"หมอช้าง" เผยเคล็ดลับรับความเฮง ห้าทุ่มคืนนี้ ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิงเอี๊ย"

ในเทศกาลตรุษจีน การจัดโต๊ะสักการะเทพเจ้าและบรรพบุรุษถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ งานนี้ "หมอช้าง ทศพร" ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ แนะฤกษ์งามยามดีตอนไหน ต้องไหว้อะไร อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เอิ้นขวัญ วรัญญา" เผยสถานะหัวใจสีชมพู แต่ไม่ลงรูป เพราะชอบโดนทักว่าน้องชายเหรอ?
- เส้นทางตลกรุ่นเก๋า "น้าพวง เชิญยิ้ม" จากลิเกสู่ตลก จากตลกสู่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์!!
- ประสบการณ์แน่น! เปิดเส้นทางอาชีพนักแสดงคุณภาพกว่า 30 ปี ของ "ต้น จักรกฤษณ์"
- เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ "4EVE" (โฟร์อีฟ) ปลุกกระแส T-POP ให้ลุกเป็นไฟ วงการเพลงต้องสะเทือน!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่    

หมอช้าง : ต้องบอกว่าวันนี้เป็นวันไหว้ ตอนเช้าก็ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ อะไรกันไป จะเรียงแบบนี้ จ่าย ไหว้ แล้วก็เที่ยว จ่ายคือ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ไหว้ก็คือวันนี้  11 กุมภาพันธ์ ซึ่งจริงๆ วันนี้เป็นวันสุดท้ายปีเก่า วันสิ้นปีเหมือน 31 ธันวาคม ถามว่าทำไมมาไหว้กันสิ้นปี เหมือนมาขอบคุณบรรพบุรุษ ขอบคุณเทพเจ้าที่ดูแลเรามาตลอด มีการไหว้อีกอย่างหนึ่งคือการไหว้ตอนรับปีใหม่ครั้งแรกของปี เทพองค์ที่คนรอคอยมานานมากแล้วเป็นเทพที่เป็นวอลเปเปอร์อยู่บนมือถือของทุกคน "ไฉ่ซิงเอี๊ย" เทพเจ้าแห่งโชคลาภ วันนี้มาเล่าให้ฟังคือเล่าเรื่องของคืนนี้ คืนนี้จะมีการเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่ เลยจะแนะนำก่อนที่จะไหว้ คนจีนจะมีความเชื่อว่าจะมีกินมีใช้ ข้าวสาร ในบ้านของใครที่โล่งๆ ต้องไปเติมให้ข้าวเต็มถัง เงินเต็มถุง ฤกษ์สำคัญคือตอนห้าทุ่ม ในโหราศาสตร์จีน เราเริ่มต้นวันใหม่ตอนห้าทุ่ม ไม่ใช่เที่ยงคืน เพราะฉะนั้นห้าทุ่มของคืนนี้คือเข้าปีใหม่แล้วนะ พอเข้าปีใหม่แล้วก็เริ่มปีด้วยความเป็นมงคลด้วยการขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ แต่มันมีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่ง เทพเจ้าแห่งโชคลาภแต่ละปีจะมีเรื่องของโหราศาสตร์มาคำนวณด้วยเรื่องทิศทางด้วย ซึ่งปีนี้ตรงกับทิศตะวันออก และบางคนที่มีรูปไฉ่ซิงเอี๊ยอยู่ที่บ้าน ก็เอาลงมาตั้งให้ไฉ่ซิงเอี๊ยหันหน้าเข้าหาเราก็ได้ เพราะว่าของไหว้กลางคืน จะไม่เหมือนกลางวันนะ จะเป็นของเจก็ได้ กลางคืนหลักๆ คือไหว้ผลไม้หรือถ้าจีนหน่อยเขาจะเรียกว่าเจฉ่าย เป็นพวกเห็ดหูหนู ฟองเต้าหู้ เขาจะขายมาเป็นแพ็คอยู่แล้ว พวกนี้จะเอาไปต้มเป็นแกงจืด และข้าวที่หุงแล้ว 5 ถ้วย ดอกไม้ก็ต้องสีที่สดใส เพราะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ปีใหม่ ขนมถ้าเป็นแบบจีน ก็จะเป็นสาคูต้มแดง ผลไม้หลักๆ ก็จะเป็น ส้ม แต่หลักๆ ต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีเวลาไหว้ 2 ชั่วโมงคือห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง พิธีต้องจบ ข้อห้ามมีอย่างเดียว ถ้าในบ้านเรามีคนที่เกิดในปีมะแม ซึ่งเป็นปีชงของปีนี้ ห้ามคนที่เกิดในปีมะแมเป็นคนแรกที่ไหว้ ไหว้ได้แค่ไม่ใช่คนแรก และจะดีมากถ้าคนแรกที่ไหว้คือคนที่เกิดในปีชวด และมีเคล็ดลับอีกนิด ด้วยความที่ไฉ่ซิงเอี๊ยเป็นเทพที่เกี่ยวกับโชคลาภ เงิน ทอง ของอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ การเอากระเป๋าสตางค์มาวางไว้ แล้วเงินที่ได้เป็นอั่งเปา ธนบัตรใหม่ๆ ก็อย่าเพิ่งเอาไปใช้ ให้เอามาใส่กระเป๋าสตางค์ให้เต็มๆ บางคนก็จะถือเคล็ดใส่ 8 ใบ 9 ใบก็แล้วแต่ เราใส่ให้เต็มๆ ก่อน แล้วนำมาใช้ได้ โบราณเขาก็จะมีน้ำแล้วก็มีใบทับทิม พอไหว้เรียบร้อยแล้วเอามาประพรม แล้วก็มาลาของไหว้ ทานนิดนึง เพราะการทานเจตอนรับปีใหม่ ก็เป็นเหมือนกุศโลบายว่าช่วงเวลาที่เข้าปีใหม่เราต้องคิด ต้องทำอะไรเป็นสิ่งดีๆ แล้วก็ครอบครัวก็มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน อันนี้จบของวันนี้

