จากกรณีเฟชบุ๊ก "วีอาร์กู้ภัยบ้านม่วง สภ.บ้านม่วง" ได้โพสต์เรื่องราวว่า "#ลูกทรพีติดยาทำร้ายพ่อบังเกิดเกล้าตาย เวลา 20.10 น. 27/2/64 รับแจ้ง จาก สภ.บ้านม่วง ว่ามีคนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือร่วม พนักงานสอบสวน เวร สภ.บ้านม่วง ที่ รพ.บ้านม่วง ทราบว่าผู้ตายชื่อนายมิตรชัย แสนพันนา อายุ 48 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านเจริญไพศาล ต.ดงเหนือ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ถูกนายโจ เศรษฐวรรษ ลูกชายแท้ ๆ ทำรายจนเสียชีวิต จากการเสพยาบ้าหนัก" นั้น
วันที่ 1 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สภ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พ.ต.อ.นวกฤต นวการพาณิชย์ ผกก.สภ.บ้านม่วง ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาฝากขังในช่วงบ่าย ระหว่างที่ผู้ต้องหาให้ปากคำมีสีหน้าที่ปกติ ไม่เครียดหรือกังวลแต่อย่างใด
นายเศรษฐวรรษ หรือ โจ ผู้ต้องหา อ้างว่าตอนเกิดเหตุ 20.10 น. ของวันที่ 27 ก.พ. ตนเองได้ตรวจเช็กยอดเงินในแอปฯธนาคาร ที่โทรศัพท์มือถือของตนก็ปรากฏว่าเงินในบัญชีหายไปทั้งหมด ตนตั้งใจว่าจะเอาเงินดังกล่าวไปทำบุญ แต่เงินหาย จึงรู้สึกโกรธและคลั่งตะโกนโวยวายที่หน้าบ้าน พร้อมกับทุบโทรศัพท์ทิ้ง จากนั้นตนจึงตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน เพื่อไปสงบสติอารมณ์ แต่อาการตนก็ไม่ดีขึ้น ตนจึงขับรถกลับมาที่บ้าน
ระหว่างที่ตนกลับมาบ้าน ก็เห็นนายมิตรชัย พ่อของตนขับรถกระบะสีดำเข้ามาจอดที่บ้าน จากนั้นพ่อของตนก็เดินเข้ามาหาเรื่อง ถามว่า "มันเป็นอย่างไรลูก" จากนั้นพ่อของตนก็พูดยั่วยุตนเหมือนอยากหาเรื่อง ทำให้ตนเกิดโมโหพูดกับพ่อว่า "จะเอายังไง จะเอายังไง" จังหวะนั้นตนเห็นมีดขอ 1 ด้ามวางอยู่หน้าบ้าน ตนจึงไปหยิบเอาฝั่งสันมีดที่ไม่ใช่ฝั่งที่คมมาตีเข้าที่ท้ายทอยของพ่อ 2-3 ครั้ง จนพ่อของตนล้มลงไปนอนที่พื้น หลังจากที่ตนเกิดความคิดว่าเขาไม่ใช่พ่อของตนแล้ว จากนั้นตนเห็นผู้ชายประมาณ 3-4 คน รุมกระทืบพ่อที่นอนอยู่กับพื้น ตนจึงกระทืบตาม จนพ่อนอนแน่นิ่งไป
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวตนมาที่ สภ.บ้านม่วง ตนเองก็เชื่อว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ เพราะตนเห็นพ่อขับกระบะมาหาตนที่โรงพัก และพ่อได้ตะโกนเรียกตน ไม่รู้ว่าพ่อตนเสียชีวิตได้อย่างไร ตนคิดถึงพ่อตนมาก ตนรู้ว่าพ่อยังไม่ตาย ถ้าพ่อตายตนคงไม่รู้สึกเฉย ๆ แบบนี้
ทีมข่าวถามว่า "ตอนนี้พ่อโจเสียชีวิตแล้ว เพราะโจเป็นคนทำร้าย โจรู้ตัวไหม" นายโจค้านว่า พ่อของตนจะเสียชีวิตได้อย่างไร พ่อตนเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวานตอนตำรวจพาตนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตนเห็นโลงศพเล็กตั้งนอกบ้าน จะเป็นงานศพพ่อตนจริง ๆ หรือ พ่อตนเป็นถึงผู้นำหมู่บ้าน ใหญ่สุดในหมู่บ้าน งานศพต้องใหญ่กว่านี้ ไม่จัดเล็กแค่นี้ และถ้าเป็นศพพ่อตนจริง ต้องโลงเอาศพไว้ในบ้าน จะเอาโลงศพมาตั้งข้างนอกบ้านทำไม ถ้าตนทำร้ายพ่อจนเสียชีวิตจริง ตนก็อยากจะขอโทษพ่อ ส่วนแม่ของตนตนได้ขอโทษท่านในใจแล้ว กับสิ่งที่ตนกระทำ"
