จากกรณีวิพากวิจารณ์เรื่องคลิปชายนุ่งขาว อ้างตัวตัวเป็นพระศรีอริยเมตไตรย มาปลดปล่อยความทุกข์จากโลก และมีการรวมตัวนัดทำกิจกรรมในวันที่ 30-31 มี.ค.64 ที่สวนธรรมชาวศรีวิไล จ.หนองบัวลำภู พร้อมให้จับตาการแสดงที่จะเกิดขึ้น
วันที่ 30 มี.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่สวนธรรมชาวศรีกรุงวิไล พบว่ามีคนแต่งกายชุดขาวห่มข่าว ตั้งโรงครัวคล้ายโรงทาน มีการตั้งเต็นท์นอนพักรอบพื้นที่
นายกุศลศรีอริยะ ศรีอารวงศา หรือ กุศล หมีเทศ อดีต ส.ส.สุโขทัย ที่อ้างตัวเป็นพระศรีอริยเมตไตรย เปิดเผยก่อนเริ่มกิจกรรมว่า งานวันนี้เป็นการจัดการปฏิบัติธรรมปกติ เป็นการเชิญสมาชิกมาปฏิบัติธรรมทั่วไป แต่วันนี้มีความอัศจรรย์ มีพระสงฆ์จะเดินทางมาร่วมเสวนา ยืนยันว่าพระศรีอริยเมตไตรยเป็นตัวจริงเสียงจริง เป็นพระสงฆ์จากในป่าที่รอคอยวันนี้มา 20 ปี มาโดยไม่ได้เชิญ และมีพระสงฆ์จากฝากพระพุทธโคดม ยุคปัจจุบันจะเดินทางมาถกกันด้วย หลังตนเองประกาศเป็นศาสดาแล้ว จะมีพระสงฆ์ปราฏ 2 รูป
หลังจากนั้นจะมีกิจกรรมสวดมนต์ช่วงเย็น และมีการแสดงพิสดาร 3 ภาค คือ ภาคมนุษย์ ภาคธรรม ภาคทิพย์ ในส่วนของภาคทิพย์ต้องหลัง 22.00 น. เพื่อให้ได้เห็นว่าสามารถเชิญเทพดวงวิญญาณ ให้เปิดตาที่สามของทุกคน เพื่อพิสูจน์อดีตชาติว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร ตนเองไม่มีความกังวล อย่างที่พระกรันยาถูกจับตนเองมองว่าเป็นสิ่งผิด คนเป็นพระทำไม่ได้ พูดแบบนั้นมันผิด แต่ตนเองไม่ใช่พระ เป็นฆราวาส พร้อมให้ตรวจสอบได้
ส่วนที่หมอปลา พระมหาไพรวัลย์ติติง ตนเองมองเป็นเรื่องธรรมดา ในอดีตก็เกิดขึ้น อย่างความเชื่อเรื่องโลกแบน โลกกลม ในอดีตยังเชื่อว่าโลกแบน แต่ความจริงวันนี้คือโลกกลม
ขณะที่พระเชาวโรจน์ พระสงฆ์สายปฏิบัติ ซึ่งมักเดินสายจำวัดไปทั่ว มีช่วงนี้ที่มาจำวัดในจังหวัดหนองบัวลำภู เดินทางมาถึงสวนธรรม มาในฐานะพระสงฆ์สมัยพระพุทธโคดม ยุคปัจจุบัน เพื่อมาพูดคุยถกเรื่องนี้ โดยมีนายกุศลนั่งรอรับ เบื้องต้นเมื่อเดินทางมาถึงได้มีการนั่งคุยกับศิษย์นุ่งขาวที่มารอร่วมกิจกรรม
โดยมีใจความสำคัญคือการยอมรับวันนี้ตั้งใจเดินทางมาเพื่อหักล้างเรื่องที่มีการอ้างว่าเป็นพระศรีอริยเมตไตรย แต่เมื่อดูหลักคำสอนแล้วมีความคล้ายคลึง ตรงกับที่เคยศึกษามา แต่ช่วงเวลามีความแตกต่างจากที่ระบุไว้ในพุทธกาล มองว่าการประพฤติปฏิบัติต่าง ๆ ขออย่าเบียดเบียนผู้อื่น เช่น การบูชา บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากกระทำแล้วไม่ผิดศีล ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ผิดในกาม ก็มองว่าไม่ได้มีความผิด
