ไอ้แหบเปิดปากขอโทษเหยื่ออ้างอารมณ์พาไป ตร.เชื่อไม่บ้า พ่อช็อกไร้เงินประกันตัว (คลิป)

จากกรณี ด.ญ.แป้ง อายุ 9 ปี ถูกนายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ ก่อเหตุกระทำชำเรา ฆ่าทิ้งร่างไว้ที่ป่าหลังบ้าน ในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จนกระทั่งมีคนมาพบเห็น ซึ่งนายอนุวัฒน์เคยก่อเหตุกระทำชำเราเด็กมาแล้ว และพ้นโทษมาไม่กี่เดือนก่อนมาก่อเหตุซ้ำ

วันที่ 12 ก.พ. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.ปักธงชัย ซึ่งคุมตัวนายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ หรือ แหบ อยู่ภายในห้องควบคุม โดยนายแหบสวมชุดใหม่ เสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น ถูกคุมขังอยู่เพียงคนเดียว นั่งอยู่ท่านั่งชันเข่า หน้าฟุบอยู่ที่หัวเข่า ใช้เสื้อคลุมหัวเข่ามาถึงขาคาดว่าอากาศหนาว

จากนั้น มีเจ้าหน้าที่ร้อยเวรประจำห้องควบคุม ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาให้ยืนขึ้น ท่าทีปกติ ร้อยเวรระบุว่า การพูดคุยของผู้ต้องหาปกติ ยอมรับสารภาพกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังสามารถกินข้าว กินน้ำได้ ไม่มีท่าทีเครียด ตำรวจก็คาดการณ์พฤติกรรมคนร้ายเกิดมาจากปัญหาครอบครัว ปัญหาในสังคมที่พ่อแม่แยกทางกัน ส่วนญาติผู้ต้องหายังไม่ได้เดินทางมาเยี่ยม

เวลา 09.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน 3 นาย ได้นำแท่นพิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมเอกสารทางคดี มาที่ห้องควบคุม ได้นำเข้าไปที่ห้องควบคุม จากนั้นมีการให้ผู้ต้องหาเซ็นเอกสาร พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อประกอบสำนวนคดี ผู้ต้องหาให้ความร่วมมืออย่างดี

พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับ สภ.ปักธงชัย เดินทางมาพูดคุยกับผู้ต้องหา ก่อนจะนำตัวออกมาหน้าห้องควบคุม และมีการให้นายแหบดึงเส้นผมเพื่อเก็บหลักฐานนำไปตรวจดีเอ็นเอ นายแหบมีท่าทีปกติ ดูสายตาขวาง ไม่ได้พูดคุยมาก ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องขังไป

พ.ต.อ.ชนัตถ์ ระบุว่า เท่าที่ตนเองได้พูดคุยกับนายแหบ ท่าทีดูปกติ ไม่ได้มีความเครียด ทานอาหารได้ปกติ ผู้ต้องหารับสารภาพทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ประเมินแล้วน่าจะไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้ว หลักฐานทางคดีค่อนข้างครบ ส่วนผู้ต้องหาไม่ได้มีอาการทางจิต แต่มีความคิดไม่ปกติ โดยเฉพาะเวลาเมาสุราจะมีอารมณ์ทางเพศ และมักมีความต้องการกับเด็ก เรื่องรสนิยม มักชอบกระทำทางด้านทวาร ซึ่งยังไม่มั่นใจในเรื่องนี้

นายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ หรือ แฟบ ผู้ต้องหา ระหว่างออกจากห้องขัง ระบุว่า ตนอยากจะขอโทษครอบครัวน้องแป้ง เพราะส่วนหนึ่งตนกับครอบครัวแป้งก็เหมือนญาติกัน เนื่องจากในอดีตตนเองก็เคยทำงานกับพ่อของน้องแป้ง เป็นคนงานก่อสร้าง ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะกระทำน้องแป้ง ตนเองไม่ได้อยากทำ เพียงแต่ตอนนั้นตนเองคิดจะระบายอารมณ์ ตอนนี้ตนเองสำนึกผิดแล้ว ตนเองไม่ได้คิดอะไรมากตอนก่อเหตุ ส่วนเรื่องการตายของน้องแป้ง ตนเองไม่ได้ตั้งใจ

นายวิเชียร ผลจะโป๊ะ อายุ 47 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติแล้วลูกชายของตนเป็นคนที่นิสัยดี นิ่งเงียบ ไม่เคยเห็นมีพฤติกรรมหยอกล้อเล่นกับเด็กหญิงเด็กชาย ซึ่งตั้งแต่ที่ลูกชายของตนอายุได้ 22 ปีก็มาอยู่กับตนที่ จ.สระบุรี ตนจึงทราบว่าลูกชายมีอาการสมองช้า แต่สามารถพูดคุยตอบสนองกันได้เหมือนคนทั่วไป ในบางครั้งลูกชายก็จะมีอาการแปลก ชอบเดินทางไกล และเคยเดินเท้าจากบ้านพักของตนที่ จ.สระบุรี ไปยังบ้านยายที่ จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ ตนเคยมีความต้องการอยากจะพาลูกชายไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลจิตเวช แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากลูกชายเป็นคนสัญชาติลาว จึงไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ หลังจากเกิดเหตุ ตนมาทราบข่าวจากทางครอบครัวว่าลูกชายไปก่อเหตุฆ่า ด.ญ.วัย 9 ขวบ ที่อยู่บ้านใกล้กัน ตนก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน พ.ย. 63 ก่อนจะมาก่อเหตุครั้งล่าสุด

