จากกรณีนายสมชาย จงกาญจนาสุนทร อายุ 61 ปี ก่อเหตุชักปืนยิงนายพันธ์ณรงค์ อ้นจีน อายุ 33 ปี หลังถูกผู้ตายชกต่อยทำร้ายร่างกาย บริเวณชุมชนตลาดบ้านบุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 โดยเหตุเกิดเมื่อ
17 มิ
.ย
. 61 (อ่าน :
ลุงวัย 61 ยิงโจ๋ดับหลังเมาซ่าต่อยหน้า รับแค้นลูกถูกย่ำยี แม่เหยื่อแจงคนดีไม่กร่าง)
ล่าสุดวันนี้ (18 มิ.ย. 61) ตำรวจได้คุมตัวนายสมชายไปศาลตลิ่งชันเพื่อฝากขังและคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างควบคุมตัว นายสมชายเดินมาด้วยสีหน้าปกติ
พร้อมเปิดเผยว่า ตนยิงคู่กรณีเพราะมาตบหน้าตนก่อนแล้วจะไม่ยิงได้อย่างไร อีกทั้งก่อนหน้านี้คู่กรณีก็เคยมาท้าตนต่อย โดยบอกว่า “เดี๋ยวโดนเด็ก ๆ กระทืบ” ตอนนั้นตนก็ไม่อยากจะตอบไปว่า เดี๋ยวยิงหน้าหงายเลย เพราะขี้เกียจตอบ ส่วนกรณีที่ฝ่ายคู่กรณีบอกว่าลูกเลี้ยงเป็นภรรยาตนนั้น นายสมชายบอกว่า ให้ลองถามเพื่อน ๆ ตนดูได้ ทุกคนสามารถยืนยันได้ว่าตนไม่ได้มีอะไรกับลูกเลี้ยง ตนรักลูกเลี้ยงเหมือนลูก
จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุบริเวณชุมชนตลาดบ้านบุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 ชาวบ้านรายหนึ่งที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้สาธิตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าว่า วันที่เกิดเหตุ นายพันธ์ณรงค์ ผู้เสียชีวิตเดินมาที่จุดเกิดเหตุเพื่อจะมาขี่รถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้ออกไปข้างนอก แต่เห็นลุงกำลังคุยกับแม่ของนายพันธ์ณรงค์อยู่ ซึ่งตนไม่ทราบว่าคุยกันเรื่องอะไร จากนั้นนายพันธ์ณรงค์จึงลงมาตบลุง แล้วลุงก็ยิงสวนจนเสียชีวิตตามที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ
ด้าน
น.ส.วา (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ในชุมชนนี้มาประมาณ 20 ปีแล้ว แต่ลุงผู้ก่อเหตุเพิ่งย้ายมาได้ประมาณปีกว่า ๆ เลยไม่ค่อยได้พูดคุยกัน สมัยก่อนลุงจะอยู่กับภรรยาและลูกเลี้ยง แต่หลังจากที่ภรรยาแยกทางไป ลุงอาศัยอยู่คนเดียว โดยลูกเลี้ยงก็จะมาหาบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนด้านผู้เสียชีวิตมักจะมานั่งดื่มสุรากับกลุ่มเพื่อนประมาณอาทิตย์ละ 2-3 วัน แต่ไม่เคยเมาแล้วโวยวายหรืออาละวาด ทั้งยังไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท
ตนยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี และไม่เคยเห็นว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับลุงก่อนหน้านี้ ส่วนข่าวลือว่าลุงกับลูกเลี้ยงเป็นสามีภรรยากันนั้น ตนไม่เคยเห็นกับตา เพียงแต่ทราบว่าชาวบ้านคนอื่น ๆ พูดกัน ยันว่าตนไม่เคยเห็นลุงพกปืนมาก่อน โดยเพิ่งจะทราบว่าลุงมีปืนในตอนที่เป็นข่าว เมื่อทราบเรื่องว่ามีการยิงกันเกิดขึ้นก็รู้สึกใจหายเพราะเห็นผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ๆ และไม่ได้เป็นเด็กเกเร
ด้าน
