กรณีการหายตัวไปของ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา อายุ 19 ปี ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.55 ที่ผ่านมา หรือเมื่อ 8 ปีก่อน โดยจุดสุดท้ายที่หายไปคือจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่คลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี หลังจากนั้นมีคนแจ้งเบาะแสว่าผู้อำนวยการท่านหนึ่ง ที่เหมือนคบหาดูใจกับผู้ตาย อ้างว่าน้องหลิวไปทำงานต่างประเทศ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 18 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านของ ผอ.ตุ๊ ในพื้นที่ ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อทีมข่าวมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้า พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ นำกำลังมาพร้อมกับ ตำรวจกองปราบปราม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และกู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี มาขอตรวจหลักฐานในพื้นที่บริเวณบ้านตั้งแต่ 09.00 น.
เมื่อมาถึง พบว่าญาติของ ผอ.ตุ๊ ไม่อนุญาติให้ทีมข่าวเข้าพื้นที่บ้าน โดยขอให้อยู่แค่บริเวณทางเข้าหน้าบ้านเท่านั้น ส่วนภรรยาของ ผอ.ตุ๊ ก็ยังอยู่ในบ้าน เพื่อสังเกตการณ์ทำงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อมูลที่ทีมข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีการนำเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง เพื่อมาสูบน้ำออกจากบ่อน้ำ ขนาด 10 คูณ 10 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร โดยชั้นล่างของบ่อเป็นเลนหนา 50 เซนติเมตร เพื่อค้นหาหลักฐานบางอย่าง คาดว่าจะค้นหาอาวุธปืน ปลอกอาวุธปืน และหลักฐานอื่น ๆ
ทีมข่าวเดินทางมาติดตามปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ โดยทราบข้อมูลว่ามีการตรวจค้นบริเวณ บ่อน้ำหลังบ้านผอ.ตุ๊ สื่อมวลชนมาปักหลักติดตามปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ และญาติของผอ.ตุ๊ กันพื้นที่ด้วยเชือก บริเวณต้นไม้หน้าบ้าน และไม่อนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพภายในบ้าน
เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม 6 นาย กู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัย สุพรรณบุรี ประมาณ 20 คน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 12 คน ทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ตามลำดับ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมีการนำกล่องเก็บหลักฐาน และอุปกรณ์ในการค้นหาขึ้นรถ และออกจากบ้าน ผอ.ตุ๊ โดยเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนที่ญาติของผอ.ตุ๊ จะนำเชือกมากั้นพื้นที่บริเวณทางเข้าบ้าน และไม่อนุญาตให้ทีมข่าว เข้าไปดูพื้นที่บ่อน้ำภายในบ้าน
ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ นายมณฑล ธรรมเที่ยงตรง เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัย สุพรรณบุรี หัวหน้าชุดกู้ภัย เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ และวางแผนในการค้นหา โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะค้นหาบนพื้นดิน และกันพื้นที่ทั้งหมด และจำกัดบริเวณของกู้ภัย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะลงไปในบ่อน้ำ
โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. มีการนำเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 3 เครื่อง ในการสูบน้ำออกจากบ่อดังกล่าว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงไปในบ่อน้ำ โดยสูบน้ำตั้งแต่เวลา 11.30 - 12.00 น. ใช้เวลาในการสูบน้ำออก 30 นาที ซึ่งบ่อดังกล่าวอยู่บริเวณหลังบ้าน เป็นบ่อดินเก่า เส้นผ่านศูนย์กลางกว้างประมาณ 10 เมตร ลักษณะบ่อลึกประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งอุปสรรคในการค้นหาคือบ่อดังกล่าวเป็นบ่อเก่า ทำให้มีโคนและเลนค่อนข้างเยอะ
