เป็นคู่รักที่ขยับตัวทำอะไรก็ตกเป็นข่าวทุกเรื่อง สำหรับ ใหม่ สุคนธวา ที่ควงสามี ดีเจต้น สรพงษ์ มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ พร้อมเคลียร์ทุกเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้น เผยเหตุผลทำไมต้องเลี้ยงลูกเอง เพราะไม่อยากให้ลูกขาดความรักเหมือนที่ตัวเองเจอ และเปิดใจทั้งน้ำตาถึงสวัสดิการภรรยาเงินก้อนโตที่สามีมอบให้
ถาม หยุดรับงานมาทุ่มกับลูกเต็มที่ อะไรเป็นจุดที่ตัดสินใจไม่รับงานเลย
ใหม่ สุคนธวา : ตั้งแต่คลอด เราก็เลี้ยงเองทุกวินาที เราอยากใส่ใจ ผูกพัน ให้ความอบอุ่นกับเขา อย่างที่ใหม่เคยบอก ใหม่ไม่เคยเจอแม่ตั้งแต่อายุสามเดือน เราเลยอยากจะทุ่มตัวเองให้กับลูกคนนี้ ไม่เอาแล้ว ไม่รับงานแล้ว อยู่กับลูก อยากให้ลูกผูกพันกับเรา อยากให้เขารู้จักสายใยผูกพัน เราขาดตรงนั้น เราเลยไม่อยากให้ลูกขาดเหมือนเรา เราคิดแบบนี้ เราเลยไม่รับงาน
ดีเจต้น : ทุกคนก็จะมาถามเราว่าภรรยาเราเหนื่อยไปไหม ทำไมต้องให้เขาซักผ้าด้วย ทำไมไม่จ้างพี่เลี้ยง ผมเลยเล่าให้ทุกคนฟังและพี่บุ๋มฟังว่าจริงๆ แล้วเป็นความประสงค์ของใหม่ เขาต้องการทำอะไรเอง เขาอยากซักผ้าด้วยมือ เพราะเขาอยากรู้ว่าคนสมัยก่อนลำบากมากขนาดไหน แล้วการเลี้ยงดูด้วยแม่คนเดียวมันยากมากเลยเหรอ เพราะว่าตัวเขาเอง เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้มีคุณแม่ตั้งแต่สามเดือน เขาเลยที่จะอยากรู้ว่ามันเหนื่อยจนแม่ต้องทิ้งเขาไปเลยเหรอ
ใหม่ สุคนธวา : ใหม่อยากได้ความอินในความเป็นแม่ตรงนั้นมากกว่า บ้านเรามีเครื่องซักผ้าแหละ แต่ใหม่อยากใช้ใจซักผ้าให้ลูกเพราะว่าเราอยากจะใส่ใจความละเอียดอ่อนให้ลูกลงไปกับทุกอย่าง แม้แต่กระทั่งเสื้อผ้าที่เขาใส่ แต่ก็มานั่งนึกดูว่าถ้าเราไม่รับงาน เราก็ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัวอีก แต่เราก็ต้องมองโลกแห่งความเป็นจริงว่าถ้าเราไม่รับงาน เราก็จะไม่มีกิน แต่เราก็อยากเลี้ยงลูกด้วย
ดีเจต้น : เขาเป็นคนที่ไม่ทำงานก็ได้ เพราะว่าผมสามารถดูแลเขากับลูกได้ แต่ว่าเขาเป็นคนที่ชอบทำงาน แล้วการได้เงินจากผม เขาไม่ภูมิใจ เขาจะใช้อะไรไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเขา เงินที่ผมให้เขาทุกๆ ครั้ง เขาไม่เคยใช้เลย สวัสดิการภรรยาที่เขาได้
ถาม แล้วพี่ใหม่มีการเบรกการใช้เงินของสามีบ้างไหม
ใหม่ สุคนธวา : จริงๆ ก็มีค่ะ เพราะว่าใหม่ไม่ค่อยติดหรูอะไรขนาดนั้น เราก็บอกเขาว่าเรากับเขาหาเงินกันมาเหนื่อย เราอย่าฟุ่มเฟือยมากเลย แต่เราก็ไปห้ามร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เขาเหนื่อยด้วยลำแข้งตัวเอง ความฝันและความเหนื่อยของเขา เราจะไปห้ามมันก็แบบไม่ได้ ก็เลยแล้วแต่เขาแล้วกัน เขาก็เลยตัดสินใจซื้อ
