จากกรณีนายวิชาญ มะลิทอง หรือ แดง อายุ 46 ปี ครูสอนมวย ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตในซอยอ่อนนุช 70/1 พื้นที่ปากซอยหมู่บ้านเสรี-อ่อนนุช ซ.19 กรุงเทพฯ จากนั้นตำรวจสืบทราบจนนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุคือ น.ส.พลอยไพลิน คุณานุกรกุล อ้างว่าตัวเองทำไปเพื่อป้องกันตัว หลังจากถูกผู้ตายพยายามข่มขืน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สุดโหด! เชือดคอครูมวยดับ สาวรับฆ่าเพราะโดนปล้ำ ตร.เจอพิรุธกางเกงกลับตะเข็บคาดมือฆ่ามากกว่า 1
วันที่ 23 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ คุมตัวนางสาวพลอยไพลิน คุณานุกรกุล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีทนายความ และครอบครัวนางสาวพลอยไพลินร่วมรับฟังด้วย ระหว่างการนำตัวนางสาวพลอยไพลินมาสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อมูลถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ นางสาวพลอยไพลินเดินก้มหน้า และใช้เสื้อคลุมดำคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า โดยไม่ตอบคำถามใด ๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปให้ปากคำทันที
นอกจากนี้ยังพบว่า นางสาวพลอยไพลิน ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดิม แจ็กเก็ตสีดำ มีฮู้ดคลุมหัว สวมกางเกงขายาวสีดำ ขณะเดียวกันน้องและแม่ของนางสาวพลอยไพลินปฏิเสธใตอบคำถาม เดินก้มหน้า ทีมข่าวถามว่า "ตอนนี้พี่สาวเครียดไหม" น้องสาวยังพยักหน้า
ระหว่างการสอบคำ ทนายความของนางสาวพลอยไพลินได้ออกมาเข้าห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามรวมถึงทิศทางการต่อสู้คดีหลังจากนี้ และประเด็นที่ว่านางสาวพลอยไพลินกระทำคนเดียวจริงหรือไม่นั้น
ทนายความมีสีหน้าเครียด ก่อนจะยกมือไหว้ขอร้องต่อสื่อมวลชน ระบุว่า "ไม่สามารถที่จะเปิดเผย หรือบอกรายละเอียดอะไรในคดีนี้ได้ เนื่องจากนางสาวพลอยไพลินไม่ยินยอมที่จะให้นำข้อมูลทั้งหมดมาเปิดเผย" จากนั้นทนายความรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องสอบสวนทันที
ด้าน พันตำรวจเอกสุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการ สน.ประเวศ ระบุว่า จากสอบปากคำนางสาวพลอยไพลินให้การภาคเสธ ยอมรับว่าก่อเหตุจริง แต่อ้างว่าที่ทำไปก็เพื่อป้องกันตัว ขณะนี้ผู้ต้องหาไม่ได้มีความเครียด เนื่องจากมีครอบครัวและทนายเข้าไปรับฟังด้วย สำหรับชนวนสังหารในครั้งนี้ มาจากเรื่องชู้สาว เรื่องส่วนตัว และความขัดแย้งในอดีต ยอมรับว่าขณะนี้ตำรวจยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่ร่วมก่อเหตุ แต่หากหลังจากนี้พบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงก็จะต้องดำเนินการต่อไป
