จากกรณีเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 มี.ค. 64 พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 380 เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บริเวณคอนโดหรูย่านรัตนาธิเบศร์ ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 22 ชั้น บริเวณชั้น 12 หน้าห้องพบปลอกกระสุนปืนขนาด 380 จำนวน 12 ปลอก ตกอยู่ในห้อง 9 ปลอก
ภายในห้องพบศพนายชินพรรธน์ ปิติถาวรทรัพย์ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ ยิงตัวเองนอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียง มีบาดถูกยิงที่ศีรษะขวา 1 นัด ภายในกระเป๋ากางเกงพบกระสุนปืน 7 นัด
บนเตียงพบศพนางสาวสุนิษา ทองคุ่ย แฟนเก่าของผู้ตาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 380 นอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณแก้มขวา ศีรษะ แขนขวา ลำตัว ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายนายวีรพงศ์ ปานณรงค์ แฟนของสาวผู้ตาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่แขนซ้าย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
กล้องวงจรปิด เวลา 03.45 น บริเวณชั้นล่างของคอนโดดังกล่าว ผู้ก่อเหตุได้ดึงมือเพื่อนของผู้ตายให้ขึ้นไปบนชั้น 12 กล้องอีกตัว เวลา 03.47 น. จับภาพชายวิ่งหนีตายออกมาจากห้องตรงไปที่ลิฟต์ ต่อมาสักพักเพื่อนหญิงของผู้ตายได้ออกมาจากห้องด้วยอาการตกใจ
ต่อมาผู้ก่อเหตุได้ออกมาจากห้อง แล้ววิ่งไปตรงไปที่ลิฟต์ คาดว่าน่าจะไปตามทำร้ายแฟนใหม่ของผู้ตาย แล้วเดินกลับมาที่ห้องอีกครั้ง
นางเอ (นามสมมุติ) เพื่อนของผู้ตาย กล่าวว่า เป็นเรื่องถึงหวงนายชินพรรธน์ กับนายนายวีรพงศ์ คนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นแฟนใหม่รู้จักกันมาก่อน เป็นเพื่อนกัน น.ส.รินทร์ลภัส ทำงานบริษัทประกันชีวิต เลิกกันมาประมาณเกือบ 3 เดือน มีลูกด้วยกัน 3 คน ที่ตนมากับผู้ชายที่เป็นคนยิง เนื่องจากตนกับนายชินพรรธน์ และน.ส.รินทร์ลภัส อยู่บ้านเดียวกัน ตนสนิทกันมากทั้ง 3 คน เนื่องจากทำประกันอยู่ที่เดียวกัน ตนนอนอยู่ที่บ้าน
คนก่อเหตุมาบอกว่าให้มาเป็นเพื่อน อยากจะมาคุยกับทางแฟนสาวเพื่อมาปรับความเข้าใจ ตนจะไม่มาด้วย เพราะไม่อยากยุ่งเป็นเรื่องของผัวเมีย แต่คนยิงอ้างว่าเมา ให้ตนช่วยขับรถให้ ตนจึงได้มาด้วย มาถึงตอนประมาณ 03.00 น. แต่เข้าไปในคอนโดไม่ได้ เนื่องจากไม่มีคีย์การ์ด จึงได้บอกกับช่างที่คอนโดแล้วอ้างว่าคีย์การ์ดหาย ทางช่างจึงได้มาเปิดให้
ตอนแรกตนมาส่งแล้วจะกลับเลย แต่ทางคนก่อเหตุบอกว่าให้ขึ้นไปด้วยกัน พอถึงหน้าห้องทางคนยิงจะใส่รหัสเพื่อจะเข้าห้อง แต่ทางแฟนสาวได้เปลี่ยนรหัสไปแล้ว คนยิงได้ยืนรออยู่หน้าประตู ตนเข้าไปในลิฟต์กำลังจะปิดประตู ได้ยินเสียงปืนดัง ตกใจมากจึงได้เอามือกดหูแล้ววิ่งเข้ามาดู พบว่าทั้ง 3 คนกำลังชุลมุนกันอยู่
หลังจากนายนายวีรพงศ์ ถูกส่งตัวมารักษาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าผู้บาดเจ็บเพิ่งเข้ารับการผ่าตัด อาการล่าสุดปลอดภัยแล้ว อยู่ระหว่างการพักฟื้น
พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า เพื่อนพยานที่ไปด้วยกันกับผู้ก่อเหตุให้การว่า ถูกขอร้องให้พามาที่คอนโดฯ เพราะจะมาเคลียร์กับแฟนเก่า ไปถึงตอนตี 3 ผู้ก่อเหตุไม่สามารถเข้าคอนโดได้ จึงได้เรียกให้ รปภ.มาเปิดให้ แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้น 12 พยายามเปิดประตูอัตโนมัติ แต่ถูกเปลี่ยนรหัสไปแล้ว จึงเกิดความโมโหใช้ปืนยิงไปที่ประตู 12 นัด แล้วพังประตูเข้าไป เปิดประตูเข้าไปเห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างอดีตแฟนกับสามีใหม่ ใช้ปืนยิงสามีใหม่ที่ไหล่ซ้าย ยิงภรรยาเก่าที่ใบหน้าและศีรษะรวม 7 นัด จากนั้นก็ยิงขมับตัวเอง 1 นัด