ดีเจต้น : เราไม่ค่อยได้ใช้อะไรฟุ่มเฟือยก็เลยตัดสินใจซื้อ แล้วผมเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว ไม่สูบบุหรี่ แล้วผมก็ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรสุรุ่ยสุร่าย เวลาที่ผมทำอะไร ผมก็จะทำให้สุดไปเลย แต่ตอนที่ผมทำงานผมจะใส่สูท แล้วก็เสื้อบริษัทเท่านั้นเอง แต่เวลาที่เราจะซื้อครั้งหนึ่ง ใหม่จะกลัวแล้วก็เตือนผมตลอด เพราะว่าเวลาที่เราซื้อเราจะซื้อแบบเต็มที่ไปเลย
ใหม่ สุคนธวา : เขาจะเป็นคนถามก่อนว่าอาทิตย์หนึ่งออกรายการอะไร คู่กับใหม่ใช่ไหม ใหม่แต่งตัวแบบไหน วันนี้เขาจะแต่งตัวแบบนี้นะ ชุดแบบนี้นะ ค่าตัวไม่สน เอาหน้าไว้ก่อน แต่มันเป็นความสุขของเขา เราไม่ว่า อย่างเรื่องสวัสดิการที่เขาพูดเมื่อกี้ เขาให้เราจริงแต่เราก็ไม่ได้รับนะคะ ทุกคนก็จะบอกเราว่าดีเนอะ มีสามีเปย์ เป็นคนมีบุญวาสนา เราไม่อยากให้คิดอย่างนั้น เราก็ถือว่าเราโชคดีแหละที่มีเขา แต่ก็ต้องขอบคุณเขาที่ให้เรามาตลอด เราก็รับไว้นะ แต่เราไม่ใช้เลย เพราะเราเอาไปเข้าบัญชีลูก ไม่แตะเลย เผื่อว่าอนาคตไม่มีลูก จะได้เอาเงินก้อนนี้มาใช้ได้ แต่เราก็คุยกับเขาไว้นะ ว่าเราต้องบอกว่าบ้านเราไม่มีนะ บ้านเราจน เพื่อที่ลูกทำมาหากิน ให้ลูกขยันกว่าเราสองคน
ดีเจต้น : ตอนนี้ลูกมีเงินมากกว่าผมอีก
ถาม ใหม่เจอดราม่าตลอด เพราะว่ามีคนนอกมาช่วยเลี้ยง แล้วก็เลยเกิดเป็นประเด็น รู้สึกยังไงมีคนช่วยเลี้ยงลูกเรา
ใหม่ สุคนธวา : ก็ต้องขอบพระคุณมากเลยค่ะ ที่ช่วยเลี้ยงลูก อยากจะบอกว่าถ้าอยากช่วยเลี้ยงมาอยู่บ้านเราเลยไหม จริงๆ แล้วเราขอบคุณก่อนที่เขาห่วงเรา อย่าไปคิดว่าเขามายุ่ง วุ่นวาย มาสั่งมาสอน ยุ่งเรื่องชาวบ้านเรา อย่าไปคิดอย่างนั้น เขาอาจจะห่วง แต่สุดท้ายเรารู้สึกว่าลูกฉัน ฉันอยากเลี้ยง ขนาดหอมลูกยังโดนดราม่า ทำไมไปหอมลูก เดี๋ยวลูกติดเชื้อ โน้นนี่นั่น ใหม่ก็เลยตอบไปว่าถ้าไม่ให้หอมลูก แล้วจะให้ไปหอมหมาที่ไหน คำนี้ทำให้เรารู้สึกว่าก็เพราะแบบนี้ไง เราถึงได้เป็นแบบนี้ ถ้าหากเราไม่ปลูกฝังการให้ความรักกับลูก ลูกโตขึ้นไปก็จะเขินอายไม่หอมแม่ ไม่แสดงความรัก เหมือนที่เราเป็นกับพ่อแม่ปัจจุบันที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะว่าเรากลัว เราเกร็ง เราอาย เราจะไม่เอาแบบนั้นแล้ว
ถาม เลี้ยงลูกไปเลี้ยงลูกมา ทะเลาะกันเอง
ดีเจต้น : ตอนที่เขาเลี้ยง ผมก็เข้าใจในมุมของความเป็นแม่ แต่ในมุมของความเป็นพ่อ เราก็มีความรู้สึกกังวลบ้างเล็กๆ เรื่องการอาบน้ำ เพราะคุณหมอจะสอนเราตั้งแต่หลังคลอดว่าจะต้องอุ้มลูกยังไง แต่เรารู้สึกว่าเรากลัวลูกจมน้ำมาก ใหม่เขาชำนาญเกินเบอร์ ทำอะไรรวดเร็ว แล้วเราเข้าไปห้ามหมดทุกอย่าง สุดท้ายเขาล็อคห้อง อาบน้ำลูก เราก็กังวลว่าลูกจะเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะเราเห็นเขาเครียดๆ อยู่
