ซัมซุงจับมือสมาคมคนตาบอดฯ หนุนผู้พิการทางสายตาเข้าสู่ยุคดิจิทัล

20 มี.ค. 64

ปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีพของผู้คน ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟนที่เป็นมากกว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารแต่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ หรือ เหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ยุคดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น โดยความเปลี่ยนแปลงนี้นับได้ว่าเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มผู้พิการทางสายตาที่ต้องปรับตัวให้ทันโลกยุคใหม่ ด้วยเหตุนี้ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด จึงร่วมมือกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในการนำเสนออีกหนึ่งทางเลือกในการเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มาพร้อมการบริการที่ครอบคลุมและสิทธิประโยชน์เหนือระดับให้แก่คนกลุ่มนี้

เมื่อผลิตภัณฑ์และการบริการยุคใหม่ต้องเข้าถึงคนทุกคน

จากข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า ในปัจจุบันมีจำนวนผู้พิการทางสายตาในประเทศไทยมากกว่า 200,000 คน ซึ่งจากการที่บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้ดำเนินงานร่วมกับหลากหลายหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มผู้พิการทางสายตามาอย่างยาวนาน ทำให้ได้สัมผัสและรับทราบข้อมูล ที่ว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญกับบุคคลกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก จากการเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสามารถติดต่อสื่อสาร เข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารความรู้ รวมถึงเป็นสื่อกลางในหาเชื่อมพร้อมอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน

 

นายชัชชัย วิจิตรจรรยา กรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ซัมซุงคือหนึ่งในแบรนด์ที่เข้าใจกลุ่มผู้พิการทางสายตามากที่สุด ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล การมีผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบโจทย์ทำให้พวกเรารู้สึกมั่นใจที่จะก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงนี้ไปพร้อมกับทุกคน กลุ่มผู้พิการทางสายตาต้องการอุปกรณ์ที่เข้ามาอำนวยสะดวกในการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ ไม่ต่างจากคนทั่วไป และซัมซุงสามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการที่ครอบคลุมและครบวงจร”


นางสาวปารมี ทองเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จํากัด กล่าวว่า “ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยแนวคิดนี้ได้ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่อุปกรณ์ของซัมซุงไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี หรือสมาร์ทดีไวซ์ จะมีฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานสำหรับกลุ่มผู้พิการทางสายตาอย่างครอบคลุม อาทิ แอปพลิเคชัน SeeColors App ที่ช่วยในการปรับสีและเติมเต็มสีที่หายไป เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้รับชมภาพทางทีวีได้อย่างสมบูรณ์แบบ, การบรรยายผ่านเสียง (Audio Description), การสอนการใช้งานรีโมต (Learn TV Remote), ข้อมูลเสียง (Voice Guide) และทางลัดเข้าสู่โหมดตัวช่วยการเข้าถึง (Accessibility Shortcuts) เป็นต้น ซึ่งในวันนี้เราได้ร่วมมือกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยเพื่อพัฒนาระบบที่จะส่งต่อผลิตภัณฑ์และการบริการที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต รวมถึงยังช่วยให้กลุ่มผู้พิการทางสายตาได้เข้าถึงข้อมูลและการใช้งานต่างๆ เพื่อยกระดับความสะดวกสบาย เปิดประตูสู่การเรียนรู้ และเสริมสร้างโอกาสใหม่ๆ ในโลกยุคดิจิทัลที่เท่าเทียม”

 

จากความต้องการขั้นพื้นฐานสู่ความสะดวกสบายที่ครบวงจร

ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบโจทย์เพียงความต้องการขั้นพื้นฐานอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้คนในปัจจุบันต่างก็มองหาสิ่งที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์ยุคดิจิทัลในมิติต่างๆ กลุ่มผู้พิการทางสายตาก็เช่นกัน พวกเขามองหาสิ่งที่มากกว่าการติดต่อสื่อสารขั้นพื้นฐาน แต่ยังมีความต้องการที่จะเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้น หรือแม้กระทั่งการเข้าถึงความบันเทิงที่หลากหลายมากกว่าเดิม
นายจอง ซุง ปาร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า กล่าวว่า “ซัมซุงมีความเชื่อมั่นว่าเราสามารถเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับชีวิตของคนทุกคน ความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพชีวิตของคนทุกคนให้ดีขึ้นนี้จึงสะท้อนผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ครอบคลุมและใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยบริษัทได้เตรียมทีมงานคอลเซ็นเตอร์ที่ได้รับการอบรมมาเพื่อให้บริการกับผู้พิการทางสายตาโดยเฉพาะ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่วยดำเนินขั้นตอนการสั่งซื้อตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงการให้คำปรึกษาในด้านการบริการหลังการขาย ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง การเรียนรู้การใช้งานเบื้องต้น ไปจนถึงการเข้าถึงโหมดตัวช่วยการเข้าถึง (Accessibility) ต่างๆ ที่จะช่วยทำให้ผู้พิการทางสายตาได้เข้าถึงการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยีที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคตข้างหน้า”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม