เมาเป็นเหตุ! หนุ่มล้อมรถอาสาฯ เจอยกพวกกระทืบโคม่า ต้นสังกัดสั่งปลดเหตุภาพชัด (คลิป)

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "มุก กี้" ได้โพสต์คลิปพร้อมบรรยายข้อความกรณีที่พี่ชายถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคั่งในสมอง ขณะกำลังออกไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียล ต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

วันที่ 8 มี.ค. 64 น.ส.มุก (นามสมมติ) อายุ 31 ปี รุ่นน้องผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บคือ นายเม่น อายุ 45 ปี เหตุเริ่มจากวันที่ 6 มี.ค 64 เวลาประมาณ 21.00 น. ตนและกลุ่มของพี่ชายรวม 8 คน (ชาย 4 คน หญิง 4 คน) ได้ไปนั่งดื่มกินกันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ถนนเสรีไทย แขวง-เขต คันนายาว กรุงเทพฯ จนถึงเวลา 23.00 น. ร้านปิดเลยพากันขับรถแยกกันไป 2 คัน คันละ 4 คน เพื่อมุ่งหน้าไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างกันไม่มากนัก

ขณะกำลังขับใกล้จะถึงหน้าร้าน ช่วงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 7 มี.ค. 64 พี่ชายที่เป็นคนขับรถ ได้ขับชะงักเซไปมา เนื่องจากพยายามจะหาที่จอดรถ บวกกับมีอาการมึนเมา แต่ในขณะที่พี่ชายกำลังจะหาที่จอดบริเวณซอยใกล้ร้านอาหารนั้น มีรถกระบะสีแดง ติดไซเลนลักษณะคล้ายรถกู้ภัยขับมาตามถนนด้วยความเร็ว ก่อนบีบแตรรถ ลดกระจกด่าพี่ชายว่า "มึงขับรถภาษาเ-ี้ยอะไร"

จากนั้น พี่ชายอยู่ในอาการเมาสุราได้ยินจึงเดินลงจากรถ และพยายามเดินไปดึงที่จับประตูของคู่กรณี ก่อนเรียกให้ลงมาโดยพูดว่า "มึงลงมาเคลียร์ ๆ" แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมลง กระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที คู่กรณีก็ได้มีการเรียกเพื่อนมาที่จุดเกิดเหตุ คล้ายกลุ่มเจ้าหน้าที่กู้ภัย ส่วมกางเกงกู้ภัย ก่อนต่อว่าพร้อมทั้งรุมชกต่อยและกระทืบพี่ชายตามคลิป จนพี่ชายของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส หน้าบวมช้ำ ปากฉีก เลือดคั่งในสมองจากแรงกระแทก ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในไอซียู

หลังเกิดเรื่องทางกลุ่มของตน จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางชัน เพื่อแจ้งความหวังจะเอาผิดดำเนินคดีกับทางกลุ่มคู่กรณีที่ทำร้ายพี่ชายของตนไว้แล้ว ซึ่งหลังเกิดเรื่องทางฝั่งของคู่กรณีก็ได้มาพูดคุยทั้งที่ สน. และโรงพยาบาล แต่เหมือนไม่ได้สำนึกผิด กลับอ้างว่าฝ่ายของพี่ชายตนเป็นฝ่ายผิด และฝ่ายของคู่กรณีก่อเหตุเพราะป้องกันตัว คำขอโทษสักคำก็ไม่มี ทำให้ตนคิดว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

ด้าน พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผอ.ศูนย์กู้ภัยร่มไทร ระบุว่า คลิปดังกล่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียล ตนยืนยันว่าคู่กรณีของผู้เสียหายนั้นเป็นอาสากู้ภัยร่มไทรจริง ซึ่งจากภาพวงจรปิดและคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียล หากทางเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยของเรามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีการกระทำความผิดจริง ก็ขอให้ทางผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีได้โดยทันที โดยที่ทางศูนย์กู้ภัยจะไม่ให้ความช่วยเหลือหรือปกป้องแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า อาสาได้กระทำความผิดอย่างชัดเจน ที่ไปทำร้ายร่างกายของคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนี้ ก็จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง จะมีการลงโทษ โดยการปลดออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย และไม่ให้มาปฎิบัติหน้าที่ในส่วนนี้อีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเสมือนเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พนักงานของหน่วยงานราชการต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะฝากเคสนี้เป็นบทเรียนถึงเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย หากเจอสถานการณ์ดังกล่าวควรมีสติและเก็บอารมณ์ หากควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ควรดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมระงับเหตุ และไม่ควรใช้ความรุนแรง