี้จำนวนหลายคนวันนี้ครบ 15 วันหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโดยวันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ดีเจมะตูมได้ออกมาโพสต์ผ่านเมื่อเวลา 14.00 น. เป็นการเปิดใจครั้งแรกและอัพเดทหลังจากเจ้าตัวติดเชื้อ โควิด-19 ในครั้งนี้ โดยเจ้าตัวได้ระบุว่า 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กลั้นความเจ็บ "มะตูม" แจงดราม่าการศึกษา ลั่นไม่ได้จบป. ตรี - ไม่เคยพูดเรียนม.ศิลปากร จบสูงหรือต่ำก็ติดโควิดได้หมด
- เปิดใจ "แต้ว" กลับมาทำงานแล้ว ครบ 21 วันตรวจอีกรอบ เผยคุยกับ "มะตูม" ให้รักษาชีวิตตัวเองก่อน
- ตำรวจเผยข้อมูล "ดีเจมะตูม" เปิด 3 ห้องจัดงานปาร์ตี้ต่อ เข้า-ออกห้องจำนวน 26 ครั้ง!!

มะตูม เผยว่า วันนี้ยังพบเชื้อโควิดอยู่ แต่ยังไม่มีโรคแทรกซ้อน รอผลเอกซเรย์ปอด ซึ่งโดยรวมถือว่าปกติดี เหลือเพียงซากของเชื้อเท่านั้น ซึ่งคุณหมอให้กลับไปกักตัวเองอยู่บ้านได้ แต่ตัดสินใจอยู่โรงพยาบาลต่อ เพื่อตรวจหาเชื่ออีกทีหนึ่ง

ประเด็นวันนี้ที่อยากพูดถึงกรณีการจัดงานวันเกิด วันที่9 มกราคม มะตูม เผยว่า เราตัดสินใจไปรับประทานอาหาร ซึ่งเราไปเจอที่โรงแรมบันยันทรี สาทร เน้นแค่เพื่อนสนิทจริงๆ ยืนยันว่าไม่มีดาราจริงๆ และได้มีการเปิดห้องพัก 3 ห้องใหญ่ นอนได้ประมาณ 6 คน ซึ่งทางโรงแรมฯ ได้มีมาตรการคัดกรองที่เข้มงวดมากๆ ตูมจองไว้ 8 ที่นั่ง แต่เมื่อถึงเวลางาน มีเพื่อนมาเพิ่มเรื่อยๆ เบ็ดเสร็จคือ 14 ที่นั่ง  การเสิร์ฟอาหารจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส และไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ ที่เห็นเป็นแก้วคือ มอกเทล เป็นน้ำส้ม พอช่วง 1 ทุ่มครึ่งพนักงานจะมาถามแล้วว่ารับของหวานไหม เพราะเก็บโต๊ะตอน 3 ทุ่มตรง จากนั้นก็ลงลิฟท์ ผ่านล็อปบี้ เจอกับน้องๆ ที่เอาของขวัญมาให้ถ่ายรูป ส่วนที่พักคนละที่กับที่กินข้าว

ส่วนประเด็นที่มีการจั่วหัวข่าวว่า มีการเปิดห้องปาร์ตี้ต่อ ตูมขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นปาร์ตี้ ขอพูดตามข้อมูลจริงๆ ห้องหนึ่งอยู่ได้ 5-6 คน ตอนนั้นมีเพื่อนที่จะมาหาเรา เอาของขวัญมาให้ที่ห้องเพราะมาไม่ทันตอนทานข้าว แค่แวะเอาของขวัญมาให้แค่นี้ เรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ในห้อง ตูมยอมรับว่ามีการดื่มเหล้าในห้องจริง ซึ่งไม่ใช่มาจากของโรงแรม เป็นเพื่อนที่ถือมาให้ จะมาโกหกว่าไม่ดื่มเหล้าในห้องก็ไม่ได้ เพราะเราคิดว่าอยู่ในห้องส่วนตัวแล้ว แต่เราก็ทำผิด และขอยอมรับแค่เพียงผู้เดียว เพราะถือว่าเป็นแม่งาน ซึ่งตรงนี้ไม่รู้ว่าตูมจะโดนข้อหาอะไรบ้าง

