"อนามัยโลก" อนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา สำหรับการใช้ฉุกเฉิน เตรียมกระจายให้ประเทศ "โคแวกซ์" คาดจัดส่งได้ 300 ล้านโดสในครึ่งปีแรก
วันนี้(16 ก.พ.64) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน องค์การอนามัยโลก (WHO) อนุมัติ วัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) แล้ววานนี้(15 ก.พ.) สำหรับการใช้ฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีราคาไม่แพงได้มากขึ้น
อนามัยโลกเปิดเผยว่า ได้อนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่ผลิตจากเอสเค ไบโอไซแอนซ์ (AstraZeneca-SKBio) ในเกาหลีใต้ และสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (Serum Institute of India) หลังตรวจสอบแล้วว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ โดยมีประสิทธิภาพร้อยละ 63.09 และ “ไม่มีเงื่อนไขการจัดเก็บที่ยุ่งยาก จึงเหมาะกับประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลาง”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! "อนุทิน" เผย วัคซีน "ซิโนแวค" ถึงไทย 24 ก.พ.นี้
- "มาเลเซีย" เตรียมฉีดวัคซีนโควิดให้ชาวต่างชาติในประเทศฟรี
- กัมพูชาเริ่มฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ลูกชาย "ฮุน เซน" ฉีดเป็นคนแรก!
- เยอรมนีแนะไม่ควรฉีด "วัคซีนแอสตราเซเนกา" ให้ผู้สูงวัย อายุ 65 ปีขึ้นไป
ขณะที่แอสตราเซเนกา เปิดเผยว่า ทางบริษัทคาดหวังว่า ในครึ่งปีแรกของ 2021 จะสามารถผลิตวัคซีนได้มากกว่า 300 ล้านโดสสำหรับ 145 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ (COVAX)
ดร. มารีอันเจลา ซีเมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านการเข้าถึงยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า หลังจากนี้ทั่วโลกจะสามารถใช้วัคซีนสองตัวดังกล่าวผ่านโครงการโคแวกซ์ พร้อมเสริมว่า “ประเทศที่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ในปัจจุบัน จะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์และประชากรกลุ่มเสี่ยงได้ในที่สุด”
“แต่เรายังต้องดำเนินการเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรกลุ่มเสี่ยง พร้อมอำนวยความสะดวกให้ทุกประเทศสามารถเข้าถึงวัคซีนได้” ดร. ซีเมากล่าว พร้อมแจกแจงสองภารกิจสำคัญ ได้แก่ การยกระดับกำลังการผลิต และการเร่งกลุ่มผู้ผลิตยื่นขออนุมัติวัคซีนกับองค์การฯ อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้วัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวที่ 2 ที่องค์การฯ อนุมัติต่อจากวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer/BioNTech) เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา