จากกรณีเฟซบุ๊ก Athida Rangsinaragon ได้โพสต์คลิปไลฟ์ตัวเองขณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังทำแผล ซึ่งได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก มีเลือดไหลอาบหน้า จากสาเหตุมีแม่ค้าร้านน้ำแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.คลองแห ปาแก้วกระเบื้องใส่หน้า ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อทำการรักษาเย็บบาดเเผลแตกอย่างเร่งด่วน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 เวลา 16.00 น.
ล่าสุด วันที่ 5 ก.พ. 64 น.ส.อฑิดา รังสินรากร อายุ 42 ปี อยู่ที่ซอย 6 นิพัทธ์สงเคราะห์ 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เล่าว่า สาเหตุเกิดมาจากตนได้ไปทวงถามเงินค่าเสียหายจากแม่ค้าร้านน้ำ ซึ่งได้ทำลายทรัพย์สินของตน เป็นโทรศัพท์มือถือ ทำให้แม่ค้าร้านน้ำที่อยู่ในอาการเมาสุรา บวกกับไม่พอใจที่ตนไปทวงถาม จึงได้ปาแก้วใส่หน้าตนทันที
ส่วนที่มาที่ไปตนไปทวงถามค่าเสียหายจากแม่ค้าร้านน้ำนั้น เนื่องจากตนและนางจุม เป็นเพื่อนกันมาก่อน เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ตนและนางจุมได้ทำอาหารส่งตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งผ่านทางออนไลน์ด้วยกัน ตนทำหน้าที่เป็นแม่ครัว หลังเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ตนได้เปิดรับออเดอร์ต่อ แต่นางจุมได้ถอนตัวไปเปิดร้านขายน้ำแทน
โดยช่วงนั้น ขณะที่จะลงมือทำกับข้าว ปรากฎว่าเขียงหั่นผักได้หายไป จึงได้โทรศัพท์ไปทวงถามที่นางจุม จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และตนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปหานางจุมที่บ้านพัก พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอนางจุมเอาไว้
จนกระทั่งนางจุมเปิดประตูบ้าน และยื่นเขียงหั่นผักให้ ก่อนจะมีการโต้เถียงกันขึ้น นางจุมใช้มือเอื้อมมาปัดโทรศัพท์มือถือหลุดจากมือ หล่นลงพื้น จนได้รับความเสียหายจนเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ต่อมาตนจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโดนนางจุมทำร้ายร่างกาย พร้อมกับทำร้ายทรัพย์สินของตนจนพังเสียหาย ตำรวจเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการจ่ายค่าเสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องก็ยังไม่มีการเรียกนางจุมไปสอบปากคำแต่อย่างใด จนกระทั่งตนได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหาดใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับปากจะเป็นคนกลางในการเจรจาครั้งนี้ พร้อมแนะนำให้ตนไปขอเบอร์โทรศัพท์นางจุมมาให้เจ้าหน้าที่ เพื่อพูดคุยในการเรียกพบ ดำเนินการไกล่เกลี่ย ตนจึงได้เดินทางไปที่ร้านขายน้ำของนางจุม และขอเบอร์โทรศัพท์ ก่อนจะชี้แจงให้นางจุมฟังว่าเรื่องได้ถึงศูนย์ดำรงธรรมแล้ว พร้อมกับมีการอัดคลิปไว้ จนเกิดเรื่องขึ้นอีก
ด้านนางโสภิน แสงสว่าง หรือ จุม อายุ 39 ปี คนปาแก้ว ยอมรับว่ามีเรื่องกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีเรื่องกันอยู่ก่อนแล้ว และวันเกิดเหตุอีกฝ่ายบุกมาที่ร้าน ตอนนั้นเพื่อนนั่งกินเหล้ากันอยู่ แต่ตนไม่ได้กิน เขามาถึงไลฟ์สดมาด้วย ก็มาบอกว่าขอเบอร์โทรศัพท์หน่อย ตนก็บอกว่าไม่ให้ ไม่มีอะไรต้องคุยกัน เพราะเรื่องที่เคยมีเรื่องกันมันจบไปแล้ว ให้ผู้ใหญ่เคลียกันไปแล้ว ส่วนเรื่องค่าเสียหายมีคนอื่นที่รับปากว่าจะให้สงสัยว่าเขาไปทวงจากคนนั้นไม่ได้ จึงตามมาทวงกับตน ซึ่งเรื่องนี้มันนานแล้ว และไม่มีใครติดต่อตนมานานแล้ว ตนก็เข้าใจว่าเรื่องจบแล้ว
ส่วนนิสัยของคู่กรณีเป็นคนชอบไลฟ์สดมาก วันที่มาทวงค่าเสียหายกับตน ตนไล่กลับเขาก็ไม่ยอมไปและพูดยั่วให้ตนโมโห พอครั้งที่ 3 ตนเลยเขวี้ยงแก้วแล้วบังเอิญไปโดน ขอถามกลับว่าคนที่ไลฟ์สดมา ใครจะพูดให้ตัวเองเสีย วันนั้นมีแต่เขาที่มายั่วอารามณ์ตน จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว เรื่องนี้ ตนก็จะแจ้งความกลับพราะตนเองก็เสียหายเช่นกัน