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้มีการมาเก็บหลักฐาน มาตรวจสอบเรียบร้อยตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแถลงไปแล้ว ตูมยอมรับว่าการ์ดตก เพื่อนของตูมไปพื้นที่เสี่ยงมา แล้วเอาเชื้อมาแพร่ในห้อง ซึ่งนั่งชนแก้วกัน ส่วนตูมมีวิ่งเข้าอกห้องและออกมาหาน้องที่แแวะมาหา และเลิกกินเหล้ากันประมาณตี 2 ตูมก็แยกไปนอน และมีการเปิดมินิบาร์ ตูมยอมรับผิด ตูมขอโทษครับ ตูมทราบว่าเป็นความผิดที่ยากจะให้อภัย

อย่างไรก็ตาม พอตูมมาทราบว่าเพื่อนคนหนึ่งติดโควิดจากการมางานวันเกิดตูม ตูมตรวจหาเชื้อทันที ไม่เกิดครึ่งชั่วโมงตูมรีบแจ้งทุกคนทันที ตูมขอโทษที่ไปกินข้าวในวันเกิดของตัวเอง ตูมขอโทษจริงๆ ตูมรู้สึกผิดจริงๆ ส่วนไทม์ไลน์ ที่บอกว่า ทำไมไม่ใส่ว่าไปเชียงใหม่ ตูมไปจริง แต่แทบไม่เจอใครเลย ซึ่งในข่าวที่บอกว่าไปผับเชียงใหม่ ไม่จริงนะครับ ดังนั้นไม่อยากให้พาดพิงจังหวัดที่เขาฟื้นตัวแล้ว เหตุการณ์ที่แพร่เชื้อโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นวันเกิดที่ 9 ม.ค. มาจากเพื่อนที่ไปพื้นที่เสี่ยงมาแล้วมาแพร่ต่อในงาน

จากงานวันเกิดตูม มีคนติดเชื้อ 8 คน ทุกคนออกจากโรงพยาบาลกันแล้ว หายแล้ว เหลือแต่ "ข้าวโอ๊ต" ซึ่งส่วนตัวไม่รู้ว่า ข้าวโอ๊ต เป็นดารา ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีดาราในงาน ต้องขอโทษจริงๆ ไม่รู้ว่าน้องเป็นดารา น้องเป็นแฟนของน้องตูม ตูมเจอเขา 4-5 ครั้ง และไม่ทราบจริงๆ ว่าเขาเป็นดารา ทราบพร้อมทุกคน ขอโทษที่ทำให้น้องต้องติดกลายเป็นคลัสเตอร์

"ถ้าตูมเลือกจะอยู่บ้านในวันเกิดตัวเอง ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ และไม่มีใครเดือดร้อน ตูมจะให้คำว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ไม่ได้ เพราะตูมก็รู้แหละ อายุ 30 กว่าแล้ว จะใช้คำว่าหละหลวมก็ไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นในงานวันเกิดตูม ขอใช้คำว่า ตูมไร้จิตสำนึกต่อส่วนรวมครับ วันนี้ตูมได้รับคำตักเตือน และด่าทอมากมาย มันแฟร์ครับ ตูมผิด สมควรได้รับโทษ และหลังจากที่ตูมได้รักษาตัวจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ตูมพร้อมจะรับโทษทุกข้อกล่าวหา ตูมพร้อมรับผิด เรื่องที่มีคนโจมตีว่ามะตูมติดโควิดตั้งแต่เดือนพ.ย. ปีที่แล้ว ตอนนี้ก.พ.แล้ว ปอดตูมคงไม่เหลือ คงตายแล้วครับ ตูมก็รักตัวกลัวตายเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องการใช้สารเสพติด ไม่จริงนะครับ ไม่รู้จะหาหลักฐานอะไรมา เล่าว่า มีการฉีดเข้าเส้นต่างๆ คนที่พูดไม่ใช่คนที่อยู่ในงาน"

