จากกรณีเหตุการณ์เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา เป็นนาทีที่แก๊งเรือประมงผิดกฎหมา ในปากอ่าวปากนคร ตำบลปากนคร อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช ใช้เรือหางยาวเร่งเครื่องพุ่งเข้าชนเรือของเจ้าหน้าที่ศรชล.ภาค 2 ซึ่งสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษศรชลภาค 2 จำนวน 4 นาย เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 นาย และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ 2 นาย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 5 ราย อาหารสาหัสทั้งหมด
วันที่ 23 มี.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ท่าเรือปากพญา ตำบลท่าซัก อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช เป็นจุดขึ้นเรือของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจับกุมเรือประมงผิดกฎหมาย หลังจากที่พยายามขอนำเจ้าหน้าที่คนเจ็บขึ้นฝั่งบริเวณสะพานตัวที ปากอ่าวปากนครตำบลปากนคร อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช บริเวณจุดดังกล่าวชาวบ้านคาดว่าเป็นญาติของหนึ่งในกลุ่มคนก่อเหตุ ได้ล้อมสะพานตัวที เพื่อไม่ให้นำคนเจ็บขึ้นบริเวณจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้พากันมาขึ้นฝั่งบริเวณปากพญา ห่างจากจุดสะพานตัวทีประมาณ 6 กิโลเมตร
ระหว่างที่ทีมข่าวเดินทางมาถึงบริเวณท่าเรือเล็ก ปากพญา พบว่า มีเรือ โชคพูนทรัยพ์ ป. เป็นเรือวี สีฟ้า สร้างขึ้นด้วยไฟเบอร์ ขนาดลำเรือ 4 วา เป็นเรือปฎิบัติการตรวจจับเรือประมงผิดกฎหมาย ฝั่งทางขวาของกราบเรือเป็นรอยแตกเสียหาย เป็นแนวกว้างประมาณ 3 เมตร และหลังคาโครงสร้างเรือส่วนหน้าเสียหาย ที่นั่งประจำการตรวจตราบนเรือหลุดกระจายทั่วบริเวณเรือ อีกทั้งยังพบคราบเลือดของเจ้าหน้าที่ติดอยู่บริเวณท่อพีวีซี และบริเวณกราบเรือด้านใน ซึ่งเรือจอดเทียบถ้าเพื่อรอการตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม
นายนก (นามสมมติ) อายุ 54 ปี อาสาผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการประมง คนที่อยู่ในเรือลำเกิดเหตุ ผู้รอดชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงเวลาดังกล่าว เรือวีของเจ้าหน้าที่ 3 ลำ ออกปฎิบัติการตรวจตราเรือประมงผิดกฎหมายนอกชายฝั่งห่างออกไปกว่า 2 กิโลเมตร พบเรือประมงหางยาวของชาวบ้าน 15 ลำ ลอยลำอยู่กลางทะเล และกำลังทำการประมงผิดกฎหมาย จึงเข้าทำการตรวจสอบ และบังคับให้ขึ้นฝั่ง
แต่ในระหว่างนั้นเรือประมงทั้ง 15 ลำ ได้เร่งเครื่องหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเพื่อจับกุม โดยเรือหางยาวที่ก่อเหตุเกิดความไม่พอใจ ตัดสินใจเร่งเครื่องยนต์ชนกลางลำเรือเจ้าหน้าที่ มีคนนั่งอยู่รวมกว่า 12 คน ซึ่งเรือยนต์ห่างยาวของกลุ่มกระทำผิดกฏหมาย นั่งโดยสารมา 2 คน เป็นเครื่องยนต์ชนิดวีออส ชนเข้าที่กราบขวาของเรือ พุ่งข้ามเรือที่มีเจ้าที่นั่งอยู่ กวาดเอาเจ้าหน้าที่ 4 นายตกลงไปในน้ำ ส่วนอีก 1 นายนั่งอยู่ด้านบน ถูกใบพัดเรือก่อเหตุบาดเข้าที่แขน จากนั้นเรือที่ก่อเหตุก็พุ่งข้ามเรือเจ้าหน้าที่ และเร่งเครื่องหลบหนีต่อไป ไม่ได้หยุดช่วยเหลือ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่มีการเข้มงวดตามระเบียบและกฎหมายการประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นการรังแกประชาชน