แตงโม นิดา ปลดล็อกได้คุยกับ จั๊กจั่น ต่างฝ่ายต่างขอโทษ และให้กำลังใจกัน

หลังจากมหากาฬเรื่องราวของ “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ที่แตกหักกับอดีตผู้จัดการ ที่กุข่าวสร้างโลกสองใบ ขณะที่อดีตเพื่อนสนิทอย่าง “แตงโม นิดา” ก็ออกมาโพสต์ ดีใจได้เพื่อนคืน เพราะเคยห่างกันไปเนื่องจากอดีตผู้จัดการปั่นความสัมพันธ์เช่นกัน ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจได้คุยกันแล้ว

- ดีใจได้เพื่อนคืน! แตงโม โพสต์ซึ้งถึง จั๊กจั่น ขอบคุณที่ทำให้การรอคอยเป็นจริง

โดย แตงโม เผยว่า “เรื่องที่โพสต์ว่าได้เพื่อนคืน ก็เป็นความรู้สึกที่เราเองก็รอคอยมานาน ที่จะได้ติดต่อเขา สานต่อกับเขา สามารถพูดคุยกันได้แบบปกติ โดยที่ไม่มีคนกลางหรือสื่อกลางที่เป็นกำแพง ก็ค่อนข้างรอคอยมานานน่าจะ 7 ปีได้ นอกจากจะดีใจกับพี่จั่นแล้ว ในเรื่องของชีวิตส่วนตัวของเขา ผลพลอยได้ก็คือเพื่อนๆ ก็กลับมา ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องบวกๆ เป็นเรื่องที่มันก็อบอุ่นหัวใจดีจัง เรื่องนี้ถือว่าปลดล็อก เพราะว่ามันก็นานแล้วเนาะ เราก็มีความคิดถึงด้วย ในหลายๆ ครั้งที่เห็นตามทีวี เห็นตามสื่อต่างๆ เราก็คิดถึงเขาตลอดอยู่แล้วค่ะ แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่เราได้พูดคุยติดต่อกัน พิมพ์หากัน คุยกัน”

“ยอมรับตอนนั้นโมก็ชอกช้ำพอสมควรเหมือนกัน แต่ว่าที่ไม่ได้เลือกออกมาพูด เพราะว่าเราก็เป็นห่วงความรู้สึกของพี่สาวของเรา เราก็เลยเลือกที่จะเงียบ แล้วก็รอว่าวันหนึ่งเรื่องทุกอย่างก็คงกระจ่างออกมาเอง แต่ว่าเราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะนานถึง 15 ปีของเขา แต่ว่าในเมื่อวันนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ก็รู้สึกว่าโล่งขึ้น โล่งกับทุกๆ ฝ่ายด้วยแหละ”

“คุยกันปกติค่ะ เราก็ไม่ได้รื้อฟื้นอะไรมากมายนะคะ เราก็แสดงความยินดีกับเขา แล้วต่างคนต่างก็แสดงความคิดถึงกัน ต่างคนต่างขอโทษกัน ต่างคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รู้สึกแบบเนี่ย ฉันได้พี่สาวฉันคืนแล้วจริงๆ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเจอกันค่ะ”

“ส่วนเรื่องไปงานแต่ง ก่อนหน้านี้อาจจะไม่มีงานเกิดขึ้น ก็ถ้าพี่เชิญนะคะ น้องก็ไปค่ะใจจริงก็อยากไปอยู่แล้วแหละ แต่ว่าเราก็ไม่ทราบไง ว่าสโคปงานเขาอาจจะจัดเล็กๆ ภายในครอบครัวหรือเปล่า อันนี้ต้องแล้วแต่เจ้าภาพเลยค่ะ โมก็ซัปพอร์ตอยู่แล้วไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ความรู้สึกตอนนี้ก็กลับมาสนิทใจเหมือนเดิม”

นอกจากนี้สาวแตงโม ยังเผยถึงความรู้สึกที่มีต่ออดีตผู้จัดการ อาบี ว่า ก็เป็นกำลังใจให้ด้วยเหมือนกันนในฐานะที่เคยดูแลตนมาอย่างดีเหมือนกัน ไม่เคยโกรธ ยอมรับรู้สึกเสียใจ ณ เวลานั้น แต่พอเวลามันผ่านเลยไป เข้าใจว่าทุกคนมีเหตุผลในการกระทำ วิถีแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน การแสดงออกอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ผลสุดท้ายแล้วมันก็ฟ้องตัวมันเองในการกระทำ