พระชื่นชมแม่ผัวแห่งชาติตบลูกเรียกสติ แจงไม่หยุดสวดหวั่นพิธีล่ม อึ้งเจ้าสาวน้ำตาไหลรับพร (คลิป)

จากกรณี ชาวเน็ตได้แชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งสามีตนเอง ซึ่งไปแต่งงานใหม่โดยที่ทั้ง 2 คนยังไม่ได้หย่าขาดกัน ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวอย่างหนัก ซึ่งล่าสุดฝ่ายภรรยาหลวง ได้ปรึกษาทนายเพื่อยื่นฟ้องหญิงที่แต่งงานซ้อนแล้วนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดใจแม่ผัวแห่งชาติ ตบลูกชายแต่งงานซ้อนยุฟ้อง - เมียช้ำถูกเย้ยน้ำพริกถ้วยใหม่
- ตำรวจหนุ่มลาราชการหลบข่าวฉาวหนีเมียไปแต่งงาน พ่อตาเผยเสียใจแต่พร้อมให้อภัยลูกเขย

หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดท่าชัย ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท พระครูสมุห์พงศ์ยศ พลญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าชัย เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ ระหว่างที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์ ได้ตั้งใจเจริญพระพุทธมนต์ สำรวมจิตให้เป็นสมาธิมากที่สุด เพื่อให้เกิดพลังแก่พุทธมนต์ ในระหว่างที่กำลังหลับตาสวดอยู่นั้นจิตเริ่มเป็นสมาธิ แต่ก็มีเสียงมากระทบแว่ว ๆ ที่หู ตอนแรกคิดว่าเด็กเถียงกัน สักพักเสียงเริ่มหนักขึ้น จึงลืมตาขึ้นมาก็ตกใจ เห็นเจ้าสาวนั่งรับพรและมีน้ำตาซึม

ระหว่างนั้นอาตมาได้นั่งพิจารณาฟังอยู่พักหนึ่งจนทราบว่าแม่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวมาทวงสิทธิ์ของลูกสะใภ้ ซึ่งหน้าที่ในฐานะเป็นสงฆ์ จะหยุดสวดตอนนั้นจะถือว่าล่ม ต้องตั้งสติสวดมนต์บทนั้นให้จบลงไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าทางแม่ของเจ้าบ่าวและภรรยาหลวงนั้นทำถูกต้องแล้ว ในหลักของศีลธรรม คุณธรรม หากอาตมาเป็นคนฝ่ายของแม่เจ้าบ่าว ฝ่ายภรรยาหลวง อาตมาก็คงต้องทำแบบนั้นเช่นกัน

ด้วยหลักของศีลธรรม คุณธรรม และความถูกต้อง ต้องชื่นชมแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวที่มีคุณธรรม ความเที่ยงตรง เพราะส่วนใหญ่ที่พบเห็นพ่อแม่จะรักลูกเข้าข้างลูกของตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าลูกนั้นกระทำผิด แต่ก็อยากจะปกป้อง แต่เหตุการณ์นี้กลับเป็นฝ่ายพาภรรยาหลวงและหลานมาทวงสิทธิ์คืนจากลูกชายของตัวเอง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องขึ้น เพราะตั้งแต่บวชเรียนมานาน 16 พรรษาแล้ว ถูกนิมนต์ไปงานแต่งงานมาเป็นร้อย ๆ งาน ก็เพิ่งจะเจอเหตุนี้เป็นครั้งแรก สุดท้ายของฝากถึงญาติโยม ใครนับถือศาสนาพุทธศีล 5 คือพื้นฐานปกติของมนุษย์ที่เป็นพุทธบริษัทเราควรกระทำอะไรไป ก็แล้วแต่ควรคำนึงถึงศีลธรรม เหตุการณ์นี้ถือเป็นการผิดศีลข้อที่ 3 ซึ่งชาวพุทธเราไม่ควรกระทำ เพราะจะทำให้เกิดความทุกข์ เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนั้นก่อนที่จะลงมือทำอะไรก็ให้มีสติ คิดก่อนลงมือทำ ไม่ใช่ทำเพราะกิเลสตัณหา ก็ของฝากญาติโยมเอาไว้ด้วย

