รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจจัดการแข่งขันกีฬา โอลิมปิก และ พาราลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ โดยไม่อนุญาตให้กองเชียร์ชาวต่างชาติเข้าชมการแข่งขัน เพื่อบรรเทาความกังวลในหมู่ประชาชนชาวญี่ปุ่น ที่หวั่นเกรงว่ากองเชียร์ต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศของตน จะทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดหนักอีกระลอก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผลสำรวจชี้ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 77 ไม่อยากให้ "กองเชียร์ต่างชาติ" เข้าชมโอลิมปิก
- ประธานจัดโอลิมปิกของญี่ปุ่นลาออกแล้ว หลังพลั้งปากตำหนิผู้หญิงว่า เป็นเพศที่พูดมาก-ขี้บ่น
สถานการณ์การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้การแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ต้องถูกเลื่อนออกมา 1 ปี เป็นช่วงวันที่ 23 ก.ค. - 8 ส.ค. ปีนี้ ตามมาด้วยการแข่งขัน พาราลิมปิก ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 ส.ค. - 5 ก.ย.
ล่าสุด มีรายงานที่ยืนยันว่า รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ข้อสรุปว่า การเปิดประเทศเพื่อต้อนรับผู้ชมกีฬาจากต่างชาติยัง “เป็นไปไม่ได้” ในสถานการณ์ขณะนี้
ด้านสำนักข่าวเกียวโด ระบุด้วยว่า การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 มี.ค. ก็จะถูกจัดแบบไม่มีผู้เข้าชมเช่นกัน
การตัดสินใจของทางการญี่ปุ่นและฝ่ายจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว มีขึ้นหลังมีการเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของหนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุน พบว่า ชาวญี่ปุ่น 77% ไม่ต้องการให้รัฐบาลเปิดรับชาวต่างชาติเข้าชมการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เชื้อโควิด-19 กลับมาระบาดหนักซ้ำอีก โดยมีเพียง 18% เท่านั้นที่สนับสนุน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดกระแสเรียกร้องให้ ยกเลิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวไปเลย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ระหว่างการแข่งขัน ถึงแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะทุ่มงบประมาณในการสร้างสนามกีฬา และใช้เงินในการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ สำหรับการเป็นเจ้าภาพไปแล้วมากกว่า 12,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 415,644 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวล่าสุด มีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของญี่ปุ่นล่าสุดเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 440,671 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วประเทศของญี่ปุ่น เพิ่มจำนวนเป็น 8,299 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 118,174,797 คน และมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกแล้ว 2,622,558 ราย
ภาพจาก AFP