จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ก.พ. เวลา 14.00 น. ตำรวจ สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 2 บ้านทรายขาว ต.ทรายขาว จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกองเลือดและเสื้อยืดคอกลมสีดำเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 ตัว
สอบสวนทราบว่าผู้ที่ถูกยิงคือ นายโชติมนต์ ศรีสุขใส อายุ 24 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้ากลางหลังทะลุอกซ้าย 1 นัด หลังเกิดเหตุได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา พบนายวิชัย พนาพิทักษ์กุล อายุ 65 ปี เจ้าของสวนปาล์ม ยืนถือปืนสั้นแบบแม็กกาซีนขนาด 9 มม. ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ส่วนเด็กชายอายุ 14 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิตยืนร้องไห้ในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ ภายในสวนปาล์ม พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ปิดป้ายทะเบียน จอดอยู่ ใกล้กับรถพบทลายปาล์มเพิ่งถูกตัดจำนวน 2 ทลาย มีดเคียวตัดปาล์มด้ามยาว 3 เมตร ทราบว่าเป็นของผู้เสียชีวิตจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด วันที่ 12 ก.พ. 64 นายวิชัย พนาพิทักษ์กุล อายุ 65 ปี เจ้าของสวนปาล์ม วันนี้ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว วงเงิน 5 แสนบาท เล่าว่า คนร้ายเข้ามาขโมยปาล์มในสวนของชาวบ้านบ่อยครั้งแทบจะทุกสวน รวมทั้งสวนของตัวเองด้วย โดนกันทุกปี อีกทั้ง ปัจจุบันนี้ราคาปาล์มเริ่มดี อยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาทกว่า จากเดิม 3-4 บาท ทำให้คนร้ายย่ามใจมาก่อเหตุบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ สวนตนคนงานที่รับจ้างตัดปาล์มจะมาบอกให้ตนฟังประจำ วันจันทร์ที่ 8 ก.พ. 64 ตนเข้าไปเดินดูสวนปาล์มรอบ แต่ไม่มีร่องรอยการขโมย ต่อมาวันอังคาร 9 ก.พ. 64 ตนไม่ได้เข้าไปดู ต่อมาวันพุธที่ 10 ก.พ. 64 ตนเข้าไปเดินดูสวนปาล์มอีก พบว่าทลายปาล์มมีร่องรอยถูกตัดเหลือแต่ขั้ว หายไปร่วม 100 กิโลกรัมได้ แต่ไม่เจอตัวคนร้าย
ต่อมาวันที่ 11 ก.พ. 64 วันเกิดเหตุตนจะไปไหว้บรรพบุรุษ เทศกาลตรุษจีน ตนจึงแวะเข้าไปเดินดูสวนปาล์มที่เกิดเหตุ เจอกับคนร้ายพอดี เจอกับ 2 คนร้ายกำลังก่อเหตุตัดปาล์ม ตนจึงตะโกนบอกว่า "อย่าหนี ให้หยุด" แต่คนร้ายก็ไม่หยุด วิ่งฝ่าสวนปาล์มหนีตนจึงยิงขู่ 1นัด และไม่หยุดก็ยิงขู่อีก 1-2 นัด เพื่อต้องการจับคนร้ายส่งตำรวจ โดยที่ไม่รู้ว่ายิงโดนคนร้าย เพราะจังหวะนั้นคนร้าย วิ่งไปไกลร่วม 100 เมตรก่อนลมลง คิดว่าแค่สะดุดล้มเอง และตนก็สายตาไม่ดี ไม่ใช่คนเล่นปืน จึงยิงสุ่ม ๆ ไป ไม่คิดว่าจะโดนคนร้าย
จากนั้น น้องชายคนตายเดินออกมาห่างตน 50 เมตร บอกว่า "ยอมแล้ว" ตนก็ตอบกลับไปว่า "ถ้ายอมแล้วอย่าวิ่งนะ" คนร้ายที่เป็นน้องคนตายจึงนั่งลง ข้างพี่ชายที่นอนอยู่ ตนจึงบอกคนตายที่ตอนนั้นแค่บาดเจ็บพูดคุยได้ ให้ถอดเสื้อออกมาเพื่อจะมัดมือไว้กันนี้ ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าถูกยิง พอเห็นรอยกระสุนที่หน้าอก คาดว่าจะทะลุมาจากข้างหลัง จึงโทรศัพท์ไปบอกลูกชายช่วยแจ้งตำรวจเข้าไปที่เกิดเหตุ และตนยืนรอมอบตัว
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจยิงคนตาย ตนแค่ยิงขู่ แต่กระสุนพลาดไปโดน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตนตั้งใจจะไปขอขมางานศพ และไปคุยไปเยียวยาสภาพจิตใจ แต่คงต้องรอให้คนในงานและญาติคนตายใจเย็นก่อน แต่เมื่อวานเจอญาติฝ่ายคนตายก็บอกตนว่าเข้าใจ เพราะหลานมาขโมยปาล์มเคยเตือนแล้วแต่ไม่ฟัง
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหานายวิชัยฐานฆ่าคนตาย พกพาอาวุธปืนไปในที่หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน ด.ช.เอ น้องชายคนตายถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ คุมตัวไว้ดำเนินคดี ล่าสุด ส่งฝากขังศาลเยาวชนจังหวัดกระบี่แล้ว
ทีมข่าวเดินทางมาที่งานศพของนายโชติมนต์ ศรีสุขใส อายุ 24 ปี น.ส.พิมพ์ดาว อายุ 29 ปี พี่สาวนายโชติมนต์ ผู้ตาย กล่าวว่า เจ้าของสวนปาล์มทำเกินกว่าเหตุ ตนยอมรับว่าน้องไปทำผิดไปขโมยปาล์ม แต่แค่ตักเตือนก็พอ หรือแจ้งตำรวจมาจับ ไม่น่ามายิงกันถึงขั้นเอาชีวิตแบบนี้ อีกอย่างคนตายก็ยังมีภาระมีคนข้างหลังให้ดูแล และอายุก็ยังน้อย
ทั้งนี้ คนตายฐานะยากจน มีลูกตั้ง 4 คน คนที่ 4 เพิ่งจะคลอดออกมาได้ 3-4 วัน ยังไม่ทันได้แจ้งเกิด วันเกิดเหตุ ผู้ตายบอกกับภรรยาว่าจะไปหาเงินมาแจ้งเกิดลูก แต่ไม่ได้บอกภรรยาว่าจะไปหาเงินทางไหน รู้ว่าน้องตนผิด แต่น้องก็ขโมยปาล์มมาแค่ไม่กี่กิโลกรัม ไม่มีเจตนาจะขโมยหมดสวน ทำไมต้องทำกันขนาดนี้
ตนมองว่าเจ้าของสวนใจคอโหดเหี้ยมเกินไป เพราะกระสุนเข้าตรงหัวใจ จะมาอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ตนมองว่าไม่ใช่ หลักฐานวิถีกระสุนที่อยู่กับน้องตนมันชัดเจนอยู่แล้ว
ส่วนเจ้าของสวนปาล์มทราบข่าวว่าประกันตัวออกมาแล้ว ตนก็อยากให้มารับผิดชอบ อยากให้มาขอขมาศพน้องตน ขอให้เห็นใจครอบครัวคนตายด้วย ลูกยังเล็ก เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ไหนจะลูกที่เพิ่งเกิดก็ยังไม่รู้ว่าพ่อจากไปแล้ว ครอบครัวก็ยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น