อแมนด้า เปิดใจถึงการเตรียมตัวสำหรับศึกใหญ่ คว้ามงสามบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2020 เผยประเด็นดราม่ากรมสุขภาพจิต ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และมูฟออนออกจากเรื่องราวของการโดนยุติตำแหน่งไปแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการประกวดในเวทีใหญ่ด้วย เพราะตนและคนรอบข้างรู้ตัวดีว่าวันนี้กำลังทำอะไรอยู่!!
- "อแมนด้า" เปิดใจยังทำโครงการต่อ แม้กรมสุขภาพจิตร่อนจดหมายยุติบทบาท "ทูตด้านสุขภาพจิต"
- อแมนด้า ตอบรับคำเชิญ มูลนิธิกระจกเงา เป็นอาสาสมัครโครงการผู้ป่วยข้างถนน
- “อแมนด้า” แจงคลิปส่ง MU ย้อนแสง ทำแฟนนางงามผิดหวัง สู้ประเทศอื่นไม่ได้
อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 สาวใต้ลูกครึ่งไทย-แคนาดา มีวัย 27 ปี ที่เตรียมจะไปคว้ามงสามบนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2020 ในวันที่ 13 พฤษภาคม จะเป็นรอบพลีลิมมินารีและวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 จะเป็นรอบไฟนอล ณ โรงแรมเซมิโนล ฮาร์ดร็อค โฮเทลแอนด์คาสิโน ในฮอลลีวู้ด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
ล่าสุด อแมนด้า เปิดใจถึงการเตรียมตัวสำหรับศึกใหญ่ในครั้งนี้ว่า ตื่นเต้นมากเพราะรอมาตั้งแต่ประกวดในไทยเสร็จ ตอนนี้ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชุดราตรี ชุดว่ายน้ำ และชุดประจำชาติ ไตรรงค์อนงค์นาถสุพรรณมัจฉา ที่มีการปรับเปลี่ยนบางจุดเพื่อลดน้ำหนักของชุดลง รวมถึงตัวของเธอเองก็บอกกับสื่อเลยว่า ทันทีที่ได้ลองแต่ละชุดก็องค์ลงสุดๆ จึงทำให้พร้อมมากจริงๆ กับการเดินหน้าคว้ามงสามในครั้งนี้ พร้อมสัญญาว่าจะพยายาม อดทนและปล่อยของให้เต็มที่ที่สุด
ส่วนเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ก็คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาหรือเป็นอุปสรรคอะไร เพราะทางประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีกฎว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องกักตัว บวกกับประเทศไทยก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามหากทางกองประกวดให้ฉีดวัคซีน ตนก็พร้อมที่จะทำตามกระบวนการทั้งหมด
สำหรับฟีดแบคหลังปล่อยคลิปวันสตรีสากล หรือ International women’s day ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนว่ากระแสจากแฟนนางงามจะแฮปปี้กว่าครั้งก่อนๆ เจ้าตัวก็ยอมรับว่าโล่งอกที่ทุกคนชอบ เพราะเป็นอีกคลิปที่ตนและทีมงานตั้งใจมาก
ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วยประเด็นดราม่าเมื่อมูลนิธิกระจกเงาได้เทียบเชิญ “อแมนด้า” ร่วมงานกับทางโครงการผู้ป่วยข้างถนน ในฐานะอาสาสมัครทูตสื่อสารสังคม ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิกระจกเงา เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ภายหลังกรมสุขภาพจิต ออกแถลงการณ์ ยุติการเป็นทูตด้านสุขภาพจิตของอแมนด้าที่แต่งตั้งได้เพียง 5 วัน นั้น ตนก็เปิดใจเลยว่าไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และมูฟออนออกจากเรื่องราวของการโดนยุติตำแหน่งไปแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการประกวดในเวทีใหญ่ด้วย เพราะตนและคนรอบข้างรู้ตัวดีว่าวันนี้กำลังทำอะไรอยู่
ด้านของหน้าที่กับมูลนิธิกระจกเงานั้น ตอนนี้มีการพูดคุยและลงในตารางงานแล้ว ซึ่งหลังกลับจากประกวดเวทีใหญ่เสร็จก็จะเดินหน้าลงพื้นที่ระยะยาว เพื่อดูแล ช่วยเหลือผู้ป่วยที่เป็นจิตเวชเร่ร่อนตามถนน ที่หลายคนตีความคนกลุ่มนี้ว่าเป็นคนบ้านั่นเอง
