ยิงสนั่นค่ายทหาร! ปลิดชีพ "หมวดบอล" พยานเผยนาทีรัว 3 นัด เมียปูดปมขัดแย้งหัวหน้า (คลิป)

กรณีร.ต.ท.วัตรสันณห์ เนตรหาญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดนครพนม 1669 ว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยส่งต่อมาจาก รพ.ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงให้ไปร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เวร รพ.นครพนม ในห้องฉุกเฉิน เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ก.พ.64 ที่ผ่านมา 

ภายในห้องฉุกเฉินพบศพผู้ตายเป็นชาย ทราบต่อมาชื่อว่า ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ หรือ หมวดบอล อายุ 34 ปี ตำแหน่งหัวหน้าหมวดดุริยางค์มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ค่ายพระยอดเมืองขวาง

สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณศีรษะ และลำคอ รวม 3 นัด โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง กางเกงกีฬาผ้าร่มสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำคาดขาว ส่วนหน้าห้องฉุกเฉินมี รปภ.ได้ออกมากันญาติผู้ป่วยที่มารอออกไปอยู่ด้านนอก คงเหลือไว้เพียงผู้ป่วยเท่านั้น ขณะที่ด้านนอกอาคาร มีกลุ่มคนลักษณะคล้ายทหารเดินไปมา โดยมีรถตู้ รพ.ค่ายพระยอดเมืองขวาง จอดอยู่ริมฟุตพาท

พล.ต.สามารถ จินตสมิทธิ์ ผบ.มทบ.210 เปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพใด ๆ ภายในค่ายพระยอดเมืองขวางอย่างเด็ดขาด

พล.ต.สามารถจินตสมิทธิ์ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่คนนอก แต่น่าจะเป็นคนในหน่วย เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของหมวดบอลตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าน่ามีคนร้ายมากกว่า 1 คน คนดูต้นทางกับคนยิง ซึ่งคนร้ายรู้ทางหนีทีไล่ในค่ายเป็นอย่างดีและรู้ว่าด้านหลังค่ายมีการสร้างรั้วใหม่ จึงน่าเชื่อว่าคนร้ายจะใช้ช่องทางนั้นหลบหนี

สำหรับอาวุธที่คนร้ายใช้สันนิษฐานว่าเป็นอาวุธปืนลูกโม่ เพราะไม่พบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จะเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง ความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

ล่าสุดวันที่ 11 ก.พ.64 พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ช่วงเช้าได้ประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน ตั้งประเด็นไว้ 3-4 ประเด็น คือ ชู้สาว ยาเสพติด การขัดแย้งส่วนตัว และประเด็นยิงผิดตัวหรือไม่ เนื่องจากประเด็นหลังสุดทางญาติได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ไว้ด้วยว่ารถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่ไปเหมือนกับรถจักรยานยนต์ของคนในค่าย 3-4 คัน จึงเป็นประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามได้

ทั้งนี้เจ้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนปมขัดแย้งภายในหน่วยงาน ได้สอบถามผู้บังคับบัญชาของหน่วยแล้ว เป็นเรื่องการลงทัณฑ์ทางวินัย และทางปกครองเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหมู่ของข้าราชการทหารตำรวจ เป็นขนบธรรมเนียมในหน่วย ไม่น่าจะเป็นถึงขั้นรุนแรงที่จะปองร้ายเอาชีวิตกัน เพราะเป็นเรื่องระเบียบวินัยในหน่วยงาน

หลังจากเกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางประตูด้านหลังค่ายฯ ตรวจสอบแล้วเป็นประตูเข้า-ออกได้ตามปกติเหมือนเป็นช่องทางลับอีกช่องทางหนึ่ง หรือช่องทางธรรมชาติ ซึ่งสามารถเข้า-ออกได้ ส่วนการยิงในลักษณะไหน ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนเชิงลึกอยู่ว่า คนร้ายถนัดมือซ้ายหรือขวา

