เหลือเชื่อ! ค้นรถผอ.ตุ๊ ขายไป 8 ปีวนมาหาตำรวจ คนซื้อหวั่นซ่อนศพขอขายทิ้ง (คลิป)

กรณีการหายตัวไปของ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา อายุ 19 ปี ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.55 ที่ผ่านมา หรือเมื่อ 8 ปีก่อน โดยจุดสุดท้ายที่หายไปคือจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่คลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี หลังจากนั้นมีคนแจ้งเบาะแสว่าผู้อำนวยการท่านหนึ่ง ที่เหมือนคบหาดูใจกับผู้ตาย อ้างว่าน้องหลิวไปทำงานต่างประเทศ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุดวันที่ 18 ก.พ.64 ทีมข่าวได้รับภาพถ่ายจากเจ้าหน้าที่ เป็นรถเก๋งของนายจุมพล หรือ ผอ.ตุ๊ ที่ใช้งานขณะอยู่ที่จังหวัดสระเเก้ว ยี่ห้อ โตโยต้า เเคมรี่ ทะเบียน กบ 3040 ราชบุรี เลขตัวถัง : MR053BK4107009271 เลขเครื่อง : 1AZ-E033232

โดยภาพนี้เป็นภาพเมื่อวันที่ 1 มี.ค.56 รถคันดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถบรรทุกชนท้าย ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ตาพระยา จากนั้นวันที่ 8 เม.ย.56 นายจุมพล มาแจ้งความปืนหาย เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุที่ สภ.ตาพระยา

หลังจากที่ทราบว่าโครงกระดูกเป็นของน้องหลิว สภาพศพมีรอยถูกยิง ด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 3 เม็ด เชื่อว่าถูกคนร้ายฆ่าเเล้วนำมาทิ้ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้กระจายกำลังเก็บข้อมูลในพื้นที่ จ.สระเเก้ว เเละ จ.สุพรรณบุรี จนพบรถเก๋งคันดังกล่าว อยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเชื่อว่าเป็นยานพาหนะที่อาจใช้ในการก่อเหตุ พบว่าปัจจุบันมีการขายต่อเปลี่ยนมือ เเละมีการเปลี่ยนสีรถเป็นสีดำ จึงยึดรถยนต์คันดังกล่าวไปตรวจสอบที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่บุกเข้าไปตรวจค้นอาวุธปืนภายในบ้านพักของนายจุมพล

โดยตำรวจพิสูจน์หลักฐานพยายามที่จะเก็บรายละเอียดภายในรถให้ได้มากที่สุด เพราะคาดว่าน่าจะยังคงหลงเหลือพยานหลักฐานบางอย่างอยู่ภายในรถ อาจจะเป็นเส้นขนเส้นผม หรือคราบเลือด แต่อุปสรรคที่สำคัญคือระยะเวลาที่ผ่านมานานกว่า 8 ปี ประกอบกับรถคันนี้ได้เปลี่ยนมือมาแล้ว 3-4 มือ อาจจะยากต่อการเก็บหลักฐานด้วย

สำหรับรถคันนี้ ชื่อผู้ครอบครองคนล่าสุด คือ นายนิพนธ์ มูลประวัติ อายุ 53 ปี ชาวต.พิหารเเดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ภาพขณะตำรวจเข้าตรวจค้นอาวุธปืนในบ้านของนายจุมพล หรือ ผอ.ตุ๊ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ผลการตรวจค้น พบปืน 2 กระบอก เป็นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 อีกกระบอกเป็นชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 จึงยึดมาตรวจสอบ พบว่ามีทะเบียนครอบครองถูกต้อง จึงส่งคืนให้นายจุมพลไปเเล้ว

ส่วนปืนที่นายจุมพลอ้างว่าทำหาย เเละได้เเจ้งความปืนหายที่ สภ.ตะพระยา จ.สระเเก้ว เมื่อวันที่ 8 เม.ย.56 เป็นปืนชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อสไตเออร์ ขนาด 9 มม. หมายเลขประจำปืน 058557 เลขทะเบียนปืน กท 5212815

พลตำรวจตรี ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยภายหลังการประชุม ร่วมกับชุดสืบสวนจังหวัดสระแก้ว ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และของกองปราบปราม โดยมีพลตำรวจโท รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นประธานการประชุม ว่าขณะนี้ในส่วนของความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องหลิว มีความคืบหน้าไปมากแล้ว สอบพยานไปกว่า 20 ปาก ส่วนของการออกหมายจับนั้นยังต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พยานหลักฐานสำคัญบางอย่างเพิ่มเติม ซึ่งต้องลงลึกในรายละเอียดการตรวจพิสูจน์

แต่ยอมรับว่า ผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏเป็นข่าวตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปนั้น มีน้ำหนักมากที่สุดในขณะนี้ โดยตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่าจะมีความเชื่อมโยงกันมากน้อยเพียงใด ส่วนการตรวจรถยนต์ต้องสงสัย ขณะนี้อยู่ระหว่าง การตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่งแม้ว่าคดีนี้จะผ่านไปนาน 8 ปี แต่หากมีคราบเลือดหรือพยานหลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถตรวจได้

