จากกรณี น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือ วาวา พีอาร์สาว ที่เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตและทางเดินหายใจล้มเหลว ช่วงเช้าวันที่ 23 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา ภายหลังรับงานเอนเตอร์เทนจาก น.ส.สุ โมเดลลิ่ง ให้ไปดูแลนายเก่ง บ้านงานปาร์ตี้ ซึ่งญาติสงสัยเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาตินั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บุกค้นบ้านจัดปาร์ตี้ทำ "วาวา" ดับ ญาติเก่งปัดจับมอมยา อึ้งรถขนศพโผล่คนขับหนีสื่อ
- ตายปริศนา! พริตตี้ "วาวา" แม่คาใจรับงานกลายเป็นศพ หวั่นถูกมอมในเหล้า
วันที่ 27 ก.พ. 64 เวลาประมาณ 10.30 น. พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับ พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่อมพินิจ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน ได้นำตัวนายเก่ง ที่อยู่ในงานปาร์ตี้เดินทางมาสอบปากคำ พร้อมทนายความ สอบปากคำกว่า 7 ชั่วโมง เบื้องต้นนายเก่งให้การณ์เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างการเตรียมรวบรวมข้อมูล และอาจจะเตรียมออกหมายจับในความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เกี่ยวกับการควบคุมโรคโควิด-19 ส่วนข้อหาอื่น อยู่ในระหว่างการตรวจสอบและสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ส่วนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รายอื่น เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายเรียก หากไม่เข้ามาแสดงตัว จะทำการออกหมายจับต่อไป
เวลา 17.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวนายเก่งออกจากห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเก่งถึงเรื่องยาเสพติด นายเก่งตอบเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมไม่ทราบครับ มาให้ข้อมูลในวันเกิดเหตุเฉย ๆ" ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจออกไปทันที
เวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า ขณะนี้จากการสอบปากคำ คำให้การของนายเก่ง ถือว่าคำให้การเป็นประโยชน์ ทำให้รูปคดีมีความคืบหน้า อีกทั้งนายเก่งไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นายเก่งเป็นบุคคลที่อยู่ร่วมภายในงานปาร์ตี้ และเป็นผู้เกี่ยวข้องในการติดต่อพริ้ตตี้ในการดูแลและบริการ
โดยมีผู้ร่วมเข้าปาร์ตี้ทั้งหมด มี 4 กลุ่ม กลุ่มพริตตี้วาวา 4 คน, กลุ่มพริตตี้โมเดลลิ่งอื่น 4 คน, กลุ่มแฟนสาวของคนร่วมปาร์ตี้ 3 คน, กลุ่มฝ่ายชาย 7 คน ทั้งหมดภายในบ้านหลังดังกล่าวมีฝ่ายหญิงมีทั้งหมด 11 คน และฝ่ายชายทั้งหมด 7 คน รวมทั้งหมด 18 คน
ส่วนในเรื่องการรวมกลุ่มกับฐานความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ควบคุมโรคนั้นจะต้องมีการดำเนินการพิจารณาโดยละเอียดอีกครั้ง และในเรื่องของยาเสพติดจะต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นปฏิบัติการอย่างเต็มที่ ได้ดำเนินคดีในการชันสูตรศพแล้ว ส่วนสารในร่างกายว่าพบมีการเสียชีวิตจากยาเสพติดหรือไม่นั้น ต้องขอรอผลอย่างเป็นทางจากนิติวิทยาศาสตร์ก่อน โดยได้มีการเก็บข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนเรื่องแชตของผู้ตายนั้น นายเก่งยอมรับเป็นผู้ชักชวนให้มีการจัดปาร์ตี้และชวนพริตตี้จริง ส่วนเรื่องคำว่าขนมนั้น ยังไม่สามารถบ่งชี้อะไรแน่ชัดได้ ขณะนี้มีการติดต่อไปยังพยานที่เกี่ยวข้อง และทราบชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว อีกทั้งเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ร่วมในงานด้วย และยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเป็นบุคคลมีสีหรือไม่
ทีมข่าวเดินทางมาที่เสนานิคม 1 ซอย 12 แยก 2 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านที่จัดปาร์ตี้ หลังเกิดเหตุบ้านยังคงปิดเงียบเหมือนเดิม ส่วนบ้านที่เป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดนั้นปิดเงียบเช่นกัน