การค้นหาในวันนี้ด้านล่างบ่อน้ำไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ส่วนบริเวณหลังบ้าน บนบ่อน้ำเจ้าหน้าตรวจสอบพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม. ประมาณ 4-5 ปลอก เจ้าหน้าที่เพิ่งจะมาเจอช่วงบ่าย รวมระยะเวลาในการค้นหาทั้งหมดประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนญาติและภรรยาของผอ.ตุ๊ ก็มาสังเกตการค้นหาครั้งนี้พร้อมกับลูก ๆ
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปพูดคุยกับนายริท (นามสมมติ) อายุ 26 ปี เพื่อนบ้านผอ.ตุ๊ เปิดเผยว่า ส่วนตัวเคยทราบว่า เมื่อปีที่แล้ว ผอ.ตุ๊ เคยยิงปืนบริเวณบ่อน้ำหลังบ้านด้วย ประมาณ 5-6 นัด เนื่องจากระบายอารมณ์ คล้ายกับทะเลาะกับคนที่บ้าน แต่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องใด
ส่วนตัวไม่ค่อยสุงสิงกับ ผอ.ตุ๊ เท่าใดนัก แต่เท่าที่ตนเองสัมผัส ผอ.ตุ๊ เป็นคนเงียบ มักจะเก็บตัวอยู่ในบ้าน ตนยังเคยเข้าไปทำงานในบ้านผอ.ตุ๊ สังเกตว่าบริเวณหลังบ้านมีบ่อน้ำค่อนข้างใหญ่ และมีสวนรวมทั้งที่นาด้วย ส่วนที่ผอ.ตุ๊ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตนก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผอ.ตุ๊ มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
สำหรับบ้านผอ.ตุ๊ เป็นบ้าน 2 ชั้น ลักษณะปูนกึ่งไม้ โดยเนื้อที่บ้านผอ.ตุ๊ และสวน รวมเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ มี สวน มะกรูด เตย กล้วย และที่นา บ่อน้ำกว้างประมาณ 10 เมตร ความลึก 5 เมตร สัตว์เลี้ยงมี สุนัข ประมาณ 2-3 ตัว อาศัย 6 คน ได้แก่ ลูกชายผอ.ตุ๊ อายุ 25 ปี 12 ปี และ 10 ปี รวม 3 คน นอกจากนี้ยังมีแม่ยายผอ.ตุ๊ และเมียผอ.ตุ๊
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายรัฐพล เรืองศรี อายุ 55 ปี สมาชิกอบ ต.ดอนปรู เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนยังเป็นตัวแทนเข้าไปเจรจากับคนในบ้านของผอ.ตุ๊ เรื่องเจ้าหน้าที่ขอค้นบ่อน้ำหลังบ้านด้วย ซึ่งแม่ยายของ ผอ.ตุ๊ ยังถามตนว่า หากวิดน้ำแล้วจะนำน้ำที่ไหนมาใส่ให้ จึงต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่ลงพื้นที่ ซึ่งตนและชาวบ้านในละแวกนี้ทุกคนต่างเป็นห่วงสภาพจิตใจของแม่ยาย และครอบครัวของผอ.ตุ๊ เพราะทุคนต่างไม่รู้เรื่อง และแม่ยายผอ.ตุ๊ ก็อายุมากแล้ว และอยู่ที่นี่มานาน ก่อนผอ.ตุ๊ จะมาอยู่ได้ประมาณ 5 ปี
ส่วนสภาพจิตใจคนในบ้าน ตนสงสารมากและเห็นใจคนในบ้านทุกคน เพราะทุกคนมีความเครียด และไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ ซึ่งตนมีโอกาสได้คุยกับภรรยาของผอ.ตุ๊ ภรรยาก็บอกว่าเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว และก็ไม่รู้ที่มาที่ไป ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน
สำหรับนิสัยของ ตัวผอ.ตุ๊ เป็นคนดี อัธยาศัยดี ส่วนเคยทะเลาะกับคนในบ้านหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ตนพบกับผอ.ตุ๊ ครั้งสุดท้ายงานศพเพื่อนบ้าน เมื่อต้นเดือนก.พ.64 และเมื่อช่วง 4 เดือนที่แล้ว งานศพของพ่อตาผอ.ตุ๊ ตนและชาวบ้านก็ต่างไปช่วยกันอย่างเต็มที่ ส่วนตัวคิดว่าผอ.ตุ๊ ไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ และถ้าไม่ได้ทำก็ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะไม่มีใครติดต่อผอ.ตุ๊ได้เลย และควรเข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อคลายข้อสงสัยทุกประการ