เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 เวลา 12.30 น. ร.ต.ท.กนกพล ตราชู รองสว.(สอบสวน) สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า มีพ่อเลี้ยงก่อเหตุฆ่าลูกติดวัย 1 ขวบจนเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานชลบุรี 2
โดยที่เกิดเหตุเปิดเป็นอู่ซ่อมรถบรรทุก 10 ล้อ ภายในห้องพัก พบร่างผู้เสียชีวิต ด.ญ.พราว อายุ 1 ขวบ 11 เดือน อยู่ในสภาพร่างกายเขียวช้ำทั่วร่างกาย มีบาดแผลจากการถูกตีเป็นจำนวนมาก รวมถึงที่บริเวณใบหน้า จากการตรวจสอบคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบน.ส.วรางคณา เกียรติประสงค์ อายุ 25 ปี ผู้เป็นแม่เด็ก ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการเศร้าสลด โดยระบุว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายวรกฤต จิตประสงค์ หรือ เกม อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.ศรีราชา
สอบถามน.ส.วรางคณา แม่เด็ก กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเลิกลากับสามีเก่า ซึ่งมีลูกด้วยกันคือน้องพราว หลังจากนั้นก็ได้มาอยู่กินกับนายวรกฤต ผู้ก่อเหตุ ได้ประมาณ 1 ปี นายวรกฤตก็เริ่มมีอาการหึงหวง กล่าวหาว่าตนว่ามีชายอื่น และคิดถึงสามีเก่า จนเริ่มทุบตีตน อีกทั้งเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มหนักขึ้น ทุบตีลูกสาวตนด้วยไม้แขวนทุกวัน ๆ กระทั่งวันนี้น้องได้เสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำผู้ก่อเหตุและแม่เด็ก ทั้งนี้ได้นำหลักฐานเป็นไม้แขวนเสื้อส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นอู่ซ่อมรถบรรทุก 10 ล้อ ภายในอู่มีห้องพักพนักงานประมาณ 3 ห้อง โดยห้องที่พบศพของด.ญ.พราว อายุ 1 ปี 11 เดือนเป็นห้องสุดท้าย ซึ่งประตูถูกล็อกและไม่มีใครอยู่ในพื้นที่
สอบถามนายประยงค์ (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ญาติผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนไม่รู้ว่า 2 คนนี้มีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาก็ต่างคนต่างอยู่ มาทราบข่าวอีกทีก็วันนี้ช่วงเช้า ตนเพิ่งจะมารู้ด้วยซ้ำว่า 3 คน พ่อแม่ลูกย้ายมาอยู่ที่อู่แห่งนี้ เพราะว่าก่อนหน้านี้อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง คนที่รู้ดีที่สุดของเรื่องนี้คือเขา 2 คน ถามคนรอบข้างไม่มีใครรู้หรอก
ส่วนที่ตนทราบ เพราะว่านายวรกฤต จิตประสงค์ อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุ หลานชายของตน เป็นคนขยันทำงาน และเป็นคนหาเงินเข้าบ้าน ส่วนฝ่ายหญิงไม่ได้ทำงานอะไร แล้วพฤติกรรมก็อาจจะมีในเรื่องของผู้ชายอื่นอยู่บ้าง เพราะตนก็เคยได้ยินหลานพูดให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าหลานจะทำแบบนี้ มองว่าก็โตกันทั้งคู่แล้ว มีอะไรน่าจะพูดคุยกันดี ๆ ได้ดีมากกว่าการลงไม้ลงมือ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้เจอหน้าหลาน เนื่องจากเจ้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ศรีราชา แต่ถามว่าจะประกันตัวหรือไม่ ตนคงไม่ประกันตัว ปล่อยให้นายวรกฤต ได้รับบทเรียน
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.ศรีราชา โดยเข้าไปพูดคุยกับน.ส.วรางคณา เกียรติประสงค์ อายุ 25 ปี แม่ผู้เสียชีวิตอีกครั้ง โดยน.ส.วรางคณา กล่าวว่า ตนคบกันมา 8 เดือน โดยตนมีลูกติด 1 คน เป็นลูกสาว คืนวันที่ 8 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ได้ทะเลาะกันกับนายวรกฤต เพราะฝ่ายชายเข้าใจว่าตนมีชายอื่น ตนยอมรับว่ามีจริง ๆ แต่เลิกแล้ว ซึ่งนายวรกฤตกลับไม่เชื่อ จึงนำอารมณ์โมโหไปลงที่การตีลูกต่อหน้าต่อตาของตน
ทั้งนี้ตนก็ห้ามแล้วว่า อย่าทำลูก แต่นายวรกฤต ก็ไม่ฟัง ที่ผ่านมาก็มักใช้ไม้แขวนเสื้อตี เพราะอ้างว่า ด.ญ.พราว ไม่เชื่อฟัง และเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.64) ตนป้อนข้าวลูกอยู่ แต่ลูกอมข้าว นายวรกฤตก็ใช้ไม้แขวนเสื้อตีปากลูก เด็กจึงมองตาขวาง นายวรกฤตก็ตีซ้ำอีก ตีจนเด็กร้องไห้จนไม่มีเสียงร้อง
กระทั่งก่อนนอน ตนก็ยังเล่นกับลูกตามปกติ ก่อนจะมีรู้อีกทีก็ตอน 07.00 น. ว่าด.ญ.พราว นอนตัวแข็งแล้ว จึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมายังจุดเกิดเหตุ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนพยายามจะพาลูกหนี แต่ก็ถูกขู่ทุกครั้งว่า ถ้าหนีไปแล้วจับได้ก็จะโดนซ้อม ถ้าตนตัดสินใจพาลูกหนีให้เร็วกว่านี้ ลูกก็คงไม่ต้องมามีจุดจบเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังมีความกังวลใจ หากนายวรกฤต ได้รับการประกันตัว กลัวว่าจะหวนกลับไปทำร้ายตนอีกครั้ง เพราะนายวรกฤต เคยพูดขู่ว่าหนีไปที่ไหนก็จะตามไปอยู่ดี สุดท้ายนี้อยากให้ลูกไปสบาย ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้มาเกิดเป็นลูกของตนอีก และจะขอดำเนินคดีกับฝ่ายชายให้ถึงที่สุด หลังจากที่มีการชันสูตรศพ ด.ญ.พราว เรียบร้อยแล้ว จะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดอรัญนิการาม จ.ฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา กำลังสอบปากคำทั้งผู้ก่อเหตุ และผู้เสียหายเพิ่มอยู่ ซึ่งเตรียมออกหมายจับในข้อกล่าวหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย