วันที่ 20 ก.พ. 64 เวลา 10.30 น. คาราวานของนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เดินทางมาที่สถานสงเคราะห์คนชราธรรมปกรณ์ (โพธิ์กลาง) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทั้งลุงพล ป้าแต๋น ทีมทนาย ยูทูเบอร์รวมเงินส่วนตัวกว่า 14,400 บาท ร่วมทำบุญและเลี้ยงอาหารให้กับผู้สูงอายุ
นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยเรื่องที่เพจเฟซบุ๊กวัดดานพระอินทร์ มีการโพสต์ข้อความว่า "ถ้าเรามีใจที่เมตตา ทุกๆปัญหาก็คือเด็ก เล็กๆจิ๊บๆ" หลังจากที่ลุงพลประกาศว่าไม่ใช่ศิษย์ของพระอาจารย์พล
ลุงพล ระบุว่า การที่พูดอย่างนั้นเพราะตัวเองยืนยันว่าเป็นผู้มีความเคารพนับถือในพระพุทธศาสนา ซึ่งทางพระอาจารย์พลก็ได้เข้ามายื่นให้ความช่วยเหลือในช่วงแรก ตนเป็นชาวพุทธ ก็มีความนับถือพระสงฆ์ทุกรูปทั่วฟ้าเมืองไทย และยืนยันว่าไม่ได้ผลักพระอาจารย์พลออก หลังจากหมดผลประโยชน์ ซึ่งถ้ามีโอกาสตนก็จะไปทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดดานพระอินทร์
พระอาจารย์พล เจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ เปิดเผยว่า จากกรณีภาพโพสต์ดังกล่าว เป็นกลุ่มแอดมินซึ่งเป็นญาติโยมที่อุปถัมภ์วัดได้มีการโพสต์แชร์เรื่องราว โดยครั้งหนึ่งเด็กที่ปรากฏอยู่ในภาพล้มป่วย แต่ได้น้ำมนต์และไม้เท้าของพระพล ทำให้อาการดีขึ้น จึงได้มีการฝากเด็กคนดังกล่าวให้เป็นลูกบุญธรรมของพระพล และด้วยเหตุการณ์ที่เด็กหายป่วย จึงได้โพสต์เรื่องราวลงเพจของวัด แต่ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีน้องชมพู่ หรือเกี่ยวข้องกับลุงพลแต่อย่างใด
ขณะที่การให้สัมภาษณ์ของลุงพล ต่อการเป็นลูกศิษย์ของพระพล ซึ่งอ้างว่าไม่ได้เป็นลูกศิษย์ เพียงแค่รู้จักกัน เพราะเนื่องจากพระพลเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านพุทธศาสนา เป็นผู้ปฏิบัติธรรม จึงได้เคารพนับถือ และเลื่อมใสศรัทธาในตัวพระพลนั้น พระอาจารย์พล กล่าวว่า ตนเองไม่รู้ว่าทำไมลุงพลถึงออกมาปฏิเสธหรือพูดทำนองดังกล่าว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วตนเองก็ยกให้ลุงพลเป็นลูกศิษย์
แต่ในเมื่อลุงพลเลือกที่จะพูดแบบนั้น ก็คงจะไม่ไปยุ่งเกี่ยว ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า เพราะมีลูกศิษย์ลูกหาเคยเตือนตัวเองหลายครั้งว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลุงพล แต่ด้วยตนเองอยากจะชี้แนะด้านทางธรรมให้กับลุงพลจึงได้เข้าไปข้องเกี่ยว แต่สุดท้าย ไม่ได้แม้แต่ความเคารพในตัวพระพล ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าลุงพลจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
โดยที่ผ่านมาตนเองช่วยเหลือในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการถ่าย Music Video ล่าสุดของป้าแต๋น ตนเองได้ออกค่าใช้จ่ายค่าเช่ารีสอร์ตให้กับกลุ่มยูทูเบอร์ ลุงพลป้าแต๋นในระหว่างการถ่ายทำ
อีกทั้งยังมีการช่วยเหลืออีกหลายเรื่อง หมดเงินไปดีกว่า 6-7 แสนบาทแล้ว ทำให้เงินในบัญชีส่วนตัวล่าสุดมีไม่ถึง 7,000 บาท ดังนั้นเมื่อทุ่มเทและให้ลุงพลมากขนาดนี้ แต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธในความเป็นพระอาจารย์หรือลูกศิษย์ก็คงต้องต่างคนต่างอยู่ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันจะดีกว่า
นอกจากนี้ พระพลยังได้ส่งกลอนข้อความมาให้ทีมข่าว ซึ่งฝากถึงใครบางคนว่า
"จงเตือนตน อย่าให้ใจ ใครไปทั่ว
จะหมองมัว เศร้าใจ ในภายหลัง
พูดอะไร ที่ไม่คิด ชีวิตพัง
ทั้งสติ และสตังค์ ระวังตน
อย่าคมใคร มองใคร แค่ใบหน้า
อย่าตีค่า ราคาใคร ให้สับสน
สักวันหนึ่ง จะเห็นค่า ความเป็นคน
ให้เวลา พิสูจน์ผล คนเฝ้ามอง"
สำหรับลุงพลและพระพล มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน และเคยเจอกันบ่อยครั้งที่งานบุญต่าง ๆ ในภาคอีสาน 14 ก.ค. 63 ลุงพลเดินทางไปที่วัเดานพระอินทร์เพื่อรดน้ำมนต์, วันที่ 25 พ.ย. 64 พระพลเคยทำพิธีทำนายการปลูกสร้างพญานาค, วันที่ 12 ต.ค. 63 ลุงมาร่วมงานบุญกฐินที่วัดดานพระอินทร์, 11 ธ.ค. 63พระพลมาร่วมพิธีบวงสรวงพญานาค ล่าสุด 21 ม.ค. 64 พระพลมอบหินคล้ายเหล็กไหลให้กับลุงพล