ตำรวจเร่งสอบสวนสาเหตุที่แท้จริง กรณีน้องสาวอดีตรองฯ ผู้ว่าเมืองคอน เสียชีวิตในคลินิกเสริมความงาม ย่านรามคำแหง กทม. เบื้องต้นลูกสาวผู้ตายให้การว่าขณะเกิดเหตุคุณแม่ เข้ารับการดูดไขมันตั้งแต่เวลา 10.00 น. และจะเสร็จในเวลาประมาณ 14.00 น. แต่เมื่อเวลา 13.19 น. ทางคลินิกติดต่อมาว่าคุณแม่ชีพจรหยุดเต้น เมื่อไปถึงเห็นคุณแม่ในสภาพที่นอนนิ่ง ตัวแข็ง ตัวเย็น คาดเสียชีวิตมามากกว่า 1 ชม.
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ว่า น้องสาวอดีตรองผู้ว่าฯ เสียชีวิตหลังดูดไขมัน ตำรวจตรวจสอบคนไข้เสียชีวิตในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง กรุงเทพฯ
จากนั้น อดีตรองผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ร้องเรียนว่าน้องสาวของตน ไปดูดไขมันที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง เป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งที่ น้องสาวเป็นคนสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว หลังเกิดเรื่องได้ไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับตำรวจ มองว่าคลินิกแห่งนี้ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ หรือยาที่ใช้ในการรักษา รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ นอกจากนี้แพทย์ที่เป็นคนทำก็มีอายุ 72 ปีแล้ว และไม่ใช่แพทย์ประจำคลินิก มักเข้ามาทำที่คลินิกเป็นเคสๆ อาจจะไม่มีความชำนาญ
ขณะลูกสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนแม่จะตัดสินใจไปดูดไขมัน ได้ไปปรึกษาโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกหลายแห่ง ก่อนจะตัดสินใจทำที่คลินิกแห่งนี้
วันเกิดเหตุ แม่ต้องเข้ารับการดูดไขมันตั้งแต่เวลา 10.00 น. และจะเสร็จในเวลาประมาณ 14.00 น. ตามที่แม่ได้นัดให้ตนเองไปรับ แต่จู่ๆ น้องชายโทรมาบอกในช่วงเวลาประมาณ 13.19 น. ว่าทางคลินิกติดต่อมาว่าแม่ชีพจรหยุดเต้น ตนจึงรีบไปที่คลินิก เมื่อไปถึงเห็นคุณแม่ในสภาพนอนนิ่ง ตัวแข็ง ตัวเย็น
โดยตั้งแต่เกิดทางคลินิกพยายามติดต่อเข้ามาพูดคุยเรื่องเงินชดเชย แต่ตนไม่ขอพูดคุย เพราะต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเพจเฟซบุ๊กของคลินิกกับคลินิกก็ปิดตัวไปแล้ว เกรงว่าคดีนี้จะเงียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้เชิญแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในคลินิกที่เกิดเหตุ เข้ามาสอบปากคำไปแล้ว ทั้งสิ้น 6 ปาก สำหรับคำให้การนั้นอยู่ในสำนวน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ หลังจากนี้จะเชิญญาติของผู้ตายเข้าให้ปากคำกับตำรวจในภายหลัง ยืนยันจะทำสำนวนอย่างรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนผลชันสูตรศพของนิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุว่าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว