กรณีพบศพ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือ น้องหลิว อายุ 19 ปี สาวโรงงาน จ.ปราจีนบุรี ที่หายตัวนานกว่า 8 ปี สุดท้ายพบถูกฆ่านำศพทิ้งอำพรางคดีกลางไร่อ้อย อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยทางครอบครัวให้ข้อมูลว่า ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี คนสนิทของน้องหลิว อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องหลิว
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหลักฐานไปยื่นศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายจุมพล สุภาพงษ์ อายุ 56 ปี หรือ ผอ.ตุ๊ ผอ.รร.บ้านหนองสรวง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
โดยศาลจังหวัดสระแก้ว ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ จ.28/2564 ในควาผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของตนเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุอันสมควร"
สำหรับน.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือ น้องหลิว อายุ 19 ปี หายไปตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.2555 โดยจุดสุดท้ายที่หายไป คือ จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ คลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี โดยพบว่ามีคนแจ้งเบาะแสให้กับครอบครัวในช่วงเดือน มิ.ย.55 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากพบศพเมื่อวันที่ 13 พ.ค.55
หากย้อนกลับไปในอดีต นางสุรีวรรณ ยอดพะเนา แม่ของน้องหลิว เล่าว่า ตอนที่ผอ.ตุ๊ เข้ามาที่บ้าน เขาก็มานั่งที่บ้านตามปกติ น้องหลิวก็ไม่ได้แนะนำว่าเขาเป็นใคร แต่น้องหลิวจะเล่าให้ฟังมากกว่า หนักสุดที่รู้ว่าลูกสาวถูก ผอ.ตุ๊ ทำร้ายก็คือ การใช้ปืนตบหน้าลูกสาว ส่วนนายสมศักดิ์ ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะลูกสาวมักจะเล่าให้ตนฟังมากกว่า
ล่าสุดวันที่ 19 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านของ ภรรยา ผอ.ตุ๊ ซึ่งพบว่าวันนี้บ้านเงียบผิดปกติ มีเพียงนางทองใจ (นามสมมติ) แม่ยาย ผอ.ตุ๊ อยู่ในบ้านเท่านั้น แต่ไม่พร้อมออกมาพูดคุย ให้ข้อมูลอยู่ในบ้าน เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ลูกสาว ญาติ และลูกติด ผอ.ตุ๊ เดินทางตามไปที่ จ.สระแก้ว ส่วนเมื่อคืนนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าลูกเขยกลับมาตอนไหน ตนเข้านอนไปตั้งแต่เวลา 19.30 น. มารู้อีกครั้งก็ช่วงตำรวจมาที่บ้านตอนช่วงเช้า จึงรู้ว่า ผอ.ตุ๊กลับมา
เท่าที่รู้ ผอ.ตุ๊ กลับมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตนได้เจอลูกเขยตอนเจ้าหน้าที่มา ซึ่งตนยังไม่ได้คุยอะไรกับลูกเขย หลังจากนั้นก็ถูกควบคุมตัวไป เท่าที่เห็นสีหน้าอาการลูกเขยก็ปกติ ส่วนตัวตอนนี้สภาพจิตใจยังรับได้ มันเลยจุดวิกฤติแล้ว ไม่ได้กังวลอะไร เรื่องการประกันตัวต้องให้ลูกสาวเป็นคนดำเนินการ ตนไม่รู้เรื่องด้วย ไม่รู้ว่าเตรียมเงินไปประกันหรือไม่
ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงเรียนล่าสุดที่ ผอ.ตุ๊ มารับตำแหน่ง ได้พบกับคุณครูธง (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนทราบข้อมูลตามข่าวว่า ผอ.ตุ๊ ถูกจับ โดยเพิ่งทราบช่วงเวลา 10.00 น. ตนไม่รู้ว่า ผอ.ตุ๊ ไปอยู่ที่ไหนมา ไม่ได้ติดต่อกัน หลังรู้ว่าถูกจับก็ยังตกใจ เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่า ผอ.ตุ๊ จะถูกจับ อย่างที่ตนเคยบอกว่า ผอ.ตุ๊ อยู่ที่นี่ถือว่าเป็นคนดี พฤติกรรมต่างจากโรงเรีนนอื่น ๆ ที่ทีมข่าว แม้เรื่องปืนตนก็ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น
ส่วนเรื่องการรักษาการตำแหน่ง ผอ. ตอนนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาติดต่อมาแล้ว และให้ตนไปพบด่วน เนื่องจากจะต้องดำเนินตอนนี้ อย่างไรก็ตาม หากผอ.พิสูจน์ตัวเองและไม่ผิด ตนก็พร้อมให้กลับมาเป็น ผอ.ที่นี่ แต่หากผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย เพราะอย่างที่บอกแม้อารมณ์โกรธ โมโห ตนยังไม่เคยเห็นจาก ผอ.ตุ๊
ทีมข่าวเดินทางกลับมาที่วัดบ้านกร่าง ซึ่งเป็นพื้นที่โรงเรียนที่ 3 ที่ผอ.ตุ๊ มารับตำแหน่ง และถูกล่ารายชื่อขับไล่ออกจากโรงเรียน
ทีมข่าวสอบถาม พระครูสุนทร เจ้าอาวาสวัดบ้านกร่าง เปิดเผยว่า อาตมาเคยคุยกับ ผอ.ตุ๊ เนื่องจากวันที่ ผอ.ตุ๊ จะย้ายออกจากโรงเรียน ได้เข้ามาลาอาตมา
โดย ผอ.ตุ๊ มากราบลา และพูดกับอาตมาหลายเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่ ผอ.ตุ๊ พูดออกมาเอง โดยระบุว่า “ผมมีปัญหาเรื่องผู้หญิง และยุ่งอยู่บ้าง” ทำนองว่ายอมรับว่าตัวเองมีเรื่องผู้หญิง ซึ่งอาตมาก็ไม่ได้ถามต่อ อาตมาก็ไม่รู้ว่า ผอ.ตุ๊ พูดทำไม แต่ดูมีสีหน้าที่กังวลใจอยู่บ้าง จากนั้นอาตมาก็ไม่ได้เจอ ผอ.ตุ๊อีกเลย
ทีมข่าวเดินทางกลับมาที่โรงเรียนแห่งที่ 1 ที่เคยมีปมเรื่องชู้สาวกับครูในโรงเรียน ได้พบกับนายสงบ (นามสมมติ) ภารโรงของโรงเรียน เปิดเผยว่า ช่วงแรกผอ.ตุ๊ ก็ปกติ เป็นคนเงียบ ๆ ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน แต่ช่วงหลังตนเริ่มเห็นพฤติกรรมเมาสุราในที่ทำงาน มักชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ในห้องทำงานช่วงหลังเลิกเรียน ซึ่งคุณครูส่วนใหญ่ก็มองว่าไม่ดี ไม่เหมาะสม ชาวบ้านก็รู้เห็น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เห็นว่าเป็นผอ.โรงเรียน
ส่วนเรื่องชู้สาว ตนยืนยันว่ามีผู้หญิงในโรงเรียนจริง คนก็รู้กันทั่ว เป็นครูอัตราจ้าง หน้าตาดี ยังสาว โดยคบกันค่อนข้างออกหน้าออกตา ทั้ง ๆ ที่ ผอ.ตุ๊ ก็มีลูกมีเมียแล้ว ส่วนเรื่องหย่าเท่าที่ตนทราบเหมือนฝ่ายหญิงต้องการให้ ผอ.ตุ๊ หย่ากับเมีย เพื่อที่จะมาอาศัยด้วยกัน ซึ่งผอ.ตุ๊ ก็ยอมหย่ากับภรรยาจริง ส่วนฝ่ายหญิงเท่าที่ทราบมีสามีแล้ว สามีเป็นข้าราชการเช่นกัน ตนไม่รู้ทั้งคู่เก็บความลับทางบ้านอย่างไร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทำร้ายเด็ก ผอ.ตุ๊ ลงโทษเด็กนักเรียน ซึ่งผู้ปกครองรับไม่ได้ จึงไปแจ้งความร้องเรียนจนต้องย้ายสถานที่ทำงาน ส่วนครูสาวถูกให้ออกจากโรงเรียนเช่นกัน เนื่องจากชาวบ้านก็รับไม่ได้ ส่วนเรื่องอาวุธปืนตนไม่เคยเห็น แต่คิดว่า ผอ.ตุ๊ พกปืนประจำ เพราะ ผอ.ตุ๊ ยังเคยสอบถามตนทำนองว่า จะให้ทำด้ามปืนให้ แต่ตนก็ยังไม่เคยทำให้ และไม่เคยเห็นอาวุธปืน ซึ่ง ผอ.ตุ๊ จะหิ้วกระเป๋าเหลี่ยม ๆ เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็ตกใจ แต่หลังจาก ผอ.ตุ๊ ย้ายไปก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ตนไม่ค่อยได้สุงสิงกับ ผอ.ตุ๊ เพราะเห็นพฤติกรรมและตนก็ไม่ยุ่ง ผอ.ตุ๊ เป็นคนรู้กฎหมาย เวลาประชุมเวลาคุยจะรู้เรื่องกฎหมาย