ใหม่ สุคนธวา : เราเรียนมา แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าเราเก่ง แต่เราก็พอทำได้ เราก็อยากให้เขาเชื่อใจเรา อย่างวันแรกๆ เหมือนฝ่ายปกครองนั่งจับผิด เขาเป็นคนเว่อร์ เกินเบอร์ จนเราต้องบอกว่าเดี๋ยวก่อน ใจเย็น ลูกไม่ตกน้ำแล้ว ตกใจเสียงคุณ แล้วเราจะทำให้ลูกตกน้ำ จมน้ำได้ เราก็เลยบอกเขาว่าถ้าไม่ทำก็อยู่เฉยๆ อย่ามาร้องโวยวาย ตอนนั้นที่ทะเลาะกันคือหนักจนไล่ออกจากบ้านไปเลย ตอนนั้นเพราะเรารู้สึกอึดอัด ทำไมเขาต้องมาจุกจิกกับเราด้วย แล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นแม่ เรามีสัญชาตญาณในการเลี้ยงลูก แล้วบางทีเราก็น้อยใจ เพราะว่าเขาห่วงลูกจนลืมห่วงเรา จนเราต้องบอกว่าต้องดูแลเราก่อน เพราะว่าถ้าเราไม่มีชีวิตจิตใจไม่ได้
ถาม เงินสวัสดิการเมียทำไมก้อนใหญ่มากขนาดนี้ มันมีความเป็นมายังไง
ดีเจต้น : มันเป็นเงินที่ผมเหนื่อยและทุ่มเทกับมันมาก 10 ล้านได้มาจากการทำงานของเราตั้งแต่ก่อนที่จะคบกับเขา ผมก็เอาเงินก้อนนี้ไปใส่บัญชีธนาคารให้เขา ผมรู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งผมออกไปทำงาน ผมอาจจะไม่ได้กลับมาอีกแล้วก็ได้ ลูกต้องไม่ลำบาก แล้วมีอีกส่วนที่ผมทำให้เขาคือประกันชีวิตไว้ให้เขากับลูก ถ้าผมเป็นอะไรไป เขากับลูกจะอยู่กันอย่างสบายเลย
ถาม รู้สึกยังไงบ้างที่สามีรักและวางอนาคตไว้ให้ใหม่ขนาดนี้
ใหม่ สุคนธวา : เรารู้สึกกลัวว่าเขามาทำประกันไว้ให้เรา เขามาทำอะไรให้เป็นลางสังหรณ์อะไรหรือเปล่า สั่งเสียอะไรไหม ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ที่เขาสวัสดิการเรา เราก็ต้องขอบคุณมาก เรารับนะ แต่เราจะไม่ใช้เลยสักบาทเพราะใหม่เองพูดกับเขาตั้งแต่วันแรกที่เราคบกันว่าผู้หญิงอย่างเราแกร่งและมีศักดิ์ศรีพอ เรารู้สึกว่าเราต้องหาเงินให้ได้มากกว่าเขา ขยันทำงานให้มากกว่าเขา เก่งกว่าเขาหาเงินแข่งกับเขา เพราะเราไม่อยากให้คนอื่นดูถูกว่าเราขอเงินผู้ชาย เราต้องเป็นสายข่มเขาตลอด แต่ในเงินก้อนนั้นมันทำให้เราน้ำตาไหล เพราะว่ามีเรื่องราวอยู่ในเงินก้อนนั้น เพราะก่อนหน้านี้เราสองคนไม่ค่อยมีเงินกัน
ดีเจต้น : ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ทำงานเลย 2 ปี เพราะว่าเราอยู่กับเขาตลอด แล้วผมก็ใช้เงินเก็บหมดเลย ขายคอนโด ขายรถ จนเงินใกล้หมดแล้ว เหลือเงินแค่ร้อยกว่าบาทอยู่ในกระเป๋า
ใหม่ สุคนธวา : ซึ่งจำได้เลยว่าเรากิน (เสียงสั่นจะร้องไห้) บะหมี่ข้างทางเดือนหนึ่งติดกันทุกวัน คือเราก็ไม่ได้อยากกินทุกวัน แต่เราแกล้งบอกเขาว่าให้พาเราไปกินหน่อยสิ แต่สิ่งที่เราพูดตรงนี้มันมีนัยยะว่าเราต้องการประหยัดเงินให้เขา เพราะเขามีอยู่แค่หลักร้อย เราต้องการช่วยเขาประหยัด พอเขามีแบบนี้ แล้วเขาเอามาให้เรา เราเลยรู้สึกว่าเราซึ้งใจในตัวเขา เราถึงบอกเขาเสมอว่าอย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก ใช้เงินแบบประหยัดๆ แล้วให้จำถึงวันที่เรากินข้าวข้างทางกัน มีเงินร้อยกว่าบาท เราไม่ได้อวด เราไม่ได้โชว์ เราไม่ได้สร้างภาพ แต่เราต้องการชมเขาให้สังคมได้เห็นในมุมนี้ของเขาบ้างว่าเขาไม่ได้แย่นะ เขามีมุมที่ดีนะ คนทำดีอย่าไปด่า เราต้องชม ต้องส่งเสริมให้เขาได้ทำความดี เพราะเขาจะได้ให้เงินเราต่อไป