ดังนั้นเมื่อพบเรือประมงผิดกฎหมาย ในฐานะเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการเข้มงวดกวดขัน เพื่อไม่ให้พบการกระทำผิดและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ ที่ไม่สามารถพาเจ้าหน้าที่คนเจ็บขึ้นไปบริเวณจุดดังกล่าวได้ เพราะมีการปิดล้อมพร้อมกับตะโกนว่า "อย่าให้มันขึ้นมา ให้มันตายอยู่ในเรือ" หรือแม้แต่รถกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ที่มารอรับอยู่ด้านบน ก็ยังถูกกลุ่มชาวบ้านที่คาดว่าเป็นญาติเกิดความไม่พอใจมาล้อมรถเอาไว้ ไม่ให้มีการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่
ส่วนอาการคนเจ็บ อาสาประมง 2 นาย นายเหลี่ยม และนายสุพจน์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ 2 นาย สารวัตรทหาร 1 นาย ตอนนี้ได้รับการรักษาทุกคนปลอดภัยแล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะแขนและขาหัก เนื่องจากถูกเรือหางยาวพุ่งชนอย่างแรง บางส่วนกระดูกสันหลังหัก กระดูกแตกร้าว แต่บางส่วนก็โดนใบพัดของเรือยาว บาดเข้าตามลำตัว ได้รับบาดเจ็บ
ด้านนายทอง (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดใจว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจับกุมเรือประมงผิดกฎหมาย ห่างออกไปจากชายฝั่ง แล้วเกิดการปะทะกัน เพราะเนื่องจากชาวบ้านที่ทำการประมงผิดกฎหมายได้จับสัตว์น้ำผิดลักษณะ โดยการทำตะแกรงจับสัตว์ทะเลแทนอวนและแห โดยการใช้ตะแกรงเหล็กจับสัตว์น้ำเป็นการทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกเรือหางยาวพุ่งชนได้รับบาดเจ็บ ได้ประสานรถกู้ภัยมารอรับที่สะพานตัวที ตำบลปากนคร แต่สุดท้ายไม่สามารถขึ้นฝั่งได้ เพราะมีชาวบ้านที่คาดว่าเป็นญาติของคนก่อเหตุ ออกมารวมตัวกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ขึ้นฝั่ง คอยตะโกนสาปแช่ง และไม่ให้ขึ้นมาจากน้ำ
เจ้าหน้าที่ที่อยู่บนเรือ จึงได้ประสานเรือลำอื่นมารับตัวคนเจ็บ แล้วประสานไปขึ้นเรือบริเวณปากพญา เป็นอีกตำบลหนึ่ง ห่างออกไปอีกประมาณ 5-6 กิโลเมตร เพื่อลำเลียงเจ้าหน้าที่คนเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยตอนนั้นสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ทุกคน มีเลือดท่วมตัว ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เพราะสังเกตว่ามีบาดแผลจากใบพัดเรือหางยาวบาดตามลำตัว ตนเองยังได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ทราบว่ากลุ่มคนก่อเหตุใช้เรือหางยาวพุ่งชนและข้ามเรือเจ้าหน้าที่ แต่ไม่จอดให้ความช่วยเหลือ เร่งเครื่องหลบหนี และในขณะที่เรือพุ่มข้าม ยังใช้หางเสือที่ใบพัดกำลังหมุนด้วยความเร็ว แกว่งไปมาหวังจะทำร้ายเจ้าหน้าที่บนเรือ ซึ่งเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าชาวบ้านในพื้นที่รู้ว่าใครกระทำผิดบ้าง และอยากให้ออกมามอบตัว เพื่อรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการจงใจและเจตนาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ และเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ตนเองสงสารเจ้าหน้าที่ เพราะพวกเขาก็ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ถ้าหากชาวบ้านไม่ทำผิด ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวหรือก่อเหตุแบบนี้