จากกรณีนางแบบสาว ออกมาโพสต์ข้อความและรูปภาพ ว่าถูกช่างภาพติดต่องานถ่ายแบบ เฉพาะรูปถ่าย แต่ปรากฏว่าช่างภาพคนดังกล่าวมีการแอบถ่ายวิดีโอในชุดชั้นใน ขณะที่มีการถ่ายภาพเอาไว้ด้วย
วันที่ 15 ก.พ. 64 นางสาวนาถ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 19 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 64 มีนายปกรณ์ (นามสมมติ) ช่างภาพส่งข้อความมาหาตนเองผ่านทางเฟซบุ๊ก ติดต่องานถ่ายแบบ เนื่องจากตนเองรับถ่ายแบบอยู่แล้ว ตอนแรกตนเองปฏิเสธ เพราะนายปกรณ์อยากให้ถ่ายแบบลักษณะชุดคอนแวนต์ และเห็นชุดชั้นในด้านในด้วย ตนเองเห็นว่าไม่เหมาะสม นายปกรณ์จึงเจรจาว่าถ่ายเป็นแนวมินิเซ็กซี่ ไม่โป๊มาก และตกลงกันแล้วจะใส่ชุดอะไรบ้างเป็นทั้งหมด 3 ชุด ชุดที่ 1 คือเสื้อยืดสีขาว กับชุดชั้นใน ชุดที่ 2 เป็นชุดนักเรียนญี่ปุ่น และชุดที่ 3 เป็นชุดบราสีดำ และกางเกงยีนส์ โดยเป็นชุดที่ตนเองเตรียมมาเองทั้งหมด
และมีการพูดคุยตกลงราคากันในลักษณะงานคือ ถ่ายภาพอย่างเดียวเท่านั้น ในราคา 6,000 บาท ต่อมาช่างภาพคนดังกล่าวมีการโอนเงินมัดจค่าถ่ายแบบให้ ในวันที่ 10 ม.ค. 64 จำนวน 2,000 บาท และนัดหมายวันที่ถ่ายแบบคือวันที่ 23 ม.ค. 64 โดยพูดคุยกันว่าตนเองจะพาแฟนหนุ่มไปด้วย ซึ่งนายปกรณ์ก็มีท่าทีคล้ายไม่อยากให้มา แต่สุดท้ายก็มีการพูดคุยและเจรจากันได้
โดยสถานที่นัดถ่ายแบบคือโรงแรมย่านสุทธิสาร นายปกรณ์มีการให้ตนเองเปลี่ยนชุดไปมาอยู่หลายรอบก่อนจะถ่าย แต่ตนเองยังไม่ได้เอะใจ นายปกรณ์มีกล้อง 2 ตัว คือตัวที่ถือในมือ และอีกตัวตั้งไว้บริเวณห้อง และช่วงใกล้จะถ่ายแบบเสร็จ นายปกรณ์มีการพูดถึงหน้าอก และเปรียบเทียบหน้าอกกับนางแบบคนอื่น ตนเองและขอให้ดันทรงอีกได้หรือไม่ มีการตื๊อให้ตนเองใส่ชุดจีสตริงถ่ายบนเตียง ตนเองสังเกตเห็นว่ากล้องที่ตั้งอยู่ซูมเข้ามาจนเห็นชุดชั้นใน ตนเองตกใจมาก แต่ก็ไม่แน่ใจว่านายปกรณ์ทำแบบนั้นได้อย่างไร เมื่อถ่ายแบบเสร็จจะขอดูกล้อง แต่นายปกรณ์ให้ตนเองดูเพียงกล้องตัวที่นายปกรณ์ถือ ส่วนกล้องที่ตนเองสังเกตเห็นว่ามีการถ่ายวิดีโอ ปฏิเสธที่จะให้ดู เพราะอ้างว่ารีบกลับ เรียกรถไว้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ซึ่งบางรายถูกข่มขืนด้วย
นางสาวนงค์ อายุ 20 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองก็เป็นนางแบบอิสระรับถ่ายแบบทั่วไป เมื่อปี 2562 นายปกรณ์ (นามสมมติ) ช่างภาพชักชวนตนเองมาถ่ายแบบราคา 7,000 บาท และเป็นครั้งแรกที่ตนเองอยากได้รายได้เพิ่ม เดินทางไปถ่ายแบบเพียงคนเดียว มีการให้ตนเองใส่ชุดคอนแวนต์ และชุดนักเรียนญี่ปุ่นแนวเซ็กซี่ที่นายปกรณ์เตรียมมา
เมื่อเริ่มถ่ายได้สักครู่ มีการให้ใส่ชุดชั้นในจีสตริง โดยบังคับให้เปลี่ยน ซึ่งตนเองก็เริ่มรู้สึกแปลกและเอะใจ แต่ก็ยอมทำต่อไป เพราะกลัว มีการบังคับให้โพสต์ท่าฉีกขา และไม่มีการป้องกันใด ๆ ทั้งสิ้น และมีการแตะตัว จัดท่าด้วย ซึ่งปกติจะเป็นเพียงการบอกและจัดท่าเอง และมีกล้อง 2 ตัว คล้ายมีการบันทึกวิดีโอ