ส่วนร่องรอยลักษณะบาดแผลที่ลำคอของผู้ตาย ยังระบุไม่ได้ว่าถูกของมีคมแทงในลักษณะไหน ต้องรอผลจากนิติเวชถึงจะสามารถยืนยันได้ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ติดต่อให้ นายโอ๊ต ชายคนสนิทมารับด้วยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ถ้อยคำ ต้องการสอบถามถึงในวันที่เกิดเหตุ และต้องดูช่วงเวลาของนายโอ๊ตว่ามีความสัมพันธ์กับกล้องวงจรปิดหรือไม่
ส่วนการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จะไม่คุมตัวนางสาวพลอยไพลินไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ต้องหาตามสิทธิ์ วันพรุ่งนี้ตำรวจจะคุมตัวนางสาวพลอยไพลินไปขออำนาจศาลอาญาพระโขนงฝากขังผลัดแรกต่อไป
ขณะเดียวกันสำหรับการนอนห้องขังคืนแรกของนางสาวพลอยไพลิน เจ้าหน้าที่สิบเวรหน้าห้องคุมขัง สน.ประเวศ ระบุว่า นางสาวพลอยไพลิน มีภาวะอ่อนเพลียจากการถูกสอบปากคำ อีกทั้งก็มีปัญหานอนไม่หลับ เครียดจนต้องร้องขอให้แม่และน้องสาวเดินทางมาเยี่ยม
ภายหลังเวลา 16.30 น. ตำรวจ สน.ประเวศ ได้นำตัวนางสาวพลอยไพลินออกมาจากห้องประชุมของ สน.ประเวศ หลังถูกสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นระยะเวลาร่วม 3 ชม. 30 นาที เพื่อนำตัวไปยังห้องคุมขัง นางสาวพลอยไพลินปิดปากเงียบ ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องคุมขัง ภายหลังผู้เป็นแม่และน้องสาวได้ออกมาจากห้องดังกล่าว ผู้เป็นแม่ได้กอดคอน้องสาวของพลอยไพลิน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการสอบปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ว่ากังวลอะไรหรือไม่ ผู้เป็นแม่ระบุเพียงสั้น ๆ ว่า "ไม่หรอกค่ะ เพราะข่าวมั่ว"
ขณะที่เกิดเหตุ นายวิฑูรย์ ไชยสงค์ ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นคนพบศพคนแรก เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุตนเองออกจากบ้าไนปช่วง 20.45 น. เพื่อไปร้านนวด ไปกับครอบครัว ภรรยา และลูกสาว ช่วงเวลานั้นไม่มีคนอยู่บ้าน ตนเองกลับมาช่วง 23.00 น. ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาเห็นรถสีขาวของผู้ตายจอดอยู่ ตนเองยังคิดว่าทำไมถึงจอดรถขวางหน้าบ้านชาวบ้านตรงนั้น เมื่อรถเข้ามาใกล้ ไฟหน้ารถสาดไปเห็นตัวรถ เห็นรอยเลือดเต็มไปหมด ตนยังไม่เห็นศพ คิดว่ารถคันนี้ไปถูกชนมา จนกระทั่งตนขับรถมาถึงที่บ้าน พบว่ามีคนนอนอยู่กลางถนนข้างรถคันเกิดเหตุ ก่อนจะจอดรถหน้าบ้านส่งลูกกับภรรยา และตนก็เดินออกมาดู ลูกสาวตนเพิ่งอยู่ ป.4 เห็นแบบนั้นเดินตัวสั่นด้วยความกลัวเข้าไปในบ้าน
ตนออกมาดูก็ตกใจ เห็นคนตายแน่นิ่งไปแล้ว หมาที่บ้านตนก็วิ่งไปมา สภาพคนตายไม่สวมเสื้อ มือ 2 ข้างวางทับที่หน้าอก กางเกงใส่กลับด้านในออกมา ติดกระดุม ไม่รูดซิบ แต่ไม่แน่ใจว่ากางเกงชั้นในใส่หรือไม่ ตนเองทำอะไรไม่ถูก เดินเข้ามาในบ้านราว 3 นาทีและตัดสินใจแจ้งความ เมื่อออกมาที่หน้าบ้าน พบว่าน้องชายกับหลานตนมาหาที่บ้าน ตนจึงเล่าเหตุให้ฟัง ก่อนพาเดินมาดู หลานสาวตนกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ ตอนนั้นตนเองไม่พบว่ามีใครในที่เกิดเหตุ และไม่ทราบว่าคนตายเป็นใคร อีกทั้งตนเองก็ไม่ทราบว่ารถเป็นของใคร ยอมรับว่ากลัว ตนก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และยังไม่มีเรื่องอาถรรพ์ใด ๆ