จากการสอบถาม นางเอ๋ ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง เปิดเผยว่า ผอ.ตุ๊ มาอาศัยอยู่ที่บ้านพักครูหลายปี ส่วนครอบครัวก็อาศัยอยู่ที่บ้านอีกหลังในต.ตาพระยา เช่นกัน โดยพื้นฐานครอบครัวของ ผอ.ตุ๊ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ พ่อเป็นครู น้องชายเป็นตำรวจ เเต่ภายหลังจากที่พ่อเเละน้องชายเสียชีวิต ครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น เหลือเพียง ผอ.ตุ๊คนเดียว ที่ยังอยู่ในพื้นที่ ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อประมาณปี 58
สำหรับอุปนิสัย ผอ.ตุ๊ เป็นคนพูดจาดี อัธยาศัยดี เเต่เป็นคนเจ้าชู้ มีผู้หญิงมาติดพันหลายคน จนชาวบ้านในพื้นที่ก็ต่างร่ำลือกัน เเต่หลังจากปี 58 ที่ผอ.ตุ๊ ย้ายไป จ.สุพรรณบุรี ก็ไม่ได้ยินข่าวคราวอีกเลย กระทั่งล่าสุดได้ติดตามข่าวสาร เห็นผอ.ตุ๊ในข่าว ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ส่วนจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ เเละไม่อยากจะคิด เพราะเท่าที่สังเกตเขาดูเป็นคนใจดี
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่ครอบครัวของ ผอ.ตุ๊ อาศัยอยู่ ในพื้นที่ต.ตาพระยา อยู่ห่างจากบ้านพักข้าราชการ 850 เมตร จากการสอบถามเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ ในอดีตเป็นของพ่อ ผอ.ตุ๊ โดยตอนนั้นมีครอบครัวของ ผอ.ตุ๊ อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ เเม่เลี้ยง น้องชาย เเละน้องสาว ส่วนตัว ผอ.ตุ๊ ไม่เคยอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะจะอยู่บ้านพักข้าราชการ ในพื้นที่ต.ตาพระยา ห่างจากบ้านหลังนี้ ประมาณ 850 เมตร และนาน ๆ จะเเวะเวียนมา
เเต่ภายหลังปรากฏว่า พ่อกับน้องชายเสียชีวิต เเม่เลี้ยงกับลูกสาวก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงขายบ้านเมื่อปี 53 ในราคา 350,000 บาท ส่วนอุปนิสัยของ ผอ.ตุ๊ ตนก็ไม่ทราบ เพราะเคยเห็นเเค่ไม่กี่ครั้ง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ยังได้เดินทางไปยังบ้านพักของผอ.ตุ๊ ครั้งที่ยังทำงานดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.โรงเรียน ในจ.สระแก้ว พบว่าขณะนี้บ้านพัก 2 ชั้น กึ่งไม้กึ่งปูน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น มีผอ.โรงเรียนคนใหม่มาพักอาศัยอยู่แทนแล้ว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ผอ.ผึ้ง (นามสมมติ) ซึ่งไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าไปเก็บภาพภายในบ้านพัก เล่าว่า ตนไม่รู้จัก ผอ.ตุ๊ เป็นการส่วนตัว ทราบเพียงว่า ผอ.ตุ๊ ย้ายออกจากบ้านพักหลังนี้เมื่อเดือน ต.ค.58 ส่วนตนได้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่แทนในเดือน พ.ย.58
โดยในวันที่ตนย้ายเข้ามาอยู่ พบว่าบ้านหลังนี้ได้ถูกทำความสะอาดเอาไว้แล้ว ซึ่งตนไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือคราบเลือดใด ๆ พบเพียงสภาพบ้านบางจุดที่ถูกปลวกกินและผุพังตามอายุการใช้งาน เมื่อทราบข่าวของผอ.ตุ๊ อาจเป็นคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรม ตนก็รู้สึกตกใจและคิดว่าเหตุการณ์นี้ค่อนข้างจะโหดร้าย แต่เท่าที่ตนอาศัยบ้านหลังนี้ ก็ไม่เคยมีอะไรผิดสังเกต หรือเจอสิ่งลี้ลับอะไร