ขณะที่ในส่วนของอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุนั้น หากหาไม่พบตำรวจก็สามารถใช้พยานหลักฐานอื่นในการออกหมายจับได้ ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องสงสัย ได้แจ้งความปืนหายไว้ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.56 ที่ สภ.ตาพระยา อ้างว่าหายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรถชน เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ปีเดียวกันนั้น จะต้องตรวจสอบกับนายทะเบียนที่เป็นผู้ออกทะเบียนปืนให้ ว่ามีการเก็บตัวอย่างหัวกระสุนปืนกระบอกดังกล่าวไว้หรือไม่ เพื่อที่จะนำมาเปรียบเทียบกับกระสุนที่พบในร่างของน้องหลิว

โดยยอมรับว่าคดีนี้ผ่านมาเป็นเวลานาน และไม่มีประจักษ์พยาน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานสักระยะหนึ่ง แต่ทั้งนี้รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้กำชับให้ทำสำนวนให้มีความรอบคอบรัดกุมมากที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่คนร้ายลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจ เเละอยู่ในความสนใจของประชาชน

นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถของผอ.ตุ๊ ที่มีการเปลี่ยนเจ้าของแล้วถึง 4 คน ว่า การค้นสอบและค้นหาหลักฐานบนรถยนต์คันดังกล่าว คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะเวลาผ่านมากว่า 8 ปีแล้ว คราบเลือดหรือเส้นผม รวมทั้งดีเอ็นเอต่าง ๆ คงจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว และไม่มีดีเอ็นเอใด ที่จะฝังลึกที่จะสามารถตรวจสอบได้ ประกอบกับรถยนต์ของผอ.ตุ๊ เปลี่ยนเจ้าของมาแล้วหลายคน ดีเอ็นเอที่พบก็จะเป็นดีเอ็นเอของเจ้าของใหม่ ไม่ใช่ดีเอ็นเอที่ต้องการตรวจสอบ คาดว่าไม่น่าจะมีหลักญานใด ๆ หลงเหลืออยู่ภายในรถแล้ว

ทีมข่าวเดินทางมาพบ นายสมชาย (นามสมมติ) เจ้าของรถของ ผอ.ตุ๊ คนปัจจุบัน ซึ่งบังเอิญอยู่ใน จ.สุพรรณบุรี เป็นรถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ เดิมสีบอนด์-ทอง ปัจจุบันถูกเปลี่ยนสีเป็นสีดำ ทะเบียนเดิม 3639 ปัจจุบันเปลี่ยนมาอีกเลข ถูกเปลี่ยนมา 5 มือดังต่อไปนี้

1.นายตำรวจใน พื้นที่ จ.สระแก้ว
2.ผอ.ตุ๊
3.ชาว จ.ราชบุรี
4.เต็นท์รถ จ.กาญจนบุรี
5.นายสมชาย ครอบครัวเมื่อ 23 ส.ค.60 

นายสมชาย เปิดใจว่า ตำรวจมาขอนำรถตนไปตรวจจริง โดยมีการไปตรวจทั้งหมด มีการกรีดเบาะ เพื่อหาคราบเลือด ดูรอยกระสุน แต่ไม่พบอะไร อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ถูกเปลี่ยนมือมาหลายครั้ง กว่าจะมาถึงตนก็มือที่ 5 ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่ารถถูกชน กระทั่งตนมาเปลี่ยนสีรถจากสีบอนด์ทองเป็นดำ ปรากฏอู่ที่ทำสีรู้จักกับตน บอกว่า รถน่าจะถูกชนมาอย่างหนัก แต่ไม่บอกว่าโดนอะไรมาบ้าง และตนก็มาทราบกับตำรวจว่า รถเคยถูกชนหนัก 2 ครั้ง คือช่วงที่ ผอ.ตุ๊ เป็นเจ้าของ และคนครอบครองมือที่ 3 เป็นเจ้าของ

ส่วนตัวซื้อรถมาก็ใช้ขับขี่เอง ไม่เคยมีปัญหา ห้องเครื่องปกติ ไม่เคยเจอเรื่องสิ่งลี้ลับใด ๆ กลับกันคือให้โชคจากเลขทะเบียน ตนยอมรับว่าหลังรู้ข่าวก็ตกใจ ตนก็กลัวตนจะมีความผิดไปด้วย แต่ตำรวจแจ้งว่าตนไม่เกี่ยวข้องก็สบายใจ ตนไม่สบายใจถึงขั้นอยากจะขายรถทิ้ง

ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจห้องเครื่อง ภายในตัวรถ พบว่าทุกอย่างปกติ ไม่มีอะไรผิดสังเกต ซึ่งนายสมชายก็บอกเช่นกันว่า ที่ขับรถมาไม่เคยมีปัญหา ขับดี ไม่เคยทราบว่ารถมีปัญหา จนกระทั่งมาเกิดเรื่อง และมีความบังเอิญคือ รถคันนี้ถูกเปลี่ยนมือมาหลายคน แต่สุดท้ายก็ถูกนำกลับมาที่ จ.สุพรรณบุรี เหมือนว่าจะมาให้ใกล้กับ ผอ.ตุ๊ ซึ่งอยู่ใกล้กับ รร.ที่ 4 ที่ ผอ.ตุ๊ เคยมาเป็น ผอ. ซึ่งห่างเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น