นายเอก อายุ 47 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า ครูแดงเป็นคนดี ชอบทำบุญ เวลามีกิจกรรมกลุ่ม 2 ล้อไปแจกของตามโรงเรียน ผู้ตายจะร่วมด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ตนไม่รู้ปมชู้สาวมาก่อน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวอีกอย่างตนกับผู้ตายไม่ได้คุยกันทุกเรื่อง จะคุยกันก็ตอนเจอกันตามงานบุญ ประมาณ 3-4 ครั้ง
ส่วนลางบอกเหตุ ตนคิดว่าโพสต์เฟซบุ๊กที่ผู้ตายโพสต์ว่าจะมีกำหนดบวช เลื่อนมาเป็นวันที่ 28 ก.พ. 64 ดูเป็นลางแปลก ๆ ผู้ตายโพสต์ว่า "ขอลาเพื่อน ๆ พี่น้อง" ซึ่งคนมองว่าผู้ตายใช้คำแปลก ๆ เพราะคนจะบวชนั้นต้องใช้คำว่า "ขอกราบลาอุปสมบท" กระทั่งมาเกิดเหตุ งตนคิดว่าผู้ตายไม่น่ารู้ตัวว่าจะถูกฆ่าตาย
นางทวีนุช ตาลัย หรือ ปุ๊กกี้ อายุ 23 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนจำนางสาวพลอยไพลินได้ เนื่องจากตนเคยจับได้คาห้องว่าสามีแอบพานางสาวพลอยไพลินเข้ามาเมื่อหลายปีก่อน โดยทั้งคู่รู้จักกันในฟิตเนสของห้างแห่งหนึ่ง ขณะที่สามีของตนรับจ้างเป็นเทรนเนอร์สอนมวยอยู่
โดยในวันนั้นตนได้บอกกับสามีว่าตนไปทำงาน แต่ความจริงตนลางานแล้วแอบอยู่ในห้องนอน เมื่อตนเห็นทั้งคู่เข้ามาในห้องนอน ตนจึงแสดงตัวออกมา ทำให้ทั้งคู่ตกใจ ส่วนสามีตนก็อ้างว่านางสาวพลอยไพลินเป็นแค่เพื่อน แต่ตนทราบดีว่าทั้งคู่ยังคงแอบติดต่อกัน ตนทราบถึงความเจ้าชู้ของสามี แต่ตนนั้นก็อดทนเรื่อยมา
จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2561 สามีของตนได้แอบนัดนางสาวพลอยไพลินไปที่เกิดเหตุ แต่ถูกสามีของนางสาวพลอยไพลินจับได้ สามีของนางสาวพลอยไพลินจึงไล่ขับรถเก๋งไล่ชนสามีของตน จนใบหน้าบวมช้ำ ตาซ้ายได้รับการกระทบกระเทือน จนเกือบบอด โชคดีมีวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาห้ามไว้ก่อน
จนถึงปลายปี 2562 สามีของตนก็ถูกชายปริศนาโทรศัพท์ว่าจ้างไปสอนมวยที่บ้านย่านพัฒนาการ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกผู้ชายฉกรรจ์ 3 คนรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก คิ้วขวาแตก ปากแตก ช้ำตามร่างกาย จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนไม่คิดว่าสามีของตนจะต้องวนเวียนมาพบเจอกับนางสาวพลอยไพลินอีก จนกระทั่งเกิดเหตุฆ่าปาดคอขึ้น
ในวันที่ 9 ก.พ. 64 ตนทราบมาว่านางสาวพลอยไพลินได้มาที่ค่ายมวยของสามีตน สามีตนได้เป็นเทรนเนอร์สอนมวยให้ ตนสันนิษฐานว่าจากนั้นทั้งคู่อาจผิดใจกัน หรือทั้งคู่อาจถูกสามีของนางสาวพลอยไพลินจับได้ จนเกิดเป็นเรื่องบานปลายแล้วเกิดเหตุปาดคอขึ้น
โดยในช่วงเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กปริศนาส่งข้อความมาหาตนว่า "โดนผัวสวมเขา จนเขางอกยาวทะลุเพดานแล้วยังไม่รู้ตัวเลยมั้ง" ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเป็นนางสาวพลอยไพลินส่งมา
อย่างไรก็ตาม สามีของตนเป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน และเก่งเชิงมวยเป็นอย่างมาก ตนมั่นใจว่านางสาวพลอยไพลินไม่สามารถก่อเหตุเพียงลำพังได้ อาจเป็นเพียงผู้สมรู้ร่วมคิดหรือรับผิดแทนใคร เนื่องจากนางสาวพลอยไพลินเป็นคนรูปร่างเล็ก ค่อนข้างผอม สูง 170 ซม. ตนอยากจะบอกนางสาวพลอยไพลินและคนร้ายว่า "รับสารภาพออกมา พูดออกมาว่าใครทำ พูดออกมาทั้งหมด" ตนอยากให้คนร้ายตัวจริงถูกประหารเสียชีวิตตามสามีของตนไป เพราะสิ่งที่ทำลงไปเกินความเป็นมนุษย์ ส่วนสามีของตน ตนอยากจะบอกว่าไม่ต้องห่วง ตนจะดูแลลูกให้ดีที่สุด
นายวิเชียร มะลิทอง อายุ 67 ปี พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้บอกกับลูกชายว่าให้เดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อสะสางปัญหาเกี่ยวกับหุ้นส่วนค่ายมวยเพื่อที่จิตใจจะได้สะอาด ไม่กังวลอะไรก่อนที่จะบวช ผู้ตายต้องการถอนหุ้นค่ายมวย เนื่องจากแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว เพราะพิษโควิด-19 เมื่อสึกแล้วจะได้กลับมาอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี กับครอบครัวแบบถาวร แต่ตนไม่คิดว่าลูกชายจะเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุก่อน
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบถึงปมของการฆาตกรรม แต่ตนเชื่อว่าลูกชายตนถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด เพราะคนร้ายอยากให้ลูกชายตนทรมานก่อนตาย สังเกตได้จากคราบเลือดที่เปื้อนอยู่รอบรถ ชี้ชัดว่าลูกชายตนต้องดิ้นทรมานก่อนจะสิ้นใจ
ตนสงสัยว่าทำไมนางสาวพลอยไพลินถึงยอมรับผิดเพียงคนเดียว เนื่องจากลูกชายของตนเป็นนักมวยที่แข็งแรงมาก ผู้ชายต่อยตัวต่อตัวกับลูกชายของตนยังสู้ลูกชายตนไม่ได้ ตนเชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวก็คงไม่มีใครเชื่อว่านางสาวพลอยไพลินจะสามารถลงมือก่อเหตุเพียงลำพังได้ ที่ยอมรับสารภาพอาจเป็นเพราะนางสาวพลอนไพลินปกป้องใครอยู่หรือไม่
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายกับนางสาวพลอยไพลิน ตนไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด แต่ในช่วงปี 2561-2562 ลูกชายตนได้พานางสาวพลอยไพลินมาเที่ยวที่บ้าน จ.สุพรรณบุรี 2 ครั้ง มาเช้าเย็นกลับ ซึ่งลูกชายตนอ้างว่านางสาวพลอยไพลินเป็นลูกศิษย์ ขณะนั้นตนยังไม่รู้จักกับภรรยาของลูกชาย ลูกชายพาภรรยามาพบหลังจากที่ภรรยาตั้งครรภ์ โดยเท่าที่ตนสังเกต ทั้งคู่นั้นมีความสนิทกันพอสมควร
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ หรือ มศว เปิดเผยว่า จากข้อสันนิษฐานที่หลายคนมองว่ารอยเลือดรอบคันรถเก๋ง อาจเป็นการจัดฉากหรือไม่ ข้อเท็จจริงอย่างแรกที่ต้องพิสูจน์คือ ต้องตรวจ DNA ให้ได้ว่ารอยเลือดนั้นเป็นของครูแดงหรือไม่ หลังจากนั้นต้องดูว่ารอยเลือดรอบคันรถและตามพื้นเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกันหรือไม่ ถึงจะวิเคราะห์ได้ว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่
