จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงกลาง และนายอำเภอเชียงกลาง ได้รับการประสานจากนายอำเภอสองแควว่ามีผู้พบศพ นางสาวรัตติกาล เตชะ หรือ เปิ้ล อายุ 36 ปี ที่หมู่ 12 ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน ถูกมัดมือมัดเท้า เสียชีวิตบริเวณข้างถนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1097 กม. 10-11 เส้นทางอำเภอเชียงกลาง-อำเภอสองแคว
จากการสอบถามญาติผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายคบหากับร้อยตำรวจเอกประกอบ หมื่นพันธ์ อายุ 62 ปี และอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นก่อเหตุ
ล่าสุด วันที่ 25 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะแบบสี่ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 3327 อุดรธานี ในเวลาประมาณ 17.55 น. ขับอยู่บนถนนสายน่าน-ทุ่งช้าง บริเวณถนนหน้าโลตัสสาขาปัว ตำบลปัว อำเภอปัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวพ ร้อมกับส่งสัญญาณให้หยุดร ถเพื่อขอทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่พบของกลาง สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองจำนวน 1 เส้น ห่อหุ้มด้วยกระดาษสีขาว ในกางเกงของนายประกอบ และแหวนทองคำ จำนวน 1 วง ในกระเป๋าแบบถือสีเขียว
โดยร้อยตำรวจเอกประกอบ หมื่นพันธ์ ยอมรับว่าเป็นคนฆ่านางสาวรัตติกาล ยินยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าที่ตนได้กระทำไปเพราะเหตุบันดาลโทสะ
ก่อนลงมือฆ่าผู้ตายเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 64 เวลาประมาณ 09.00 น. จับหัวผู้ตายโขกกับฝาห้อง ภายในบ้านสวนในป่า บ้านใหม่ชัยเจริญ หมู่ 8 ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน ซึ่งผู้ตายได้หันมาตบหน้า ตนจึงใช้อาวุธปืนยิงจนผู้ตาย จากนั้นได้มัดมือมัดเท้า แล้วนำศพไปทิ้งบริเวณดังกล่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังวัดบ้านบอน ต.สถาน จ.น่าน บรรยากาศงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า นางนิจ เตชะ อายุ 70 ปี แม่ของผู้ตาย บอกว่า ตนไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เนื่องจากอาศัยอยู่ที่จังหวัดลำพูนกับลูกสาวคนโต โดยบ้านใน ต.สถาน ลูกสาวคนเล็ก ผู้ตายจะอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งตนไม่ค่อยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับแฟนลูกสาวมากนัก รู้ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ไม่ทราบว่าทั้งคู่คบหากัน
อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้จะรู้สึกอย่างไร จะโกธรหรือไม่โกธรผู้ก่อเหตุดี แต่ตนก็วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
ตรวจสอบบนเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 64 มีการเปลี่ยนภาพหน้าปกเป็นรูปแฟนหนุ่ม, วันที่ 13 ก.พ. 64 เปลี่ยนภาพหน้าปกอีกครั้งเป็นรูปของตัวเองคู่กับแฟนหนุ่ม, วันที่ 15 ก.พ. 64 เปลี่ยนภาพหน้าปกอีกครั้งเป็นรูปใหม่, วันที่ 16 ก.พ. 64 มีการตั้งค่าสถานะว่า "มีแฟนแล้ว" ต่อมาแฟนหนุ่มเข้ามาคอมเมนต์ว่า "รักนะ"
วันที่ 21 ก.พ. 64 โพสต์ภาพบรรยากาศที่วัดภูเก็ต แคปแชั่นข้อความว่า "ถ้าหายไปทุกคนคงรู้นะว่าใครบังคับให้ไปด้วย @(ถ้าหายไปติดต่อไม่ได้ช่วยตามหาหน่อยพ่อแม่รออยู่)" จากนั้นวันที่ 25 ก.พ. 64 หลังจากเจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว บนเฟซบุ๊กมีการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นภาพตัวเองในชุดสีแดง
ด้านนางหน่อย (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แม้กระทั่งคนในครอบครัว โดยมักจะเดินทางไป ๆ มาระหว่างหมู่บ้านกับบ้านของผู้ก่อเหตุ เท่าที่ตนสังเกตผู้ก่อเหตุก็ดูท่าทางเป็นคนใจดี และรักใคร่กับผู้ตายดี ชอบชวนผู้ตายไปทำบุญบ่อย ๆ ไม่คาดคิดว่าจะก่อเหตุเช่นนี้ ทั้งนี้ เท่าที่ตนทราบผู้ตายไม่เคยพาชายอื่นมายังหมู่บ้านมาก่อน จึงไม่ทราบว่าปมหึงหวงที่ผู้ก่อเหตุอ้างนั้นเป็นมาอย่างไร
ด้าน พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.จ.น่าน เผยว่า ผู้ก่อเหตุก่อเหตุด้วยความหึงหวง เนื่องจากผู้ตายมีผู้ชายมาติดพันหลายคน ซึ่งผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับ 1 นัด เสียชีวิตทันที เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบคราบเลือดในรถยนต์คันที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี โดยได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดน่านในวันพรุ่งนี้