จากกรณีสองสามีภรรยาที่ได้เสียชีวิตพร้อมกัน หลังจากได้เจ็บป่วยมานาน โดยนางสมหวัง จันภูงา อายุ 58 ปี ได้เสียชีวิตลงในตอนเช้า ขณะที่นายไสว สนธิรอด อายุ 61 ปี สามีที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านทราบข่าวในตอนเย็น และได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ ชาวบ้านเชื่อในรักแท้ที่มีอยู่จริง และได้ยินทางฝั่งสามีพูดอยู่เป็นประจำว่า "เราจะต้องตายพร้อมกัน" แล้วก็เป็นจริงดังคำพูด
วันที่ 9 มี.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังศาลาการเปรียญ วัดโคศุภราช ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เป็นศาลาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ของนางสมหวัง จันภูงา อายุ 58 ปี และ นายไสว สนธิรอด อายุ 61 ปี โดยมีการตั้งศพทั้งสองคู่กัน โดยศพของนางสมหวัง จันภูงา มีพิธีฌาปนกิจในวันนี้เวลา 16.00 น. ส่วนศพของนายไสว สนธิรอด จะมีพิธีฌาปนกิจศพ ในวันพรุ่งนี้
นางรสริน สนธิรอด อายุ 34 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายไสวมีลูกทั้งหมด 7 คน ชาย 4 คน หญิง 3 คน กับอดีตภรรยา ส่วนนางสมหวัง มีลูกทั้งหมด 2 คน หญิง 1 คน ชาย 1 คน โดยคบหากับนางสมหวังมาเป็นระยะเวลา 15 ปี และแยกกันอยู่ 4 ปี เพราะต่างคนต่างป่วย ทั้งคู่รู้จักกันจากที่โรงงานที่ทำงานด้วยกัน
โดยอาการป่วยของนางสมหวัง ป่วยมา 5-6 เดือน ตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม 2563 และล้มป่วยนอนติดเตียง ไม่สามารถเดินได้ โดยเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคเลือดในสมองตีบ ส่วนสาเหตุที่เสียชีวิตตนเองคาดว่าน่าจะหัวใจวาย เพราะเสียชีวิตโดยนอนนิ่งไปเฉย ๆ ส่วนอาการป่วยของนายไสวคือ ตับแข็ง เนื้องอกในท้อง และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดด้วย โดยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และนำตัวมาเข้ารับการรักษาต่อที่บ้านโดยมีลูก ๆ ผลัดกันดูแล
จนกระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. นางสมหวังเสียชีวิต ตนเองจึงไปกระซิบข้างหูบอกพ่อว่า "น้าสมตายแล้ว" พ่อจึงมีอาการตอบโต้ และร้องไห้อยู่สักระยะ จนกระทั่งช่วงเย็นพ่อเริ่มมีอาการหายใจติดขัด และหายใจเฮือกใหญ่ 3 ครั้ง ก่อนที่จะสิ้นใจอย่างสงบภายในบ้าน
ทั้งนี้ ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อช่วงประมาณ 1-2 เดือนที่แล้ว ขณะที่พ่อยังสามารถพูดได้ พ่อเคยสั่งเสียไว้ว่า เป็นห่วงนางสมหวังและลูก ๆ ทุกคน และขอให้อยู่กันด้วยความรัก อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน ระยะหลังที่ทั้งคู่ไม่สามารถเดินหรือไปไหนได้ ลูกหลานของแต่ละฝ่ายก็จะมีการวิดีโอคอล และให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสคุยกัน
ตนเองเชื่อว่าทั้งคู่คือคู่แท้ เพราะน้อยคนที่จะมาเสียชีวิตในวันเดียวกันและเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้ ส่วนใหญ่ถ้าเสียชีวิตพร้อมกันก็น่าจะเป็นอุบัติเหตุมากกว่า โดยมีลางบอกเหตุคือช่วงวันที่พ่อเสียชีวิต น้องสาวถูกไฟดูดแต่ไม่เป็นอะไร ตนเองจึงคิดว่าพ่ออาจจะมาช่วย พอน้องหลุดจากไฟดูด พ่อก็สิ้นใจพอดี ขณะที่ช่วงเช้าวันที่พ่อสิ้นใจ เวลาประมาณ 05.00 น. ตนเองยังฝันว่าพ่อมาหา และมาร้องไห้ บอกว่าเจ็บ ก่อนที่ตนเองจะสะดุ้งตื่นขึ้น สาเหตุการเสียชีวิตตนเองก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะหมดห่วงที่ภรรยาเสียชีวิต แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองว่าอาจะเป็นเพราะโรคภัยที่พ่อมีด้วย อยากบอกพ่อว่าเสียใจที่ดูแลพ่อได้ในระยะเวลาไม่นาน และดีใจที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อ