นอกจากนี้ วันที่เกิดเหตุช่วงกลางวันตนได้เสพยาเสพติดจริง ตนคิดว่าที่ตนก่อเหตุตนอาจหลอนก็ได้ แต่ตนขอยืนยันว่าทุกอย่างที่ตนพูดคือเรื่องจริงทั้งหมด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยคลิปวิดีโอที่คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ เหตุการณ์เป็นไปอย่างเรียบร้อย พร้อมกับจำลองการใช้เท้ากระทืบพ่อ และจากนั้นก็ไปชี้จุดที่ทิ้งโทรศัพท์
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านเจริญไพศาล ต.ดงเหนือ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร สถานที่ตั้งศพของนายมิตรชัย ผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านเจริญไพศาล โลงศพของผู้ตายตั้งไว้ในตัวบ้าน ต่างจากเมื่อวานตอนที่คุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนที่ตั้งโลงศพไว้ด้านนอกบ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางสาวพัชราภรณ์ ระดาสาร อายุ 46 ปี อดีตภรรยาผู้ตาย และเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า สำหรับปมที่ลูกชายตนก่อเหตุกับนายมิตรชัย อดีตสามี น่าจะมาจากอาการที่ลูกชายคลั่งยา สำหรับลูกชายตนเพิ่งเสพยาเสพติดได้ 2 ปี และปลายปี 63 ที่ผ่านมา ลูกชายจะคลั่งยาหนักมาก ถึงขั้นเคยก่อเหตุเผามอเตอร์ไซค์และบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกต้นเดือน พ.ย. 63 เผามอเตอร์ไซค์และหน้าต่างบ้านครั้งที่ 2 กลางเดือน ก.พ. 64 อยู่ในขั้นเตรียมการเผา แต่ครอบครัวมาระงับเหตุได้ก่อน
ซึ่งหลังจากก่อเหตุเผาบ้านในครั้งแรก ครอบครัวได้ส่งนายโจไปบำบัด วันที่ 2 ธ.ค. 63 ลูกชายก็ออกมาจากสถานบำบัด กระทั่งมาก่อเหตุกับอดีตสามีตน ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนก่อเหตุก็คือลูกชายตน ผู้เสียชีวิตก็อดีตสามีตน ตอนที่ตนอยู่กับลูกชาย ลูกก็ไม่เคยทำร้ายตนมาก่อน ที่ผู้ต้องหาบอกว่าก่อเหตุเพราะโกรธที่พ่อเอาเงินในบัญชีไปนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง ลูกชายตนไม่มีเงินในบัญชีแม้แต่บาทเดียว และอดีตสามีตนก็ไม่เคยมีนิสัยขโมยเงิน
ก่อนหน้านี้ก็ได้มีชาวบ้านมาเล่าให้ตนฟังว่า เวลาที่ลูกชายคลั่งยาชอบไปพูดกับชาวบ้านว่ามีเงินเก็บหลายล้านบาท ซึ่งสิ่งที่ลูกชายพูดนั้น มาจากอาการทางประสาทที่เสพยาเสพติด สำหรับนายโจก่อนที่เขาจะเสพยาเสพติดเป็นคนดีมาก แต่พอเขามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กลับกลายเป็นเด็กกร้าวร้าว กินเหล้า สูบบุหรี่ ส่วนอดีตสามีเป็นคนใจดี ใจเย็น ไม่เคยทำร้ายลูก ตั้งแต่เด็กจนโตก็ไม่เคยตีลูก หน้าที่ของอดีตสามีเป็นผู้นำชุมชน ก็จะมีบ้างที่เขาจะดุลูกชาย เพื่อให้ลูกเป็นคนดี
สำหรับหัวอกคนเป็นแม่ ตนให้อภัยลูกชายเสมอ แต่ที่ลูกชายก่อเหตุก็สุดแล้วแต่กรรมเวรของเขา ซึ่งตนไม่สามารถยื่นประกันตัวลูกชายได้ ถ้าลูกชายออกมาจากเรือนจำ ตนก็จะเลี้ยงดูลูกชายตนต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ลูกสาวคนเล็กของตนอายุ 20 ปี ฝันว่านายโจจุดไฟเผาบ้าน และลูกสาวก็ได้มาเล่าให้ตนฟัง วันที่ 26 ก.พ. ตรงกับวันพระ ตนและลูกสาวจึงได้ไปตักบาตรทำบุญ เพราะคิดว่าความฝันดังกล่าวเป็นลางร้าย ถ้าสามีตนยังมีชีวิตอยู่ ตนก็อาจพึ่งพาสามีได้ในฐานะผู้นำหมู่บ้านกับลูกบ้าน สำหรับอดีตสามีตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 7 ปี และเขาก็ดูแลชาวบ้านมาเป็นอย่างดีตลอด
สำหรับนายโจ ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ในช่วงบ่ายของวันนี้ พร้อมแจ้ง 2 ข้อหาคือ ทำร้ายผู้บุพการีจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย