ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางเพจเฟซบุ๊ก
Police Radio (Thailand) ได้โพสต์ภาพและข้อมูลประชาสัมพันธ์กิจกรรม รณรงค์รับมือบอลโลก 2018 ภายใต้แนวคิด “ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ใครๆ ก็ไม่พนัน” บริเวณลานว่างเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.
ด้าน พันตำรวจเอก นครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบและอายัดบัญชีผู้เล่นการพนันออนไลน์ และบัญชีปลายทางผู้รับแทงแล้ว 1,004 บัญชี วงเงิน 22 ล้านบาท ขณะนี้เงินที่อายัดทั้งหมด เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรายละเอียดหากพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนัน จะเปลี่ยนสถานะไปเป็นผู้กระทำความผิดทันที มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 พัน แต่หากพบว่าเป็นการพนันออนไลน์ โทษจะสูงขึ้น
นอกจากนี้ หากพบผู้เล่นการพนันออนไลน์แต่ละครั้งเกิน 100 คน หรือมีวงเงินในการกระทำความผิดเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จะถือเป็นความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 2 หมื่น-2 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ
รอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล ระบุ ขณะนี้อยู่ในช่วงกระแสบอลโลก เว็บไซต์การพนันต่างๆ จึงมีการประชาสัมพันธ์ ลดแลก แจก แถม เพื่อจูงใจให้ผู้เล่นเข้าไปเล่นเป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเล่นการพนันออนไลน์ แค่เพียงสมัครเป็นสมาชิกจนถึงมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติทางธุรกรรมการเงิน ขอให้รอรับหมายเรียกได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการทำงานและตรวจสอบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งผู้ที่เลี่ยงไปเล่นการพนันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ทางตำรวจก็มีเครือข่ายสามารถตรวจสอบได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้มีการเชิญผู้ประกอบการสถานบันเทิง และร้านอาหาร มาทำความเข้าใจถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 46/2559 กรณีหากสถานประกอบการใดยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันในสถานที่ของตน จะถูกสั่งปิดและห้ามมิให้เปิดสถานบริการเป็นเวลา 5 ปี