กรณีโลกโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เรื่องร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดใน จ.นครศรีธรรมราช ถึงการบริการ และพฤติกรรมของเจ้าของร้านว่ามีการดุลูกค้า 2 คนที่เป็นแฟนกัน สั่งอาหารสเต็ก คาโบนาร่า ขนมปังกระเทียม แล้วแบ่งกันทาน แต่เจ้าของร้านบอกว่าให้ทานคนเดียว ไม่ให้แบ่งจานกัน พร้อมกับเชิญให้ลูกค้าออกจากร้าน จนมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมากนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ร้าน ผ.ผึ้ง ทำรัง ตั้งอยู่ริมถนนศรีปราชญ์ ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
นายไพทูรย์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านอาหารเป็นลักษณะโฮมเมด เป็นธุรกิจครอบครัวมานานกว่า 10 ปี ที่สำคัญร้านตนลูกค้าส่วนใหญ่ทราบดีว่าร้านมีบรรทัดฐาน มีมารยาทที่กำหนดไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการห้ามนำอาหารจากที่อื่นมารับประทานในร้าน ห้ามสั่งอาหารนอกเหนือจากเมนูร้าน ห้ามสั่งให้เปลี่ยนรสชาติอาหาร นอกเหนือจากรสชาติที่ร้านปรุง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ให้เกียรติปฏิบัติตาม ส่วนเมนูอาหารตนทำเพียงคนเดียว
ขณะที่เมนูอาหาร ราคาอาหาร รวมทั้งรสชาติอาหาร เป็นรูปแบบของร้านที่มาจากพื้นฐานครอบครัว ไม่สามารถปรับแต่งตามลูกค้าต้องการได้เหมือนร้านทั่วไป ที่ร้านมีเพียง 5 โต๊ะเท่านั้น สำหรับไว้บริการลูกค้า หากช่วงเวลาไหนมีลูกค้านั่งครบ 5 โต๊ะ จะปิดประตูไม่รับลูกค้าอื่น จนกว่าลูกค้าในร้านจะรับประทานอาหารเสร็จลุกออกจาก ร้านถึงจะรับลูกค้ารายต่อไป
ส่วนเมนูอาหารมีเท่าที่กำหนด หากลูกค้าสั่งเพิ่มเติม ไม่สามารถทำได้ อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ แต่สิ่งที่ตนทำเพราะตนต้องการทำอาหารให้ลูกค้ากินอย่างเต็มที่และตามคิว
นายไพทูรย์ กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงที่ร้านเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 64 แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ดุด่า หรือไล่ลูกค้า 2 คนนั้นออกจากร้าน เพียงแต่เข้าไปบอกว่าลูกค้าว่าที่ร้านขายอาหารขายสเต็กแบบจานเดียว ควรกินคนเดียว ไม่ควรแบ่งสเต็กกินแบบนั้น เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติร้าน
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ร้านส่วนใหญ่เข้าใจบรรทัดฐานร้าน เข้าใจมารยาทร้าน มีเพียงส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจ หากลูกค้าเข้าในร้านแล้วมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติ ตนจะเข้าไปบอกกล่าว แต่ยืนยันว่าไม่เคยดุหรือด่าไล่ลูกค้าออกจากร้าน ยอมรับว่าที่ตนเข้าไปบอกกล่าวลูกค้าถึงความไม่เหมาะสม การไม่ให้เกียรติไม่ปฏิบัติตามบรรทัดฐานร้าน อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ หากตนมีพฤติกรรแบบนั้นลูกค้าคงแจ้งความตำรวจเอาเรื่องตนแล้ว ส่วนกระแสดราม่าที่คอมเมนต์ไม่ดีในโซเชียลนั้น ตนไม่สนใจ เพราะเป็นเพียงนักเลงคีย์บอร์ดที่วิพากวิจารณ์โดยไม่รู้ข้อเท็จจริง