ป.ป.ท.ชี้มูลเอาผิด "ชัยวัฒน์" ให้ออกจากราชการ คดีเผาบ้านบางกลอย

25 ก.พ. 64

ป.ป.ท.ชี้มูลเอาผิด "ชัยวัฒน์" อดีตหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจาน ให้ออกจากราชการ คดีเผาหมู่บ้านกะเหรี่ยงบางกลอย ผิด ม.157

วันนี้ (25 ก.พ.64) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ท.โดยมี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ท. เป็นประธานการประชุม โดยหนึ่งในวาระการประชุมของวันนี้คือ การพิจารณาคดี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ รวม 6 คน ได้เข้ารื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินอื่นๆ ของนายโคอิ หรือคออี้ มีมิ ผู้นำชาวกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดิน และของชาวบ้านอีกหลายราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5-9 พ.ค.2554

ที่ประชุมมีมติชี้มูลความผิด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และมีมติให้ออกจากราชการ โดย ป.ป.ท.จะส่งสำนวนให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัย และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินคดีอาญา

ทั้งนี้คดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5-9 พ.ค. 54 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่รวม 6 คน เข้ารื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินอื่นๆ ของนายโคอิหรือคออี้ มีมิ และของชาวบ้านอีกหลายราย ซึ่งเป็นชาวไทยพื้นเมืองดั้งเดิมเชี้อสายกะเหรี่ยงที่หมู่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน เสียหายราว 100 หลัง

นายคออี้ มีมิ ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวกที่วางเพลิงเผาทรัพย์ บ้านเรือนที่พักอาศัย ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน และสำนวนถูกส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)

ต่อมานายคออี้ และพวก ฟ้องเป็นคดีขึ้นสู่ศาลปกครอง และคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เป็นคดีหมายเลขดำที่ อส.77/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อส.4/2561 โดยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ศาลวินิจฉัยได้ความแล้วว่า นายชัยวัฒน์ฯ กับพวก เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ ใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่กระทำความผิดในการรื้อถอนเผาทำลายทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างของนายโคอิ หรือคออี้ มีมิ กับพวก ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 คน 

การกระทำดังกล่าวของนายชัยวัฒน์ กับพวกในทางกฎหมาย อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาต่อไปนี้ ได้แก่ มาตรา 157 ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด (อายุความ 15 ปี)

มาตรา 217 ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น (อายุความ 10 ปี), มาตรา 218 (1) ความผิดฐานวางเพลิงเผาโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย เช่น บ้านเรือน (อายุความ 20 ปี), มาตรา 218 (2) ความผิดฐานวางเพลิงเผาโรงเรือนอันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า เช่น ยุ้งฉาง (อายุความ 20 ปี) และ มาตรา 358 ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ คือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพยของผู้อื่น (อายุความ 10 ปี)

ซึ่งคดีดังกล่าวสืบสวนสอบสวนเป็นระยะเวลานานกว่า 9 ปี ทำให้ความผิดตามมาตรา 217 วางเพลิงเผาทรัพย์ และมาตรา 358 ทำให้เสียทรัพย์กำลังจะขาดอายุความ 10 ปี

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว แต่หาก ป.ป.ท.ส่งหนังสือมาแล้วชี้ชัดว่าให้ออกจากราชการ ทาง ทส.จะต้องดำเนินการภายใน 30 วัน ซึ่งกรณีการดำเนินคดีกับข้าราชการระดับ 9 จะเป็นอำนาจของปลัด ทส. 

  

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