นอกจากนี้ มะตูม ยังเผยถึงกรณีที่มีการอ้างว่าจ้างนายแบบมาเอ็นเตอร์เทน น้องๆ บางคนตูมไม่เคยเจอในชีวิต บางคนเจอแค่ในอีเวนต์เรื่องบ้านที่รังสิต 50 คน เซ็กส์หมู่ ไม่ใช่นะครับ ตูมไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับคนขนาดนั้นส่วนข่าวที่ว่าใส่ท่อหายใจจะตายแล้ว ไม่จริงนะครับ ไม่เคยใส่ท่ออะไร รักษาปกติ

และเรื่องประวัติการศึกษา (ยกมือไหว้) ตูมขออนุญาตพูดชื่อมหาลัยนะครับ ตูมไม่เคยพูดว่าจบอักษรศาสตร์ มหาลัยศิลปากร ตูมจบที่เยอรมันครับ และพูดแต่ที่เยอรมันตลอด ไม่ต้องขุดครับ ตูมไม่ได้จบปริญญาตรี ตูมเรียนไม่จบครับ ออกมาสายอาชีพ ไม่ได้อยากได้ใบปริญญา และออกมาทำงงานกับคุณแม่

ตูมรู้สึกว่า ทำไมถึงขุดไปถึงเรื่องการศึกษา การศึกษาไม่ได้บอกว่าเราเป็นคนแบบไหน ตูมเรียนไม่จบ หรือเรียนจบไม่ได้แปลว่าไม่ติดโควิด มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องโควิดเลย ส่วนชาวศิลปากรที่ออกมาด่าตูม ตูมเข้าใจนะครับ แต่ตรงนี้ตูมไม่เคยพูด ไม่จริงก็คือไม่จริงนะครับ  

สุดท้าย ตูมไม่มีอะไรให้คนเชื่อ หรือเข้าใจได้ ขอโทษครับ ตูมไร้ความรับผิดชอบ ไม่ต้องรอให้ใครมาด่า ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน ผู้ใหญ่ทุกคน แกรมมี่ เอไทม์ ทุกๆ เพื่อนในวงการกักตัว ไม่ได้รายได้ เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน  พนักงานโรงแรม ที่ต้องหยุดงาน ไปสอบปากคำทั้งหมดขอ โทษครับ กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ผิดจริงๆ

กลุ่มคนที่อยากขอโทษมากสุดคือ ประชาชน ตาดำๆ ที่ปฏิบัติตัวตามมาตรการทำดี แต่โรคยังหมด เพราะมีคนเห็นแก่ตัวแบบมะตูมอยู่ โครตอายกับสิ่งที่ทำ สมควรได้รับการด่าทอ ที่พวกคุณต้องเหน็ดเหนื่อย เพราะความเห็นแก่ตัวของตูม แย่มากครับ ตูมไม่สามารถทำให้คนที่เกียจตูม มาเข้าใจอะไรตูม มารับฟังตูมได้ ตูมพลาดไปแล้ว

คำขอโทษของตูมจะไม่มีความหมายถ้าไม่สำนึก หรือเปลี่ยนแปลง ตูมรู้ว่าต้องทำ ตูมไม่ได้มาขอโอกาสจากใคร
ขอบคุณกำลังใจที่ส่งมาให้ ถึงมันจะไม่มากแต่มันก็มีคุณค่าสำหรับตูมมาก

ฝากบอกทุกคน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะติดโควิด เพราะคิดว่าแข็งแรง มันไม่ได้เลือกนะคระบ เกิดจากความผิดพลาดจองตัวเองทั้งสิ้น อย่าการ์ดตก มันไม่ดีเลยขอให้ทุกคนระวังตัว

 

 

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

 

 

โพสต์ที่แชร์โดย ดีเจ มะตูม 3659 (@dj_matoom)