นางสาววุ้นเส้น (นามสมมติ) ชาวบ้านในละแวก เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เพิ่งจะสร้างเสร็จ และเพิ่งจะย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน ส่วนตัวไม่เคยเห็นเจ้าของบ้าน และไม่เคยเห็นหน้าของคนที่ชื่อนายเก่ง ไม่เคยเห็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคอร์ด กับรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์สีดำในบ้าน เนื่องจากตนไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ชาวบ้านแถวนี้ส่วนใหญ่ต่างคนต่างอยู่
แต่น้องสาวของตนมักจะออกไปทำงานช่วงกลางดึก เคยมีคนขับรถแท็กซี่ที่น้องสาวเรียกใช้บริการเล่าให้ฟังว่า นึกว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นคนเรียก เพราะปกติแล้วช่วงเวลา 01.00-02.00 น. บ้านหลังนี้มักจะเรียกให้แท็กซี่เข้ามารับส่งผู้หญิงอยู่หลายครั้ง แต่แท็กซี่ไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้หญิงลักษณะไหน นอกจากนี้ น้องสาวของตนมักจะได้ยินเสียงเพลง เสียงเบสจากเพลงดังมาจากบ้านที่เกิดเหตุอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากห้องนอนของน้องสาวจะอยู่บริเวณชั้นสองของตัวบ้าน หันหน้าไปทางบ้านที่เกิดเหตุ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนก็ไม่เคยเห็นใครเข้าออกบ้านที่เกิดเหตุแล้ว และเห็นเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบภายในบ้าน
ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่ ยังวัดบ้านน้ำขาว หมู่ที่ 9 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ สถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของ น.ส.วิชญาพร โดยมีเพื่อนที่ทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งแฟนสาวคนสนิทได้เดินทางมายังงานศพของวาวา และได้เข้าไปไหว้หน้าศพกันอย่างพร้อมเพรียง ญาติพี่น้องฝั่งของพ่อของวาวาที่เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี มาแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว และร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ขณะเดียวกันเพื่อนสาวที่ร่วมด้วยกันกับวาวาที่กรุงเทพฯ เดินทางมาแสดงความเสียใจ น.ส.อ้อม (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ร่วมกันกับวาวามา 10 ปีแล้ว ระหว่างช่วงที่ทำงานด้วยกันวาวาเป็นเพื่อนที่ดีมาก ช่วยเหลือเพื่อนทุกอย่าง ลักษณะงานที่ทำกันเป็นงานพี่อาร์ งานดูแลลูกค้า บ้างก็มีการชงเหล้าให้ลูกค้า ไม่ได้เป็นงานที่ค้าประเวณี โดยงานบางครั้งก็จะมีโมเดลลิ่งเสนองานมาให้ว่ามีลูกค้าต้องการเด็กมาเอนเตอร์เทนดูแลเป็นการส่วนตัวที่บ้าน แต่ทางวาวาจะไม่ค่อยรับ ถ้าหากรับงานลูกค้าก็จะต้องเป็นคนที่รู้จักและคุ้นเคยกันเท่านั้น
ซึ่งลูกค้ารายนี้ที่อยู่ด้วยกันในคืนที่เกิดเหตุนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นคนที่วาวารู้จักหรือไม่ ถึงได้ยินยอมไปรับงานนอกที่บ้านลูกค้า ส่วนเรื่องยาเสพติดที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ตนเชื่อว่าวาวาไม่ได้เป็นคนที่เสพยา เพราะเป็นคนรักตัวเอง ชอบออกกำลังกายดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากว่ามีคนมอมยาให้กับวาวา ส่วนตัวก็คิดว่าคนที่ไม่เคยเสพมาก่อนน่าจะมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ไม่เท่ากัน จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
น.ส.อุ๊ สาวทอมคนสนิทของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับการจากไปอย่างกะทันหัน ไม่มีการร่ำลากัน ซึ่งปกตินั้นน้องวาวาเป็นคนที่น่ารักมากในกลุ่มชอบทำบุญ ส่วนกรณียาเสพติดนั้น น้องไม่เคยยุ่งเลย รู้จักกันมานานเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนการเสียชีวิตในครั้งนี้เชื่อว่ามีเงื่อนงำอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เอาความจริงออกมาว่าสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่
ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว วาวาบอกว่าน้องได้ออกไปรับงานจากโมเดลิ่งคนหนึ่งชื่อสุ โดยให้น้องไปยังที่งานตอน 23.00 น. งานเลิกตี 5 บ้านที่รับงานอยู่แถวเสนา น้องนั่งแท็กซี่ไปถึงบ้านงานตอน 23.00 น. แล้วก็โทรมาบอกตนพร้อมถ่ายรูปเหมือนโต๊ะกินข้าวส่งมาให้ดู จากนั้นก็บอกว่าเดี๋ยวขอเก็บโทรศัพท์ก่อน เพราะจะเริ่มงานแล้ว จนกระทั่ง 06.30 น. ได้มีการโทรไลน์จากเบอร์ของน้องเข้ามาที่ตน แต่คนพูดสายเป็นพยาบาลแจ้งข่าว ตนก็รีบไปแล้วไปนั่งรอที่ห้องไอซียู ก็มีการชุลมุล มีพยาบาลวิ่งเข้าออก ต่อมาสักไม่กี่นาทีก็มีเบอร์น้องโทรออกมาอีกรอบ บอกว่าให้เข้าห้องไอซียู หมอได้ปั๊มหัวใจหลายนาทีแล้วแต่ไม่ตอบสนอง จึงอยากให้ตัดสินใจว่าจะให้ทำอย่างไรต่อ แต่ตนก็ไม่กล้าตัดสินใจ ตนก็โทรมาหาแม่ของน้องวาวา ซึ่งคุณแม่ของน้องวาวาก็ได้คุยกับคุณหมอ แม่บอกว่าให้ดำเนินการได้ถึงที่สุด แต่ทางคุณหมอก็บอกว่าคงทำให้น้องบอบช้ำมาก และไม่สามารถช่วยได้ ในที่สุดน้องก็เสียชีวิต
นายเจ (นามสมมติ) น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ตนช็อกมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับพี่สาวของตน ซึ่งตนไม่เชื่อว่าพี่สาวจะเสียชีวิตแบบธรรมชาติ แต่เป็นการเสียชีวิตที่มีเงื่อนงำ โดยเฉพาะกรณียาเสพติดที่ตนยืนยันว่าพี่สาวไม่เคยยุ่งเกี่ยวมาก่อน
สำหรับพี่สาวของตนเป็นคนที่มีนิสัยเรียบร้อย จบการศึกษาระดับมัธยมโรงเรียนในจังหวัดกระบี่ และเรียนต่อ ปวช. สาขาการท่องเที่ยว วิทยาลัยเทคนิคกระบี่ จากนั้นก็เรียนก็เรียนต่อคณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เรียนจบในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง ก็ได้ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่งเงินมาให้ตนบ่อยครั้ง จำนวน 1,000-2,000 บาท ส่วนของแม่จะให้ทุกเดือน 2,000-3,000 บาท ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยนิสัยส่วนตัวเป็นคนธรรมะธัมโม เวลากลับมาบ้านก็จะชอบเข้าวัดปฏิบัติธรรม ทำบุญ สร้างโรงทาน มักจะชวนเพื่อนพัฒนาวัดวาอาราม เลี้ยงเด็กกำพร้า คนชรา ตนยังรู้สึกทำใจไม่ได้กับการเสียชีวิตของพี่สาว ไม่น่าจะมาเสียชีวิตแบบนี้
ซึ่งคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายแล้วในการบำเพ็ญกุศลศพของพี่สาวของตน ส่วนเรื่องฌาปนกิจที่วางแผนเอาไว้ตามกระบวนการคือในวันพรุ่งนี้ แต่ตนและญาติพี่น้องจะรอดูความคืบหน้าของคดีในวันพรุ่งนี้ ถ้าหากว่ายังหาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ ก็น่าจะเก็บศพพี่สาวเอาไว้ก่อน
ทั้งนี้ วันนี้ก็เป็นวันครบรอบวันรับปริญญาของพี่สาวของตน ก่อนหน้านี้ก็ได้พูดคุย พี่สาวได้วางแผนกับตนไว้ว่าจะรีบเก็บเงินให้ได้สักก้อน เพื่อจะไปเปิดร้านอาหารที่ภูเก็ตด้วยกัน แต่พี่สาวของตนต้องมาด่วนจากไปแบบนี้เสียก่อน ก่อนหน้าเมื่อช่วง 3-4 วันก่อนที่พี่สาวจะเสียชีวิต ยังวิดีโอคอลคุยกันอยู่เลย ไม่มีเหตุเป็นลางสังหรณ์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำพยานไปแล้วทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย พริตตี้ 3 คน โมเดิลลิ่ง 1 คน และญาติผู้ตาย 2 คน ซึ่งมีพยานระบุว่าในงานปาร์ตี้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. มีผู้ชาย 6-8 คน ผู้หญิงราว 10 คน ทั้งหมดได้นั่งกินข้าวร่วมกันที่ชั้นล่างของบ้าน จนถึงเวลาเที่ยงคืนจึงขึ้นไปปาร์ตี้บนชั้นสอง ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการติดตามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นหญิงจำนวน 6 คน และโมเดลลิ่ง 1 คน เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม