จากกรณีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุพบศพชายไทย 3 คน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในป่าหญ้าร้าง ซอยลิงเก่า ม.5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่เกิดเหตุด้านหลังกอหญ้าที่ขึ้นสูงกว่า 2 เมตร พบศพกลุ่มวัยรุ่นชายไทยจำนวน 3 คน ยังเป็นเยาวชน อายุประมาณ 13-19 ปี ทราบชื่อนามสมมติ คือ นายคิว นายป๋อง และนายออม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยิงเจาะหัว 3 ศพ! คลิปมัดลักสายไฟก่อนตายเพื่อนปัดฆ่า ชาวบ้านขยาดวีรกรรมแสบ
- หัวอกแม่! ตั้งศพ 3 โจ๋ถูกยิงขมับ รับบ้านแตกตั้งแก๊งฉกทรัพย์ พยานเชื่อขัดแย้งกันเอง
วันที่ 9 มี.ค. 64 เวลา 19.30 น. ที่วัดศิริมงคล มีการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ด.ช.คิว อายุ 13 ปี นางสาวปิยธิดา อายุ 39 ปี แม่ของคิว กล่าวว่า ปกติลูกชายจะอยู่กับเพื่อนและกลับบ้าน 2-3 วันครั้ง ซึ่งก็กลับมาเพื่อกินข้าวอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนใหญ่จะมาช่วงบ่าย แต่ก็มีบางคืนที่กลับมานอนที่บ้าน
ล่าสุด ตนเจอลูกชายวันที่ 4 มี.ค. ช่วงเย็น ก่อนที่เพื่อนจะรับออกไปแล้วไม่ได้เจอลูกอีกเลย ส่วนเรื่องการขโมยสายไฟ ตนรู้ว่าลูกเคยทำแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต กระทั่งมาทราบว่าลูกชายเสียชีวิต ซึ่งตนมองว่าลูกชายน่าจะถูกยิงในที่เกิดเหตุ เพราะกระสุนเข้ากกหู ลูกชายอยู่ในท่าที่ตกใจ น่าจะมีความกลัวจึงพยายามหลบ แต่ไม่พ้น
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด เพราะลูกเสพแต่ไม่ได้ขาย ส่วนเรื่องการขโมยสายไฟที่โรงงาน ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะนายสมพงษ์ อดีต ส.อบต. เจ้าของโรงงานเป็นคนดี เชื่อว่าไม่น่าจะก่อเหตุ ตนก็รู้จักกับนายสมพงษ์ เพราะอีกฝ่ายเคยให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งกลุ่มลูกชายตนกับเพื่อนเข้าไปขโมยสายไฟหลายครั้ง นายสมพงษ์ก็ไม่เคยมาว่า แต่อาจจะแจ้งความ เพราะห่วงชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้น ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะเป็นคนที่ไม่พอใจ เช่น ผู้ที่รับซื้อของจากการลักขโมย เพราะกลัวความผิด เนื่องจากเจ้าของโรงงานแจ้งความไว้ ผู้ที่รับซื้ออาจกลัวว่าจะสาวไปถึงตัวหรือไม่ ทั้งนี้ ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวใจร้ายไปสำหรับเด็ก ทำไมผู้ก่อเหตุไม่ให้โอกาสหรือเวลาที่จะดึงเด็กกลับมาสู่สังคม
นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. 64 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังคล้ายปืนดังขึ้นไม่ต่ำกว่า 2 นัด แต่ตอนนั้นเชื่อว่าอาจจะเป็นประทัด จึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมาทราบข่าวว่ามีการพบศพชาย 3 คนในจุดที่ตนได้ยินเสียงดัง ส่วนตัวก็ไม่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่
โดยหลังสิ้นเสียงดังคล้ายปืน ตนก็ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงพูดคุยใด ๆ ที่ผ่านมาเวลามีเด็กมาเล่นในป่า ตนมักจะได้ยินเสียงเพราะเด็กจะเล่นกันเสียงดัง ส่วนผู้ตายทั้ง 3 คน ตนไม่รู้จัก