แม้ทั้งคู่จะเลิกกันตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว แต่ก็เลิกไม่ขาด เพราะยังคงมีภาระติดพันกันเรื่องลูกทั้ง 3 คน มีปัญหาทะเลาะกันมาโดยตลอด ส่วนที่ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นเพราะความหึงหวง และอยู่ในอาการมึนเมา พร้อมทั้งมีอาวุธปืน ขาดสติแล้วลงมือก่อเหตุ สำหรับคดีนี้ตำรวจจะทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อทำการสรุปสำนวน พร้อมลงความเห็นในคดีอาญา สั่งไม่ฟ้องเนื่องจากผู้ต้องหาได้เสียชีวิตไปแล้ว
ที่วัดเทพนารี จรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิต นายชาย (นามสมมติ) พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทราบเรื่องก็ช็อกและตกใจมาก ไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะไม่มีรางบอกบอกเหตุ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็รักกันดี แม้จะมีการทะเลาะกันในแต่ละวัน ตนเองมองว่าเป็นเรื่องครอบครัวจึงไม่ยุ่ง และจะบอกเสมอว่าครอบครัวของลูกให้ไปเครียร์กันเอง จัดการกันเอง ซึ่งพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็พูดแบบนี้
ตนไม่คิดว่าจะมีเหตุเช่นนี้ขึ้น ผู้บาดเจ็บก็คือเพื่อนลูกชาย ไม่รู้ว่าเพื่อนลูกชายมาคบกับภรรยาลูกชายได้อย่างไร ลูกชายไม่เคยมาบ่นให้ฟังว่ามีปัญหาหรือเครียด อีกอย่างเคยเห็นว่ามีเพื่อนคนนี้คือเพื่อนในกลุ่มที่เคยร่วมกลุ่มไปเที่ยวกระบี่และต่างจังหวัดกันบ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเหตุเกิดขึ้นแบบนี้ ฝ่ายหญิงก็ตายฝ่ายชายก็ตายไปแล้ว ตนเองในฐานะพ่อที่เลี้ยงดูหลาน ๆ มาโดยตลอดก็คงมุ่งหน้าดูแลเลี้ยงดูหลานต่อไป รวมถึงหลานก็เป็นเด็กดี มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลานก็กำลังใจดี ไม่ได้คิดมาก เพราะหลานสนิทกับตนเองมากว่าพ่อและแม่ของเขา
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้าน ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บ้านผู้ก่อเหตุ แต่บ้านปิดเงียบ เพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ปิดบ้านเงียบเช่นเดียวกัน รปภ.ในหมู่บ้าน เล่าว่า นายชินพรรธน์ ผู้ก่อเหตุ ปกติเวลาที่พบเห็นอยู่ในหมู่บ้านจะมีการกินเลี้ยงดื่มเหล้ากันเสียงดังแทบบ่อยครั้ง
จากที่สังเกตเห็นเป็นคนโมโหร้าย ขับรถเร็วมากเวลาที่ดื่มมาหนัก ก่อนหน้านี้ตนเปิดไม้กั้นประตูให้ไม่ทันใจ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถพุ่งชนไม้กั้นประตูจนหักมาแล้ว เป็นบุคคลที่มีอารมณ์น่าหวาดกลัวมาก แต่ถ้าไม่ดื่มเหล้า ก็จะเป็นปกติดีทุกอย่าง แต่ก็ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีสื่อบางสำนักเข้ามาที่หน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ ตนจึงเดินไปสอบถาม จนทราบมาว่านายชินพรรธน์ไปบุกยิงแฟนเก่าถึงคอนโด พร้อมกับปลิดชีพตัวเองตามไปด้วย ตอนนั้นที่ทราบเรื่องรู้สึกใจหายมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น
ที่วัดเอนกดิษฐารามบางใหญ่ ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี วัดที่มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลและการสวดอภิธรรมของ น.ส.รินทร์ลภัส มีบรรดาญาติพี่น้องครอบครัว และเพื่อนสนิทเข้ามาร่วมพิธี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ตรวจสอบบนเฟซบุ๊กของผู้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุมีการโพสต์ตามปกติทั้งลงภาพครอบครัว และการทำงานขายประกัน ทำนองสร้างเนื้อสร้างตัว โดยไม่ได้มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนเฟซบุ๊กของผู้หญิงอดีตคนรักเก่าที่เสียชีวิต มีการโพสต์ลงรูปของตัวเอง ลงภาพท่องเที่ยวและการทำงานขายประกัน และโพสต์ข้อความเกี่ยวกับความรัก การตัดพ้อ วันที่ 14 มี.ค. 64 ลงภาพกับคนรักใหม่ และภาพสุดท้ายที่ลงไว้วันที่ 16 มี.ค. 64 เป็นภาพของตัวเองเกี่ยวกับการทำงานประกัน