เวลา 13.45 น. พระพุทธ เจ้าน้อย เดินทางมาถึงที่สวนธรรม มีการทักทายและเริ่มกล่าวเชิญเทศนาธรรม โดยผู้มาร่วมกิจกรรมราว 50 คน ก้มกราบพระ นายกุศลนั่งบนเก้าอีกยกมือ แบโบกไปมา พระพุทธ เจ้าน้อย ซึ่งเป็นพระบวชมาราว 40 ปี ได้เริ่มกล่าวเทศนามีใจความว่าช่วงต้นมีการพูดถึงธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ โดยสรุปช่วงท้ายระบุว่า วันนี้ที่มาบอกนั้น อยากให้ทุกคนรู้ว่า พระพุทธ เจ้านั้นอยู่ที่ใจ เช่นเดียวกับพระศรีอริยเมตไตรย ก็อยู่ที่ใจ จังหวะนี้ผู้มาร่วมกิจกรรมร้อง "โสสิ ๆ" และเกิดฟ้าร้อง ลมพัดขึ้นมา
พระพุทธ เจ้าน้อย ระบุว่ารอคอยมา 20 ปี ที่จะได้มาเจอนั้นเป็นสิ่งที่อาตมามาเจอกัลยาณมิตร หากเป็นมิตรที่ดีก็อยากมาเจอบ่อย ๆ ทำให้เกิดความศรัทธา แต่ช่วงหลังเมื่อนักข่าวสอบถามว่าท่านเชื่อหรือไม่ว่านายกุศลคือพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งพระพุทธ เจ้าน้อย ระบุว่าไม่เชื่อ ตราบใดที่ตัวเองยังไม่เป็นศาสดา วันนี้อาตมาไม่ได้เดินทางมาเพื่อรับรองพระศรีอริยเมตไตรย แต่อาตมามาแสดงธรรมเท่านั้น
พ.อ.ปริชญ์ สุคันธศรี รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำ ฝ่ายทหาร ซึ่งมาในฐานะตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ระบุว่าการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมในสถานะการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องลงมาขอความร่วมมือ และดูมาตรการต่าง ๆ สิ่งที่มาดูแลนั้น นอกจากเรื่องมาตรการโควิด-19 ยังมาดูเรื่องกิจกรรมที่มีการจัดขึ้น ต้องไม่ผิดเพี้ยนจากหลักการทางพระพุทธศาสนา
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปดู คงจะมีการให้เจ้าหน้าที่แวะเวียนเข้ามา หากไม่พบว่ากระทำผิด ก็ไม่ได้ขัดขวาง หากมารวมตัวปฏิบัติธรรม ทำความดี เจ้าหน้าที่ก็ไม่ทำอะไร ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่จังหวัดหนองบัวลำภู ได้นำเอกสารประกาศตาม สบค. ให้กับตัวแทนของสวนธรรม เพื่อให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ต่อมาเวลา 19.15 น. เริ่มมีการรวมตัวผู้มาร่วมกิจกรรม พระพุทธ เจ้าน้อย ระบุว่าเมื่อสักครู่ที่ออกไป เพราะสำนักพุทธขอความร่วมมืออย่ามาร่วมกิจกรรม ซึ่งอาตมาก็จึงจำเป็นต้องออกไป และไปทำธุระส่งญาติโยมบางคน ตนว่าจะไม่กลับมา แต่ลืมกระติกน้ำร้อนไว้ จึงต้องกลับมาเอา เมื่อกลับมานายกุศลนิมนต์ขอให้มีการแสดงธรรมเทศนาเพิ่มเติมอีก
จากนั้นเวลา 20.00 น. มีการเริ่มปฏิบัติธรรม เป็นการดูอดีตชาติว่าแต่ละบุคคลมาจากที่ไหน โดยนายกุศลได้มีการชี้แจงขอให้ทิ้งทุกอย่าง ความรู้ที่เคยมีมา ก่อนเริ่มกิจกรรมสวดมนต์ช่วงค่ำ เริ่มการขอขมากรรมโดยแม่มณีแก้ว อัครสาวกฝ่ายหญิง เป็นคนใกล้ชิดนายกุศล เป็นผู้กล่าวนำ ขั้นตอนคือท่องนโม 3 จบ
จากนั้นมีการกล่าวถ้อยคำทบทวน กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 และกล่าวชื่อนามสกุล เพื่อเป็นการขออโหสิกรรมกับทุกสิ่งและท่องปิดท้ายว่า "อโหสิ" และจบด้วย "โสสิ" 4 ครั้ง ระหว่างการท่อง นายกุศลมีการยกมือ 2 ข้าง ขึ้นมาตั้งชู หันหน้าให้กับผู้ปฏิบัติธรรม คล้ายเป็นองค์ศาสดา
นายกุศล มีการพูดถึงหลักปฏิบัติต่าง ๆ ถึงคลื่นบุญ คลื่นบาป อธิบายธรรมชาติของโลก พร้อมระบุว่าตนเองคือ พระยาบรมจักรพรรดิ พระศรีอริยเมตไตรยจะทำการล้างบาปเพิ่มบุญให้ก่อน ขอให้ทำใจให้ว่าง อย่าลังเลสงสัย อย่าอวดดี อย่าประมาทสิ่งที่ทำอยู่ เพราะเทวดารักษาอยู่ ขอให้กำหนดจิตมาที่ตนเอง จากนั้นเริ่มพิธี ให้นั่งสมาธิเพื่อให้ไฟล้างบาป 3 นาที ขอให้หายเจ็บ หายป่วย มีการยกมือขึ้นเหนือหัว และกล่าวขอเบิกบุญมาเพื่อมอบให้ "ขอให้เกิดขึ้น ฉับพลัน ๆ" ผู้ร่วมพิธีมีการร้องไห้เสียงดัง และคล้ายอาเจียน ร่วมกันเปล่งเสียง "อริยะ"
ที่ตนมีอาการร้องไห้ออกมาเอง และพูดว่า "อริยะ" ซ้ำ ๆ นั้น ตอนนั้นรู้สึกวางเฉย ว่างเปล่า ก่อนหน้านี้ตนปวดท้องจากการทานอาหารเผ็ด และดีขึ้นเมื่อได้มาร่วมพิธี ซึ่งตนมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ส่วนเรื่องความเชื่อก็แล้วแต่ละบุคคล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เผชิญหน้า 2 ศาสดาอ้างเป็นพระศรีอาริย์ ฉะอีกฝ่ายของเก๊ นักวิชาการซัดลวงโลกทั้งคู่
- เปิดใจ “กุศลศรีอริยะ” ท้าพระดังลบหลู่มาพิสูจน์ แจงคลิปปาร์ตี้กินเหล้าเสพสุขไม่ผิด
- ล้วงลัทธิ "พระศรีอาริย์" อ้างเห็นกรรมเบื้องสูงเปิดปาฏิหาริย์ถอนพิษงู ญาติศิษย์ฉะทำหมดตัว
- หนุ่มอ้างพระศรีอาริย์เจอสื่อท้าโชว์ปาฏิหาริย์ ศิษย์แจงคลิปปาร์ตี้แค่รีแล็กซ์