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียน วัดสร้อยทอง กล่าวว่า หากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเคสแรกก็ว่าได้ ที่มีการด่าทอกันต่อหน้าพระในช่วงที่กำลังทำพิธี หากเหตุการณ์เกิดขึ้นกับตนจริง ๆ ก็คงจะอึ้งไปชั่วขณะ พร้อมกับต้องหยุดพิธี เพื่อพูดคุยเจรจากันให้แล้วเสร็จ ให้ต่างฝ่ายต่างใจเย็นก่อน งานวิวาห์ถือเป็นงานมงคล แต่เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้เชื่อว่าคงไม่ใช่งานมงคลอีกต่อไป จัดงานต่อไปก็แค่นั้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนที่ต้องเตือนสติมากที่สุดคือเจ้าบ่าว เพราะเตือนคนอื่นไปก็คงไม่มีประโยชน์ งานนี้ตัวเจ้าบ่าวผิดเต็ม ๆ ทั้งหลักศาสนา ศีล 5 และการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสม สาเหตุมาจากความเห็นแก่ตัวของเจ้าบ่าวเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด รองลงมาคือต้องเตือนในส่วนของเจ้าสาวในพิธี เมื่อทราบแล้วว่าคนที่กำลังจะแต่งงานด้วยมีภรรยาและครอบครัวอยู่แล้ว ในฐานะผู้หญิงด้วยกันก็สมควรเห็นใจกัน ในมุมของแม่เจ้าบ่าวนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่ผิด แถมดีด้วยซ้ำที่จะเจอแม่แบบนี้ ที่คอยเตือนสติลูกชาย ปกติจะเจอแต่แม่ที่เข้าข้างลูกตัวเอง ส่วนที่หลายคนมองว่าพฤติกรรมของแม่เจ้าบ่าวไม่เหมาะสม ด่าทอลูกชายต่อหน้าพระ ในส่วนนี้ก็ไม่ได้ถือว่าผิดตามหลักพระพุทธศาสนา เพราะเขาเองไม่ได้ด่าทอพระ

"ความเห็นแก่ตัวไม่ได้นำมาสู่ชีวิตคู่ที่สมหวัง หนำซ้ำผลของการกระทำก็แสดงให้เห็นแล้วหลังที่ฝ่ายชายเองก็โดนสอบวินัยเรื่องพฤติกรรมในฐานะข้าราชการ ขณะที่เจ้าสาวเองก็โดนไล่ออกจากงาน อยากฝากว่าอย่ามองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ความรักมีได้แต่ไม่ควรรักแบบเห็นแก่ตัว" พระมหาไพรวัลย์ กล่าว

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กของเจ้าสาวรายดังกล่าว หลังเกิดเรื่องขึ้นมีการปิดบัญชีไปแล้ว ส่วนฝ่ายชายมีการเปลี่ยนหน้าปกโพรไฟล์ที่ใช้คุยกับเจ้าสาวเป็นสีดำ ไม่ได้มีการตอบโต้ใด ๆ

สำหรับกระแสข่าวดังจนมีการแชร์ต่อกัน ล่าสุด มีคลิปบน TIKTOK เปรียบเทียบกับนโยบายของรัฐบาล ระบุว่า เจ้าสาวที่แต่งงานกับผู้ชายที่มีภรรยาแล้วก็เหมือนโครงการ "คนละครึ่ง" ฝ่ายชายก็เหมือนโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ส่วนภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายก็เหมือนโครงการ "เราชนะ" แต่แม่ของฝ่ายชายบุกงานแต่งงานทำให้ "ระบบล่ม"