สหรัฐฯ จ่อประกาศ "ภัยพิบัติครั้งใหญ่" รับมือภัยหนาวในรัฐเทกซัส

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ เผยวานนี้ว่า พร้อมประกาศ "ภัยพิบัติครั้งใหญ่" ในรัฐเทกซัส ซึ่งกำลังเผชิญกับพายุหิมะ ทันทีที่เอกสารมาถึงห้องทำงาน และจะลงพื้นที่ประสบภัย หากไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น

ประชากรชาวเทกซัสเกือบครึ่งหนึ่ง กำลังเผชิญภาวะน้ำประปาหยุดไหล หลังพายุฤดูหนาวพัดถล่มในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นเวลา 5 วัน ก่อนที่จะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภัยหนาวที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 20 ราย แต่ทางการคาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหลังจากนี้

ส.ว.เท็ด ครูซ แห่งรัฐเทกซัส ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง หลังจากเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่เม็กซิโก ทั้งที่ประชาชนในรัฐเทกซัส กำลังเผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว จากอิทธิพลพายุฤดูหนาว อีกทั้งคนหลายล้านที่เผชิญกับความหนาวเหน็บในรัฐเทกซัส ต้องหาทางทำให้ร่างกายอบอุ่นกันเอง เนื่องจากระบบสาธารณูปโภคขัดข้อง ไฟฟ้าดับและน้ำประปาไม่ไหล

ครูซ ซึ่งเป็น ส.ว.รัฐเทกซัส สังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งเคยลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ยอมถอนตัว เพื่อหลีกทางให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์นั้น ได้ให้เหตุผลที่เดินทางไปท่องเที่ยวในเม็กซิโก เมื่อวันพุธที่ 17 ก.พ.และตัดสินใจกลับก่อนกำหนดว่าทริปนี้เป็นทริปสำหรับลูกสาว และตนก็ต้องการจะเป็นพ่อที่ดี แต่ตนได้กลับมา เพราะรู้สึกไม่ถูกต้อง

นอกจากนั้น ส.ว.ครูซ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อรูปถ่ายของเขาที่สนามบินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถูกนำมาเผยแพร่ ยังได้เขียนแถลงการณ์เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.พ. ชี้แจงเหตุผลที่พาครอบครัวไปเที่ยวในเม็กซิโกว่า โรงเรียนในรัฐเทกซัสปิด และตนได้จองตั๋วเครื่องบินและที่พักสำหรับการไปเที่ยวกับลูกสาว 2 คนที่ยังเด็ก ที่ได้ขอให้พ่อพาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ครูซไม่ได้ขอโทษกับการไปเที่ยวพักผ่อนของเขาแต่อย่างใด ท่ามกลางการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐเทกซัสจากภัยพายุฤดูหนาว และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในหลายรัฐ รวมทั้งเทกซัสแล้วอย่างน้อย 37 ศพ