“จากการสอบสวนเบื้องต้นคนร้ายน่าจะมีคนเดียวใช้รถจยย.เป็นพาหนะส่วนจะเป็นคนภายในหรือภายนอกอยู่ระหว่างสืบสวนส่วนศพร.ท.รุ่งเฉลิมหรือหมวดบอลได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชรพ.ศรีนครินทร์จ.ขอนแก่นเพื่อผ่าเอากระสุนออกว่าเป็นชนิดไหนกันแน่เบื้องต้นหลังตรวจที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะใช้ปืนลูกโม่ก่อเหตุยิง3นัดที่ลำคอ1นัดรักแร้และใต้รักแร้อีก2นัด

ด้านการแกะรอยติดตามคนร้าย ขอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเชิงลึก น้ำหนักในการพุ่งเป้ายังไม่ตัดประเด็นไหนทิ้ง ก็จะต้องสืบสวนให้ครบทุกประเด็นลึก ๆ ก็ยังไม่ทราบจะมีอะไรอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาตามที่ญาติให้ข่าวน้ำหนักน่าจะน้อย

"คนจะฆ่ากันได้ต้องเคียดแค้นชิงชังอย่างจริงจัง เช่น ไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน คับแค้นศักดิ์ศรีเหยียบย่ำกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องการดำเนินการทางวินัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญ ไม่อย่างนั้นผมคงโดนลูกน้องเล่นงานแล้ว เพราะไล่ออกไป 4-5 คน” พล.ต.ต.ธนชาติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ชุดสืบสวนภ.จว.นครพนม และชุดสืบสวนภาค 4 ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่มาสมทบ โดยได้แบ่งหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุว่า ไปตรงกับเป้าหมายคนใด รวมทั้งไทม์ไลน์ครั้งสุดท้ายของผู้ตาย เพื่อแกะรอยหาตัวคนร้ายต่อไป

ในวันเดียวกันเวลา 13.30 น. น.ส.กณิศฐ์ฐา พันธุ์สวัสดิ์ หรือ จ๋า อายุ 32 ปี ภรรยาของหมวดบอล ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าพูดถึงสามีไปมีเรื่องขัดแย้งกับใคร ตนขอยืนยันว่ามีกับผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียว แต่ตนบอกกับตำรวจว่าคนร้ายอาจยิงผิดตัว เพราะรถจักรยานยนต์ที่สามีใช้ มีเหมือนกันในค่ายหลายคัน และยังไม่ปักใจเชื่อในกรณีมีความขัดแย้งกับหัวหน้าหน่วยจนถึงขั้นฆ่าตาย

ถ้าเป็นประเด็นด้านชู้สาว น.ส.จ๋า กล่าวว่า สามีเป็นคนคุยสนุก เข้ากับคนง่าย จึงมีลูกน้องและคนทั่วไปรักใคร่ อาจจะไปแชตไลน์พูดคุยกับแฟนของคนที่อยู่ในค่าย แล้วทึกทักว่าไปมีอะไรกับสามีตน ขอยืนยันตรงนี้สามีไม่ใช่คนเจ้าชู้ นอกจากเข้าใจผิดกัน และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สิ่งที่ตนปรักปรำผู้บังคับบัญชาไปนั้น จะก้มกราบเท้าขอโทษทันที

อย่างไรก็ตาม ส่วนศพของหมวดบอล หลังชันสูตรผ่าพิสูจน์หัวกระสุนปืนว่าเป็นชนิดใดแล้ว ทางญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่กรุงเทพฯ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับพลทหารโด้ (นามสมมติ) พลที่ทหารที่เข้าเวรในวันเกิดเหตุ 10 ก.พ.64 เวลาประมาณ 19.00 น. ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตอนเกิดเหตุ ตนยืนเข้าเวรเลยจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 50 เมตร ตอนเกิดเหตุตนเห็นคนร้าย 1 คน สวมเสื้อแขนสั้นคาดว่าสีดำ กางเกงมองไม่ชัด สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถมอเตอร์ไซค์สีขาว สูงประมาณ 170 ซม. โดยคนร้ายได้ขับตามประกบหมวดบอล ลักษณะเหมือนกำลังจะขับแซง จากนั้นคนร้ายได้จ่อยิงหมวดบอล เสียงปืนดังประมาณ 3 นัด จนหมวดบอลล้มลงไป