หมอช้าง : พอวันพรุ่งนี้ ตรุษจีน วันเที่ยว หรือบางที่เรียกว่าวันถือ ก็จะมีข้อที่ควรทำคือใส่เสื้อผ้าให้ดูสีสดใส ใครที่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ก็ไปใส่วันนั้น เรียกว่าให้เป็นวันที่มีรอยยิ้ม และสิ่งที่ไม่ควรทำคืออารมณ์เสีย พูดจาไม่ดี โกหก และสิ่งที่ห้ามอีกอันคือห้ามกวาดบ้านในวันนี้ เหตุผลเพราะว่าไฉ่ซิงเอี๊ย ท่านหอบโชค หอบลาภเข้ามาในบ้านเรา จะไปกวาดโชคกวาดลาภทิ้ง หรือถ้าสถานการณ์ดีขึ้นสามารถไปไหว้เจ้าได้บางที่แล้ว ก็อยากแนะนำว่าให้ไปไหว้ในปีใหม่นี้ เพราะจะได้ขอพรตามศาลเจ้า ตามที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือเราไม่ได้จีนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็สามารถไปไหว้พระทำบุญได้ เพื่อเป็นการเติมสิ่งดีๆ เสริมความเฮงในชีวิตของเรา

ถาม จริงไหมที่เขาว่าวันนี้ห้ามใช้เงิน

หมอช้าง : เงินใช้ได้ แต่เงินบางอย่างที่เป็นเงินขวัญถุง อั่งเปา ก็ต้องเก็บไว้ เพราะว่าวันถือกับวันเที่ยวเหมือนเป็นการเริ่ม การหยุดพักผ่อน การเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน เหมือนเป็นการเปลี่ยนฤดูกาลใหม่ คำนวณจากปฏิทินพระจันทร์แต่ละปีถึงไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นการหยิบบางอย่าง เช่น พวกของมีคม เขาก็จะหลีกเลี่ยง ใครจะตัดผม ทำอะไรก็ไม่ควร แต่ก็อยากจะบอกว่าแต่ละที่ แต่อันก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญที่มาเล่าให้ฟังก็เพราะว่าอยากให้ย้ำกันในคืนนี้ก่อน คืนนี้เป็นเหมือนเคาท์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่อย่างแท้จริง และที่สำคัญคือปีมะแม เป็นปีที่เป็นเจ้าภาพในการชง ลำดับต่อๆ มาคือ ฉลู จอ มะเมีย


หมอช้าง : ประเพณีตรุษจีน เน้นความดีข้อหนึ่งคือความกตัญญู คนเราถ้ามีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ แม้กระทั่งท่านล่วงลับไปแล้ว ถ้าเรายังอยู่มีบรรพบุรุษเฝ้ามองเราอยู่ ท่านที่คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่กับเรา การดูแลอุปการะท่านความกตัญญูเป็นอะไรที่ดีมาก โดยเฉพาะใครที่ปีชง แต่ดูแลพ่อแม่ครอบครัวดีอยู่แล้ว บางทีเราไม่ต้องไปทำพิธีอะไรให้วุ่นวายเลยก็ได้ แต่ถ้าหากอะไรที่เราไม่สบายใจจริงๆ เป็นปัญหาที่ใจ ไม่ได้เป็นปัญหาที่ดวง เพราะบางทีปัญหาที่ดวง มันก็ยังมีทางแก้ได้ แต่ถ้าเป็นปัญหาที่ใจ ก็ไปสักหน่อยก็ได้เพื่อความสบายใจ แต่เราก็ดูเรื่องระยะห่าง เพราะไปไหว้พวกนี้ยืนกันแบบไม่ได้เว้นระยะห่าง เชื่อว่าในปีฉลูทองนี้ อย่างน้อยพ้นปีชวดไปสักที เพราะปีชวดที่ผ่านมา แต่ละเรื่องคือโหดร้าย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้กลับมาอีก


ถาม โดยรวมแล้วหลังตรุษจีนปีนี้ จะดีขึ้นไหมเทียบกับปีที่แล้ว

หมอช้าง : ผมว่าดีขึ้น ตอนนี้มันมีปรากฏการณ์อันหนึ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายมกราคมมาแล้ว แล้วก็แรงมากในช่วงสองสัปดาห์นี้คือดาวรวมตัวกันห้าดวง ทำให้ชีวิตเกิดความวุ่นวาย ไม่ใช่แค่เมืองไทย แต่ทั้งโลก จะมีจุดที่พีคอยู่ ซึ่งปรากฏการณ์อันนี้ส่งผลต่อราศีมังกรและราศีกรกฎ แต่ว่าพอหลังตรุษจีนไปแล้ว บังเอิญมันมาเปลี่ยนใกล้กันพอดี ปรากฏการณ์ที่ดาวมารวมตัวกันห้าดวงก็จะค่อยๆคลี่คลายลง พอเลยจากตรงนี้ไปมีนาคม เมษายน ดาวพฤหัสเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นครั้งเดียวในปีนี้ ก็จะส่งผลให้สถานการณ์ต่างๆไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจริงๆ ที่ผมเคยมาแล้วเคยพูดเรื่องโควิดตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ที่มาบอกว่าโควิดจะกลับมาใหม่อีกครั้ง ก่อนที่โควิดจะกลับมาไม่กี่วัน และหลังจากสงกรานต์คือปีใหม่ไทย สถานการณ์จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ ใครที่กำลังรู้สึกท้อแท้