จากนั้นเริ่มมีการไปถ่ายที่เตียง และบังคับให้ตนเองถอดเสื้อผ้า และชุดชั้นในจนหมด และนางแบบที่ถูกจ้างมา ก็จะโดนแบบนี้กันหลายคน ทั้งบังคับแก้ผ้า และแตะเนื้อต้องตัว ตัวเองด้วยความกลัวจึงขัดขืนได้เพียงเล็กน้อย และร้องไห้ตลอดเวลาที่ถ่ายแบบด้วย และช่างภาพคนดังกล่าวก็มีการใช้อุปกรณ์เซ็กซ์ทอยกับตนเองด้วย มีการบังคับให้ช่วยตัวเอง แต่ตนเองไม่ยอมทำ จนกระทั่งช่างภาพคนดังกล่าวพยายามจะสำเร็จความใคร่กับตนเอง แต่ตนเองไม่ยอม และช่างภาพก็พยายามเดินเข้าหาตนเองทางด้านหลังอีกด้วย และถอดเข็มขัดออก แต่บอกกับตนเองว่าแค่อึดอัด แต่หลังจากเกิดเรื่องตนเองไม่กล้าบอกใครเลย และปิดเงียบมาตลอด จนกระทั่งนางแบบสาวอีกคนโพสต์จึงทราบว่าเป็นช่างภาพคนเดียวกัน ช่างภาพไม่ได้มีการนำรูปไปเผยแพร่หรือแบล็กเมล โดยอ้างว่ารูปทั้งหมดมีการตั้งรหัสลับ ไม่มีใครสามารถเข้าได้ และเก็บเอาไว้เป็นผลงานเท่านั้น
ตนเองอยากบอกช่างภาพคนดังกล่าวว่า ให้เลิกแถ เพราะทุกคนก็ต่างรู้ความจริง เพราะมีพยานเยอะ และมีนางแบบหลายคนยังไม่กล้าออกมาพูด ที่ตนเองออกมาพูดเพราะอยากจะเตือนไม่ให้นางแบบคนอื่นถูกหลอกอีก และควรนำเพื่อนไปด้วย ไม่ควรไปถ่ายแบบเพียงคนเดียว
ด้านนายปกรณ์ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ช่างภาพที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยบังคับให้นางแบบสำเร็จความใคร่หรือข่มขืน และถ้าหากมีการกระทำเช่นนั้นจริง ให้ผู้เสียหายทุกคนไปแจ้งความ อาจจะมีการจำช่างภาพผิดคนหรือไม่ เพราะในประเทศมีช่างภาพมากมาย หากตนเองมีการเอาภาพไปปล่อยในโซเชียลมีเดียหรือสื่อช่องทางไหนก็ตาม ตนเองยินดีรับความผิดและเข้าคุก
ส่วนผู้เสียหายที่มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพดังกล่าว ตนเองอยากจะขอโทษอย่างจริงใจ และที่ผ่านมาก็ขอโทษผ่านทางข้อความไปหลายครั้งแล้ว และยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้มีการแอบถ่าย เป็นเพียงการตั้งกล้องถ่ายเบื้องหลังของการถ่ายแบบเท่านั้น และถ้าหากผู้เสียหายคนดังกล่าวมีการทักท้วงตนเองในระหว่างถ่ายแบบ ตนเองก็อาจจะยุติก็ได้ และยืนยันว่าไม่ได้นำภาพไปใช้ทำอะไรแน่นอน เพียงแต่เป็นคนเก็บภาพไว้เป็นผลงานที่น่าสนใจเท่านั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่ได้มีเจตนาอื่นและงานที่ถ่ายไม่ใช่แนวโป๊เปลือยหรือ 18+ แน่นอน และนางแบบก็ใส่เสื้อคลุมอยู่ด้วย ยืนยันว่ากล้องที่ตั้งอยู่อีกตัวไม่ใช่การแอบถ่าย เป็นการถ่ายด้วยกล้องดีเอสแอลอาร์และกล้องตัวใหญ่มาก และเป็นการถ่ายวางบนขาตั้งกล้องซึ่งหน้า
ทั้งนี้ ตนเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้คุยกับเจ้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และตำรวจแจ้งตนเองว่าไม่มีการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันเรื่องราวของตนเองไว้