อนุทิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันมีวัคซีนโควิด 19 เพียงพอ สามารถฉีดให้กับประชาชนได้กว่า 37 ล้านคน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในประเทศ ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และเปิดประเทศได้ภายในปี 2564 พร้อมปรับแผนขยายจำนวนหน่วยบริการฉีด เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนมากขึ้น
อนุทิน ไม่กล้าฟันธง โบ้ย ศบค. ตัดสินใจกิจกรรม สงกรานต์ 2564 หลัง โควิดบางแค กระฉูด!
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลได้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ไว้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทยกลุ่มเสี่ยงทุกคน และทุกเชื้อชาติที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงของประเทศ ตามความสมัครใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเดิมจำนวนประชากรเป้าหมายของประเทศที่จะต้องได้รับวัคซีนโควิด 19 มีจำนวน 30 ล้านคน ด้วยความพยายามของรัฐบาลในการจัดหาวัคซีนเพิ่มและความชำนาญของบุคลากรทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีน ทำให้ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด 19 สำหรับฉีดให้กับคนในประเทศได้ประมาณ 37 ล้านคน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการฉีดให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 ทำให้คนในประเทศเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ส่งผลให้เปิดประเทศได้อย่างปลอดภัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรวัคซีนโควิด 19 ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้แต่ละจังหวัดบริหารจัดการการฉีดวัคซีนเนื่องจากทราบข้อมูลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี ในส่วนกลุ่มเป้าหมายอื่นที่อาจตกหล่น เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในแต่ละพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานไปยังหน่วยงานตรง เพื่อจัดสรรวัคซีนให้กับสถานบริการในสังกัดนำไปฉีดโดยเฉพาะ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม ให้เกิดความครอบคลุมในการรับวัคซีนมากขึ้น ข้อมูล ณ วันที่ 26 มีนาคม 2564 ได้จัดสรรวัคซีนไปยังพื้นที่เป้าหมายต่างๆ แล้วจำนวน 270, 500 โดส จากซิโนแวค 190,720 โดส และแอสตร้าเซนเนก้า 79,780 โดส ฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว 148,905 โดส ซึ่งวัคซีนจากซิโนแวคจะมาเพิ่มอีก 800,000 โดส ในเดือนเมษายน กระทรวงสาธารณสุขจะมีการปรับแผนการจัดฉีดวัคซีนโดยขยายจำนวนหน่วยบริการตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับมา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการฉีดวัคซีนมากขึ้น
“เมื่อวานนี้ (26 มีนาคม 2564) ได้ไปติดตามความคืบหน้าการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนด้วยตนเอง ที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งพบว่าระบบการฉีดเป็นไปตามขั้นตอน มีความเรียบร้อยดี ผู้ที่มารับการฉีดทุกคนเป็นกลุ่มเป้าหมายตามแผน จากการติดตามอาการหลังการฉีดตามระบบส่วนใหญ่ไม่มีอาการข้างเคียง และขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนตามนัดให้ครบทั้ง 2 เข็ม เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ” นายอนุทินกล่าว