ขณะที่ตนได้ยินเสียงปืนนั้น คนร้ายได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์คันก่อเหตุ ขับผ่านหน้าตนจุดที่ตนยืนอยู่ ซึ่งตนยังได้ยืนทำความเคารพคนร้าย เพราะตามกฎใครขับผ่าน ตนในฐานะที่เป็นทหารต้องทำความเคารพอยู่แล้ว หลังจากคนร้ายขับผ่านตนไป ตนสังเกตเห็นคนร้ายผ่านสี่แยกมุ่งหน้าไปยังศูนย์ฝึกเก่า ซึ่งถ้าคนร้ายเลี้ยวซ้ายจะเป็นเส้นทางทางออกค่าย ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปบ้านพักทหาร

หลังเกิดเหตุตนได้วิ่งไปดูอาการหมวดบอล ซึ่งหมวดบอลขณะที่นอนบาดเจ็บอยู่ เขาได้พูดกับตนว่า "ช่วยด้วย ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ด้วย โดนยิง" จากนั้นตนจึงเรียกเพื่อน ๆ ทหารให้โทรหารถพยาบาล สำหรับจุดเกิดเหตุดังกล่าว เป็นทางเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่าง ไม่มีกล้องวงจรปิด ตนยืนยันว่าเห็นคนร้ายเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งตอนเกิดเหตุตนคาดว่าหมวดบอล น่าจะขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านพัก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าตนตกใจมาก ตนนึกว่าอยู่ในค่ายทหารแล้วจะปลอดภัย แต่ก็กลับไม่มีความปลอดภัย ตนไม่รู้หมวดบอลตำแหน่งอะไร เนื่องจากทำงานกันคนละหน่วย เท่าที่ตนรู้จักหมวดบอลมา เขาเป็นคนที่ยิ้มแย้ม ส่วนปมก่อเหตุตนไม่ทราบ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายัง สภ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญตัวน.ส.จ๋า ภรรยาของหมวดบอลมาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงช่วงค่ำของวันนี้

ทั้งนี้ทหารของมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ค่ายพระยอดเมืองขวางบางส่วน ยังได้ทยอยเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม พร้อมกับมีการตรวจดีเอ็นเอ

เวลา 16.30 น. พ.อ.สถาพร บุญชู รอง ผบ.มทบ.210 นครพนม รักษาราชการแทน ผบ.มทบ. ได้มาพบเจอกับ น.ส.กณิศฐ์ฐา พันธุ์สวัสดิ์ หรือ จ๋า อายุ 32 ปี ภรรยาของหมวดบอล พร้อมกับมองเงินเยียวยาในเบื้องต้นเป็นเงิน 75,000 บาท แบ่งเป็นเงินค่าทำศพ 25,000 บาท และเงินสวัสดิการทหาร 50,000 บาท

ทีมข่าวตรวจสอบเฟชบุ๊กหมวดบอล โดยเมื่อเวลา 15.30 น. ก่อนเกิดเหตุ หมวดบอลได้อัปคลิปวิดีโอขณะเล่นเครื่องดนตรี พร้อมกับโพสต์แคปชั่นว่า "กลับมาจับครั้งแรกในรอบ 2 ปี Aspd เหลือ 130 เมื่อก่อน Aspd 193 อย่างไว คงต้องอัพ AGI เพิ่มแล้วละงานนี้ นิ้วพันกันมั่วไปหมด"

ทั้งนี้ในคลิปดังกล่าว มีเพื่อน ๆ และชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ว่า "เป่าอะไร" ก่อนที่หมวดบอลจะตอบเมนต์ว่า "เป่าปี่พระอโหสิ" สำหรับชุดที่หมวดบอลใส่นั้น เป็นเสื้อยืดสีเหลือง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชุดที่ใส่เกิดเหตุด้วย