โดยปกติคนที่ถูกปาดคอจะไม่ตายในทันที ยังสามารถเดินได้ จะเสียเลือดในระดับหนึ่งจนช็อกหมดสติและเสียชีวิต ขณะเดียวกันบริเวณลำคอมีเส้นเลือดแดงใหญ่ 2 เส้น เมื่อถูกปาดคอ เลือดจะพุ่งปรี๊ด ฉีดเป็นสายน้ำ เอามือปิดก็มักจะปิดไม่มิด เพราะเลือดมีแรงดันสูง ดังนั้น รอยเลือดที่เห็นบริเวณท้ายรถ อาจเป็นรอยเลือดพุ่งจากลำคอ ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ที่เอาเลือดมาป้าย
สำหรับรอยเลือดที่เหมือนคนเอามือปาดละเลงบริเวณข้างรถ และฝากะโปรงหน้ารถ อย่างแรกเราไม่รู้ท่าทางของคนตายในขณะนั้นอาจจะอยู่ในท่าคุกเข่า จึงไม่ได้จับหลังคารถ และเอามือจับข้างรถ หรือดึงที่จับประตูแทน เพื่อพยุงตัวขึ้นมา ส่วนรอยเลือดหน้ากะโปรงรถ เป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นการพยุงตัว เพราะคนเสียเลือดมาก จะพยุงตัวไม่อยู่
ส่วนการจะดูว่าคนตายมีการต่อสู้หรือไม่นั้น ต้องดูจากสภาพศพ เนื่องจากปกติคนโดนปาดคอจะยังไม่ตายในทันที และจะป้องกันตัวเอง บริเวณแขนและมืออาจมีรอยถูกมีดบาด ทางนิติวิทยาศาสตร์เรียกว่า บาดแผลจากการป้องกันตัว หากไม่มีบาดแผลป้องกันตัว เป็นไปได้ว่าอาจถูกฆาตกรรม คนตายอาจจะอยู่ในสภาพที่หลับไหลหรือหมดสติ แล้วจึงโดนปาดคอ เจ้าหน้าที่ต้องไปชันสูตรหาสารในร่างกายว่าดื่มกินอะไรเข้าไปก่อนหน้านี้หรือไม่
ทีมข่าวเดินทางมาที่บริเวณปากซอยอ่อนนุช 70 แยก 2 ทางเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งได้ข้อมูลว่าผู้ตายเคยถูก น.ส.พลอยไพลิน และชายของฝ่ายหญิงขับรถชน นางเม้าท์ (นามสมมติ) แม่ค้า คนเห็นเหตุการณ์ที่มีการถูกรถชน เปิดใจว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อราว 2 ปีที่แล้ว เดิมทีตนเองไม่รู้จักว่าแต่ละคนชื่ออะไร เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดช่วง 17.00 น. เป็นช่วงที่มีตลาดเย็น ตอนนั้นพ่อค้าแม่ค้าต่างขายของ ก็พบว่ามีรถจักรยานยนต์ขับด้วยความเร็ว และมีรถยนต์เก๋งสีเทาขับตามมาด้วยความเร็ว พุ่งชนท้ายครูแดงจนกระทั่งรถล้ม
จากนั้นรถเก๋งก็เร่งเครื่องต่อ เหมือนจะถอยรถมาทับ ชาวบ้านแม่ค้าต่างร้องบอกรถเก๋งว่าอย่าทับครูมวย สมัยนั้นพ่อค้าผัดไทยเดินไปเปิดประตูนั่งคนนั่งข้าง พบหญิงที่ชื่อพลอยไพลินนั่งอยู่ ตนเองจำได้แม่นว่าเป็นคนในข่าวล่าสุด มีผู้ชายวัยราว 28-30 ปี เป็นคนขับ ตอนนั้นฝ่ายหญิงพูดว่า "รู้จักกัน" และบอกว่า "เราเลิกกันแล้ว จะมาทำแบบนี้ทำไม" อ้างว่าครูแดงตื๊อเขามานาน พวกตนยังบอกว่าว่าคนรู้จักกันทำไมทำแบบนี้
สำหรับครอบครัวพ่อแม่ และภรรยาของผู้เสียชีวิต ความเห็นตรงกันที่ไม่เชื่อคำรับสารภาพที่นางสาวพลอยไพลินอ้างว่าก่อเหตุคนเดียว และทำไปเพื่อป้องกันตัว