นับเป็นศิลปินตลกที่ครบเครื่องเป็นที่สุด สำหรับ "น้าพวง เชิญยิ้ม" ที่มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าเรื่องราวชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการตลก พร้อมเปิดใจเรื่องราวความรักหลังโรงลิเก รับเป็นคนขี้อายแต่ก็จีบนางเอกลิเกแสนสวยมาเป็นภรรยาได้ และเคลียร์ชัด หลังถูกยกให้เป็น "เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประสบการณ์แน่น! เปิดเส้นทางอาชีพนักแสดงคุณภาพกว่า 30 ปี ของ "ต้น จักรกฤษณ์"
- เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ "4EVE" (โฟร์อีฟ) ปลุกกระแส T-POP ให้ลุกเป็นไฟ วงการเพลงต้องสะเทือน!
- "ดีเจเพชรจ้า" เล่าเหตุการณ์ชวนขนลุก เชื่อว่า "ไทก้า" คือกุมารที่มาเกิดเป็นลูกชายของตัวเอง
- คนดูอินจัด! เกือบทำ "หยา จรรยา" ลาวงการ หนีไปเมืองนอก เพราะบท "คนรับใช้"
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
น้าพวง เชิญยิ้ม : ดีใจมากที่ได้มารายการนี้ เห็นเพื่อนๆ ตลกเขามากันเยอะแล้ว
ถาม ต้องบอกว่าน้าพวงเริ่มจากการเป็นลิเกมาก่อน
น้าพวง เชิญยิ้ม : ส่วนมากตลกรุ่นใหญ่ก็เริ่มจากการเป็นลิเกกันเยอะมาก ตอนแรกเราก็ไม่ได้นึกว่าเราจะเข้ามานะ แต่น้าโย่งเขาก็เป็นลิเกแล้วเข้ามาในวงการตลกก่อน แต่ตอนที่เราอยู่ภาคเหนือ เราก็อยู่ด้วยคณะเดียวกัน พองานทางเหนือไม่ค่อยมี เราเลยย้ายเข้ามาเล่นในกรุงเทพฯ แล้วน้าโย่งเขารู้ข่าวก็เลยมาหาเราที่โรงลิเก ตอนแรกที่เจอกัน เราจำเขาเกือบไม่ได้ เพราะเขาสมบูรณ์ขึ้น เปลี่ยนไปเยอะ เขาก็มาชักชวนเราไปเล่นตลก เราก็เลิกเล่นลิเกเลย เราก็ให้อดีตแฟนที่ตอนนี้คือภรรยาเล่นลิเกไปก่อน เขารับบทนางเอกลิเก
ถาม แต่เห็นบอกว่าในยุคนั้น น้าพวงเป็นคนขี้อายมาก โดยเฉพาะเวลาจีบแฟน ชอบแต่ไม่กล้าจีบ
น้าพวง เชิญยิ้ม : ไม่ค่อยกล้าเป็นคนขี้กลัว แต่เราก็ร้องเพลงตามจีบเขาหน้าเวที เวลาที่เขาแสดง จนเขาใจอ่อน แต่เราก็จีบเขาอยู่นานหลายเดือนเหมือนกันแล้วก็ไปสู่ขอกับพ่อกับแม่เขา สินสอดเขาขอสี่พันแต่เรามีสองพัน เขาก็ช่วยเราอีกสองพันก็เลยได้แต่งงานกัน แต่เวลาเข้าหอ เรานอนในโรงลิเก เป็นบ้านของหัวหน้าคณะ ต้องแยกมุ้งกันนอน เราก็ค่อยกล้า เพราะเราเป็นคนขี้เกรงใจแล้วก็คิดแทนเขาว่าเขาพร้อมหรือยัง แต่ภรรยาเขาก็บอกว่าเราไม่ต้องเกรงใจ เปิดมุ้งให้เราเข้าไปหาเองเลย ที่เราทำแบบนั้นเพราะเราตั้งใจแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เขาเห็นว่าเราไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้
ถาม ภรรยาดุไหม
น้าพวง เชิญยิ้ม : ไม่ดุเลย เพราะเขารู้ว่าเราไม่ใช่คนเจ้าชู้ ต่อหน้าเขา เราก็ไม่ค่อยเจ้าชู้ (หัวเราะ) แต่ก็เป็นธรรมดาของผู้ชาย แต่เราไม่ได้ไปมีเป็นตัวเป็นตน มีมองบ้าง มีแซวบ้าง เป็นเรื่องปกติ
ถาม ย้อนกลับไปตอนนั้นเราก็ปล่อยให้ภรรยาเล่นลิเก แล้วเราก็เล่นตลกอยู่กับน้าโย่ง แต่เห็นว่าน้าพวงลาออกไป แล้วเขาไม่รับ
น้าพวง เชิญยิ้ม : พอเราเลิกเล่นลิเก เพื่อไปเล่นตลก น้าโย่งเขาก็ไปฝากเราหลายคณะมาก แล้วสุดท้ายไปอยู่คณะตูมตาม เชิญยิ้ม เขาตั้งคณะ เราก็ไปอยู่กับเขา แล้วน้าโย่งก็เล่นอยู่คณะเดิมเขา แล้วมีวันหนึ่งน้าโย่งโทรมาหาเรา บอกเราว่าเดี๋ยวจะออกจากคณะที่เขาอยู่แล้ว ชวนเราไปตั้งคณะด้วยกัน เราก็ตกลง เราก็ไปบอกพี่ต้อย (ตูมตาม เชิญยิ้ม) ว่าเดี๋ยวน้าโย่งาจะตั้งคณะแล้วนะ เดี๋ยวผมขอลาออกนะ พี่ต้อยก็ดี เขาก็บอกเราว่าไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวหาคนอื่นมาแทน พอลาออกเสร็จเรียบร้อย สักสองวันน้าโย่งโทรมาบอกเราว่ายังออกไม่ได้ ยังมีปัญหา ผู้ใหญ่เขาขอไว้ ยังตั้งคณะไม่ได้ ทำไงดีเรา ก็ไปไหนไม่เป็นเลย เราต้องไปสมัครใหม่ ก็เข้าไปสมัครคณะเดิมพี่ต้อย ตูมตาม (หัวเราะ) เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร
ถาม จากวันที่ต่อสู้ชีวิตมา น้าพวงไม่ใช่ตลกธรรมดา แต่ตอนนี้เขาเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์
น้าพวง เชิญยิ้ม : เปิดเป็นห้องแถวครับ ให้เช่ารายเดือนและรายวัน ไม่ถึงกับเป็นรีสอร์ต มีทั้งหมด 20 ห้อง แล้วก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้าพวง ไปชิมกันได้นะครับ เลียบคลอง 6 ธัญบุรี ยังไงฝากด้วยนะครับ ติดตามดูได้ทาง เฟสบุ๊ค น้าพวง เชิญยิ้ม
Advertisement