สำนักสอนเสพกามขอปิดวาจา ส่งศิษย์พาสื่อดำน้ำละกิเลส "เจ้าคณะ" สั่งสอบ (คลิป)

จากเรื่องราวที่มีการตีแผ่ถึงคลิปคำสอนของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นวัดป่าเนื้อนาบุญ ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยมีหลวงตากรันยา เป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ ที่ออกมาระบุคำสอนบางช่วงบางตอนในการอบรมญาติโยมที่เข้ามาปฏิบัติธรรม ทำนองว่า "อนุญาตให้ผู้ที่มาปฎิบัติธรรมสามารถเสพเมถุน เพราะเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งในการทำสมาธิให้หลุดพ้นจากกรรม หนำซ้ำยังได้บุญและมีสมาธิเพิ่ม" นั้น

โดยที่วัดป่าเนื้อนาบุญ ท้ายหมู่บ้านกอกหวาน หมู่ 1 ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ สถานที่ปฏิบัติธรรม เจ้าของที่ดินคือพระกรันยา ถาวรธรรมโม อินธนู อายุ 59 ปี ผู้ดูแลสถานที่ มีการประดับตกแต่งด้วยสีรุ้ง รวมถึงการแต่งกายของผู้ปฏิบัตที่สวมชุดสีรุ้ง และได้ชี้แจงกรณีคลิปงานแต่ง รวมถึงการดำน้ำในถังเพื่อฝึกปฏิบัติธรรมแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 21 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดดังกล่าว ก่อนที่ทีมข่าวจะเริ่มทำพิธี ได้เกิดพายุเข้า และลมค่อนข้างแรง เมื่อทีมข่าวลงจากรถฝนได้กระหน่ำตกลงมาทันที ซึ่งหนึ่งในอริยบุคคลได้กล่าวว่า ช่วงนี้มีคนทั่วไปเข้ามาเยอะ และบางคนได้กระทำไม่ดีกับสถานที่ ฝนจึงตกลงมา เพื่อชะล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไป ระหว่างนั้นฝนก็ตก ประมาณ 30 นาที

ในวันนี้ทีมข่าวได้ติดต่อหนึ่งในอริยบุคคล และพระกรันยา ถาวรธรรมโม อินธนู เพื่อที่จะทดลองฝึกลมในน้ำ โดยพระกรันยา ถาวรธรรมโม อินธนู พระผู้ดูแลวัดเนื้อนาบุญ ได้มอบหมายให้นางธัญญรัตน์ เรืองวัชรรักษ์ หรือ อริยหมวยศรี อายุ 58 ปี หนึ่งในผู้ปฏิบัติธรรม เป็นผู้สอนทีมข่าวฝึกลมในน้ำ เนื่องจากทีมข่าวเป็นผู้หญิง หากให้เพศชายสอนจะไม่เหมาะสม

โดยเริ่มแรกจะต้องฝึกใช้การหายใจ คือ จะต้องหายใจเข้าให้สุดปอด ให้ลงไปถึงสะดือ และค่อย ๆ ปล่อยออกมา จากนั้นทีมข่าวได้ลงไปในน้ำ พร้อมกับนางธัญญรัตน์ หรือ อริยหมวยศรี ซึ่งก่อนที่จะลงน้ำต้องกลั้นหายใจ โดยหายใจเข้าปอดให้สุดก่อน แล้วค่อย ๆ ลงไปในน้ำ และต้องดำลงไปให้ระดับน้ำมิดศีรษะ เมื่อเริ่มหายใจไม่ออกก็ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แต่ระหว่างที่ดำน้ำจะต้องกำหนดจิตไว้ที่สะดือ

ทั้งนี้ทีมข่าวได้ทำลองลงดำน้ำ ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยระยะเวลาในการดำน้ำของทีมข่าว ครั้งที่ 1 ทีมข่าวดำน้ำได้ถึง 32 วินาที และครั้งที่ 2 ทีมข่าวดำน้ำได้ถึง 45 วินาที ครั้งที่ 3 ทีมข่าวดำน้ำได้ถึง 28 วินาที และครั้งที่ 4 ดำน้ำได้ถึง 1.04 นาที หลังจากที่ทีมข่าวได้ทดลองดำน้ำแล้ว จะรู้สึกสบายตัวและสมองโล่งปลอดโปร่ง หากจะได้ผลต้องหมั่นฝึกในเป็นประจำ และจะเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย

นางธัญญรัตน์ หนึ่งในผู้ปฏิบัติธรรม เปิดเผยว่า ตนเริ่มเข้ามาปฏิบัติธรรม เมื่อวันที่ 1 พ.ค.63 ฝึกอยู่ที่วัดป่าเนื้อนาบุญ ประมาณ 15 วัน ก่อนจะกลับไปฝึกที่บ้านอีก 15 วัน วันที่ตนรู้ว่าเริ่มเปลี่ยนแปลง คือ ตนไปกินตับ แล้วเกิดอาการพอง แสบหน้าอก จนต้องรีบคายทิ้ง อีกทั้งเวลาที่ได้กลิ่นปุถุชนจะทำให้เกิดอาการแปรปรวน ต้องแก้ด้วยการนำข้าวสารใส่กระบอก และบีบน้ำมะนาวใส่ เพื่อแก้ไม่ให้เกิดอาการแปรปรวน พอฝึกลมเป็นก็จะทำให้ร่างกายมีกลิ่นหอม เหมือนกลิ่นดอกไม้ โดยตนใช้เวลาฝึกประมาน 15 วันถึงเกิดกลิ่น

ก่อนหน้านี้ ตนเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนี้ เพราะตนไม่ชอบน้ำ เนื่องจากตนเคยประสบอุบัติเหตุเรือคว่ำ แล้วตกน้ำ แต่เพื่อนของตนได้ชักชวนให้ลองมาปฏิบัติ เพราะทำแล้วจะไม่ตกนรก ซึ่งทุกคนย่อมไม่อยากจะตกนรก ปัจจุบันนี้ตนอยู่เป็นโสด สุขภาพของเริ่มดีขึ้น จากที่รู้สึกหนาว ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอุ่นขึ้น และหน้าอกตั้งเต้าสวย ไม่หย่อนคล้อย จากคนมีพุงก็เริ่มผอมลง

ทั้งนี้จากกระแสสังคมที่โจมตีวัดแห่งนี้ ตนไม่สนใจเพราะความจริงคือความจริง และทุกคนตั้งใจปฏิบัติธรรม และทำในสิ่งที่ดี อีกทั้งตนเข้ามาทำที่นี่ ก็ไม่ได้แลกคู่กับใคร เพราะไม่จำเป็นต้องแลก แต่คนไม่รู้กลับเอาไปพูดไม่ดีเสียหายหมด นอกจากนี้หากคนจะมองว่าหลอกลวง คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะมีแต่คนแก่ ๆ ที่เข้ามาปฏิบัติธรรม

ท่านเจ้าคุณ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ กล่าวว่า ในฐานะที่อาตมาเป็นเจ้าคณะจังหวัด ในการปกครองดูแลคณะสงฆ์สายธรรมยุต ก็ได้เดินทางเข้าไปเพื่อทำการสอบสวน ในเรื่องพระธรรมวินัยก็ได้ให้พระรูปดังกล่าว ปรับปรุงคำเทศนาสั่งสอนให้ถูกต้อง หลังจากนี้จะได้ติดตามดูพฤติกรรมในขั้นตอนต่อไป

ส่วนเรื่องที่พระรูปดังกล่าว รับปากว่าจะหยุดเทศนาในเรื่องนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าคณะอำเภอสอดส่องตรวจสอบดูแลว่าจะปฏิบัติตามคำรับรองหรือไม่ เพื่อให้ศาสนาเผยแผ่หลักธรรมและเดินต่อไปได้อย่างถูกต้อง และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะสงฆ์เข้าไปสอบสวนว่า คำสอนนั้นผิดเพี้ยนอย่างไรบ้าง จากนั้นคณะสงฆ์ก็จะประชุมกันอีกครั้ง และลงโทษตามความผิดต่อไป