น.ส.กร (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ปกติกลุ่มเพื่อนตนมานั่งดื่มสุราอยู่ที่ร้านค้าในซอยบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยโวยวายเสียงดังหรือระรานใคร แต่วันที่เกิดเหตุตัวเองไม่ได้มาด้วย ตอนนั้นตนอยู่ในบ้าน แต่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นแฟนของตนก็มาบอกว่าเพื่อนเสียชีวิตแล้ว ตัวเองรู้สึกเสียใจมากเพราะไม่สามารถช่วยอะไรได้ และตอนนี้กระแสสังคมก็กำลังโจมตีเพื่อนของตน หาว่าเพื่อนตนเป็นคนไม่ดี แต่คนตายไปแล้วจะพูดอะไรได้
โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุมากล่าวหาว่าเพื่อนในกลุ่มตนไปข่มขืนลูกเลี้ยง ตนปฏิเสธว่าไม่จริง เป็นลุงเองต่างหากที่ข่มขืนลูกเลี้ยงตนเอง ยืนยันว่า ให้ไปถามคนทั้งซอยได้เลยเพราะรู้กันหมดว่าลุงเป็นอย่างไร แต่สำหรับเรื่องปืนตัวเองไม่รู้ว่าในถุงที่ลุงถือจะมีปืน แต่ตนเห็นลุงถือถุงพะรุงพะรังแบบนี้ทุกวัน และตนคาดว่าลุงนำปืนมาด้วยโดยใส่ไว้ในถุง เพราะวันที่เกิดเหตุลุงก็ไม่ได้ควักปืนมาจากไหนแต่ยิงจากถุงเลย สาเหตุตนคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องหึงหวงลูกเลี้ยงเพราะเคยมีปากเสียงกับกลุ่มของตน ส่วนเรื่องที่ผู้ก่อเหตุน่าจะขอประกันตัวนั้น ตนคาดว่าฝ่ายลุงน่าจะมีเงินประกัน ตนก็กลัวว่าเพื่อนของตนที่เสียชีวิตไปจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นอกจากนี้ บรรยากาศที่วัดสุวรรณนาราม สถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพนายพันธ์ณรงค์ อ้นจีน เป็นวันที่ 2 พบว่ามีเพื่อนของผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาช่วยเตรียมงาน ส่วนทางด้านแม่ของผู้เสียชีวิต วันนี้หลับฟุบอยู่ที่โต๊ะ เนื่องจากมีอาการเหนื่อยล้า เมื่อสอบถามกลุ่มเพื่อนที่มาช่วยเตรียมงาน เปิดเผยว่า วันนี้แม่ของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้กินอะไรเลย และรู้สึกเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้น
ด้าน
น.ส.แอน (นามสมมติ) ลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพ่อแต่อย่างใด เพราะพ่อก็เลี้ยงดูตนมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ตนยังอยู่ชั้น ป.5 แต่เมื่อแม่แยกทางกับพ่อ ตนก็ย้ายมาอยู่กับแม่ โดยจะกลับไปขับเรือกับพ่อในวันเสาร์อาทิตย์ แต่ไม่เคยไปนอนค้างกับพ่อสองต่อสอง และยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พ่อของตนไม่เคยพกปืนไปไหนมาไหน กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว เพื่อนในกลุ่มคู่กรณีได้บุกเข้ามาที่บ้านจะข่มขืนตน ตั้งแต่วันนั้นพ่อก็พกปืนติดตัวตลอด ทุกครั้งที่เดินผ่านกลุ่มคู่กรณีก็จะถูกด่าว่าและทำร้ายเป็นประจำ แต่พ่อไม่เคยตอบโต้ โดยวันที่เกิดเหตุที่พ่อของตนตอบโต้ไปนั้น คาดว่าเป็นเพราะเมา ทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สำหรับคดีความของพ่อ ตนได้พูดคุยกับญาติฝ่ายพ่อ เผยว่าได้มีการยื่นเรื่องขอประกันตัวแล้ว โดยมีเงินประกัน 500,000 บาท และหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง โดยศาลจังหวัดตลิ่งชันจะใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 15 วัน