นางน้อย (นามสมมติ) แม่ค้าในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเห็นกลุ่มผู้ตายเดินเข้าออกในป่าจุดที่พบศพเป็นประจำช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
โดยบางครั้งก็เดินคนเดียว บางครั้งก็มาเป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่จะเดินเข้าไปช่วงเช้า กลับออกมาตอนเย็น ส่วนกลางคืนตนปิดร้านเร็วไม่มั่นใจว่าเดินเข้าออกหรือไม่ ที่ผ่านมาหากเป็นช่วงเช้าผู้ตายจะแวะซื้อน้ำแข็งและน้ำอัดลมที่ร้านตนก่อนเข้าไปในป่า ส่วนเรื่องอาหารการกิน ตนเคยสอบถามว่ากินข้าวหรือยัง อีกฝ่ายไม่ตอบ ได้แต่ยิ้ม จึงไม่มั่นใจว่าทั้ง 3 คนไปกินข้าวที่ไหนกัน
ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ตนเห็นนายป๋อง เดินเข้าป่าเวลา 06.00 น. และนายออม เดินตามเข้าไปในเวลาประมาณ 10.00 น. จากนั้นก็ไม่เห็นทั้งหมดอีกเลย กระทั่งมาพบศพ
ด.ช.บาส อายุ 13 ปี น้องชายนายออม ผู้ตาย และด.ช.ฟิวส์ อายุ 14 ปี เพื่อน ด.ช.บาส กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ตนกับนายฟิวส์เดินทางไปที่โรงงานร้างเพื่อจะไปตามนายออม เมื่อไปถึงได้ยินเสียงงัดแงะจากในโรงงาน เชื่อว่าพี่ชายน่าจะอยู่ด้านใน จึงปีนกำแพงโรงงานเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงไม่พบว่ามีใครอยู่ในโรงงาน
ด้วยความอยากได้เงินไปเล่นเกม จึงร่วมกับเพื่อนใช้คีมตัดสายไฟในโรงงาน ตั้งใจว่าจะนำไปขายเพื่อเอาเงินมาเล่นเกม ขณะที่กำลังตัดอยู่ไม่ถึงชั่วโมง ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยนายสมพงษ์ อดีตส.อบต. เจ้าของโรงงาน เข้ามาจับกุมพวกตนเอาไว้ โดยตำรวจถามว่าพวกที่เหลืออยู่ไหน ตนบอกว่าไม่มี พวกตนมากัน 2 คน เจ้าหน้าที่จึงจับตนส่งสถานีตำรวจ ส่วนนายสมพงษ์ไม่ได้ซักถามอะไร รวมถึงไม่ได้ข่มขู่ตน ปล่อยให้ตำรวจจัดการอย่างเดียว หลังจากนั้น แม่ตนได้เข้ามาประกันตัวและอยู่ระหว่างการคุมประพฤติ
ด.ช.บาส กล่าวต่อว่า ตนเพิ่งเข้าไปที่โรงงานและก่อเหตุเป็นครั้งแรก ส่วนเหตุที่เข้าไปเพราะทราบว่านายออม พี่ชาย กับกลุ่มเพื่อนอยู่ในโรงงานดังกล่าวเป็นประจำ
ด้าน ด.ช.ฟิวส์ กล่าวว่า ตนได้ยินเสียงงัดแงะก่อนเข้าไปเชื่อว่ากลุ่มนายออมน่าจะอยู่ในโรงงาน แต่เมื่อพวกตนเข้าไปกลับไม่เจอใครแล้ว กระทั่งตำรวจเข้ามาจับ ซึ่งส่วนตัวก็ตกใจเพราะเพิ่งทำเป็นครั้งแรก หลังจากนี้ไม่กล้าเข้าไปขโมยอีกแล้ว
ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลทราบว่า ด.ช.บาสกับ ด.ช.ฟิวส์ ซึ่งเป็นคนละวันกับที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพผู้ตายทั้ง 3 คน และเพื่อนอีก 2 คน ภาพดังกล่าวน่าจะเกิดตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 64
จากนั้นทีมข่าวจำลองเหตุการณ์ให้ทีมงานจุดประทัด 5 นัดในจุดที่พบศพ ส่วนผู้สื่อข่าวยืนอยู่ข้างบ้านที่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร พบว่าได้ยินเสียงดังชัดเจน คาดว่าหากมีการยิงในจุดที่พบศพ ก็น่าจะมีชาวบ้านในพื้นที่ได้ยินเสียงปืนดัง