อย่างไรก็ตาม ตนเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากจะขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพราะรู้ว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรง ส่วนลูกชายที่ติดคุกนั้นตนก็ยืนยันว่าจะไม่ขอช่วยเหลือ เพราะไม่มีทรัพย์ในการประกันตัว และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ถ้าจะประหารชีวิต ก็คงจะแล้วแต่เวรแต่กรรม วันนี้ตนจะเดินทางไปที่บ้านผู้เสียชีวิต เพื่อทำการขอขมาศพและร่วมแสดงความเสียใจ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉคดีเก่า "ไอ้แหบ" ตุ๋ยเด็กชาย ญาติเดือดฉุดลูกเข้าป่าติดคุก 5 ปีไม่สำนึกฆ่าอีกศพ (คลิป)
- เปิดกระท่อมจุดไอ้แหบซ่อนตัวหลังฆ่าเด็ก สุดโหดบีบคอสลบก่อนอนาจาร แม่เหยื่อจี้ประหาร (คลิป)

เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปักธงชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อชี้จุดทำแผนที่ประกอบสำนวน

จุดแรกคือบริเวณกระท่อมหลังบ้านผู้ต้องหาจุดที่นายแหบเข้าไปหลบซ่อนตัว จุดนี้ผู้ต้องหาเข้ามาหลบซ่อนตัวตั้งแต่เวลา 22.00 น. ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพบความผิดปกติ หน้าต่างเปิดแง้มไว้ แต่ช่วงเย็นวันต่อมากลับปิดสนิท ล็อกจากด้านใน จึงเข้าตรวจสอบจนพบตัวผู้ต้องหาหลบซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม

จากนั้น ได้เข้าไปที่บ้านน้องแป้ง ซึ่งมีการจัดพิธีศพ นางจอย (นามสมมติ) แม่น้องแป้ง ออกมารับพวงหรีดพร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ดำเนินคดีกับนายแหบให้ถึงที่สุด "ถึงเขาจะสำนึก คำขอโทษก็เป็นเพียงการขอโทษปากเปล่า ไม่มีประโยชน์แล้ว เขาก็ต้องรับกรรมไป"

จากนั้น ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูจุดที่เพื่อนบ้านเห็นนายแหบนั่งคุยกับน้องแป้งช่วงค่ำบริเวณเก้าอี้ หน้าบ้านของป้าน้องแป้ง ซึ่งจุดนี้พบรองเท้าน้องแป้งถูกถอดทิ้งไว้ ก่อนจะหายตัวไป

หลังจากนั้น ชี้จุดหลังห้องน้ำห่างบ้านน้องแป้งประมาณ 20 เมตร เป็นจุดที่นายแหบก่อเหตุทำน้องแป้งครั้ง ก่อนอุ้มร่างน้องแป้งไปก่อเหตุเป็นครั้งที่ 2 ที่ทุ่งนาห่างบ้าน 100 เมตร แล้วทิ้งร่างน้องแป้งเอาไว้ ก่อนเดินกลับไปหลบที่กระท่อมหลังบ้าน

แต่เมื่อชาวบ้านเริ่มออกตามหาเวลาประมาณ 21.00 น. นายแหบจึงหนีไปหลบในป่า แล้วทิ้งรองเท้าเอาไว้ ก่อนจะวกกลับมาหลบที่กระท่อมอีกครั้งในเวลาประมาณ 22.00 น.

พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปักธงชัย กล่าวว่า ลงพื้นที่มาทำแผนที่จุดเกิดเหตุ และถ่ายภาพจุดเกิดเหตุตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ซึ่งเหตุที่ไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนฯได้ เพราะมีชาวบ้านมายืนรอเป็นจำนวนมาก กลัวว่าจะมีการประชาทัณฑ์ ขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานสมบูรณ์แล้ว จะสามารถนำตัวส่งศาลได้ในวันพรุ่งนี้

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านกังวลเนื่องจากผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาก่อน และออกจากคุกมาก่อเหตุซ้ำนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางคดีอย่างเต็มที่ โดยจะดูโทษเก่าว่ามีเหตุจะเพิ่มโทษได้หรือไม่

โดยเมื่อเช้าได้พูดคุยกับนายแหบแล้ว เจ้าตัวบอกว่าหลับสบายดี ไม่ได้มีสีหน้าแววตาวิตกกังวล ซ้ำยังยิ้ม เบื้องต้นได้ตรวจสารเสพติดแล้ว ไม่พบสารเสพติด สอดคล้องกับที่ผู้ต้องหาให้การว่าไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่เคยดมกาว และวันเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าขาวทำให้คึก นอกจากนี้ จากการประเมินพบว่านายแหบไม่ได้มีอาการทางจิตหรือวิกลจริต เชื่อว่าเป็นคนปกติ และดูฉลาดด้วยซ้ำในบางเรื่อง