จากกรณีวิพากวิจารณ์เรื่องคลิปชายนุ่งขาว อ้างตัวตัวเป็น "พระศรีอริยเมตไตรย" มาปลดปล่อยความทุกข์จากโลก และมีการรวมตัวนัดทำกิจกรรมในวันที่ 30-31 มี.ค. 64 ที่สวนธรรมชาวศรีวิไล จ.หนองบัวลำภู พร้อมให้จับตาการแสดงที่จะเกิดขึ้นนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พิสูจน์ปาฏิหาริย์กุศลศรีอาริย์ ล้างกรรมสั่งคนท่องอริยะอ้วกแตก 2 พระป่าโผล่แจม
- เผชิญหน้า 2 ศาสดาอ้างเป็นพระศรีอาริย์ ฉะอีกฝ่ายของเก๊ นักวิชาการซัดลวงโลกทั้งคู่
- เปิดใจ “กุศลศรีอริยะ” ท้าพระดังลบหลู่มาพิสูจน์ แจงคลิปปาร์ตี้กินเหล้าเสพสุขไม่ผิด
- ล้วงลัทธิ "พระศรีอาริย์" อ้างเห็นกรรมเบื้องสูงเปิดปาฏิหาริย์ถอนพิษงู ญาติศิษย์ฉะทำหมดตัว
- หนุ่มอ้างพระศรีอาริย์เจอสื่อท้าโชว์ปาฏิหาริย์ ศิษย์แจงคลิปปาร์ตี้แค่รีแล็กซ์
วันที่ 31 มี.ค. 64 ที่สวนธรรมชาวศรีวิไล จ.หนองบัวลำภู เริ่มกิจกรรมช่วงเช้า 09.30 น. ให้ตัวแทนอัครสาวก หรือคนที่ใกล้ชิดของนายกุศล หมีเทศ หรือ นายกุศลศรีอริยะ ศรีอารวงศา ผู้ที่ระบุตัวเองเป็นพระศรีอริยเมตไตรย ให้ยืนกล่าวขึ้นพูดในหัวข้อ "ทำไมถึงเชื่อว่านายกุศลคือ พระศรีอริยเมตไตรย" ส่วนใหญ่คนที่ขึ้นพูดกล่าวถึงเรื่องอดีต คำสอนที่เคยได้ฟังกับนายกุศลทำให้เชื่อว่าคือพระศรีอริยเมตไตรย
จากนั้นแม่มณีแก้ว อัครสาวก ผู้นำทำกิจกรรม เริ่มพิธีบายศรีผูกข้อมือให้กับหนึ่งในผู้ปฏิบัติธรรม เนื่องจากเคยผ่านอุบัติเหตุทางรถยนต์มา เพื่อเรียกขวัญให้กลับมาจากแม่ย่าสร้อยสุดาทิพย์ ซึ่งเป็นพญานาค ระหว่างนั้นแม่มณีแก้วท่องบนคลายทำขวัญ ส่วนนายกุศลนั่งชี้นิ้วไปทั่ว ก่อนจะมีผู้ปฏิบัติธรรมเริ่มร้องไห้ออกมาจนตัวสั่น บางคนทำท่าร้ายรำขณะนั่งอยู่ บางคนกรีดร้องออกมา ซึ่งนายกุศลอ้างว่าเป็นขั้นตอนที่เรียกเทวดามาประทับร่าง ยกสวรรค์ลงมาให้ดูเพื่อเปลี่ยนดวงจิตดวงวิญญาณใหม่ให้ดี
ช่วงพิธีมีการปรับบทสวด อ้างว่าเป็นภาษาเทพที่เป็นอดีตชาติของแต่ละคน ส่วนใหญ่คืออัครสาวกที่ร่ายบทเหล่านี้ พิธีราว 15 นาที จากนั้นผู้ที่ประสบอุบัติเหตุนำสายสิญจน์ให้อัครสาวกผูกข้อไม้ข้อมือ บางช่วงก็ร้องไห้ออกมา กอดกันร่ำไห้เหมือนเป็นพี่น้องกัน
หลังเสร็จพิธี มีป้าท่านหนึ่งที่ร่วมพิธี เดินทางมาครั้งแรกนั่งปฏิบัติธรรมอยู่ด้านหลัง ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด จนมีลูกศิษย์เข้าไปสอบถาม นายกุศลเอ่ยว่า "ดวงเทวดาไม่ยอมกลับ ต้องการมากราบ จึงหิ้วปีกคุณป้าท่านนี้มาต่อหน้ากุศล และแม่มณีแก้ว"
ทราบป้ารายนี้ชื่อนางเกตุศิริ ไชยราช ชาว จ.อุดรธานี เดินทางมาเนื่องจากได้รับการชักชวนจากคนที่เคยมาฝึกปฏิบัติ นั่งร้องไห้ต่อหน้านายกุศล มีการกราบลงที่พื่นแบบกราบพระ ก่อนจะบอกว่าตัวเองชื่อสร้อยสุดา ดีใจที่ได้เจอท่านพ่อ ท่านแม่ จึงไม่ยอมกลับจากนั้นนายกุศลอ้างว่าจะเพิ่มบุญให้และให้กลับไปก่อนทำพิธี จากนั้นก็ทิ้งท้ายว่า "ฉับพลัน ๆ ๆ"
นางเกตุศิริ เปิดเผยหลังเสร็จพิธีว่า ตนเองไม่รู้สึกตัว เหมือนฝัน ที่นั่งทำพิธีด้านหลังจำได้ว่ามีการทำพิธีเรียกขวัญผูกข้อมือ จู่ ๆ ก็เหมือนฝัน เห็นคนมีบุญมาหา จากนั้นภาพก็ตัด มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่อยู่ตรงหน้านักข่าวแล้ว ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เคยมีอะไรประทับร่าง ตนนับถือพญานาค กราบไหว้ แต่ไม่เคยมีอะไรมาสิงร่าง ส่วนตัวก็มองว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ทำให้ตนยิ่งเชื่อว่าพระศรีอริยเมตไตรยเป็นของจริง
นายกุศลศรีอริยะ ศรีอารวงศา หรือ กุศล หมีเทศ ผู้อ้างตัวเป็นพระศรีอริยเมตไตรย เปิดเผยว่า กิจกรรมที่ตนเองทำช่วงเช้าเป็นการเชิญเทวดาลงมาให้มนุษย์ได้เห็น เป็นสมาธิจิต เมื่อคนปฏิบัติจนมีคลื่นตรงกัน เทวดาก็จะมาสวมร่าง เทวดาที่ลงมามีความต้องการอยากมากราบพระศรีอริยเมตไตรย ส่วนคืนนี้ก็จะได้รู้ว่าจะมีการเชิญเทวดาจากดินแดนสุรยาตรา สามารถเรียกมาได้ทั้งหมด สามารถพูดคุยได้ รวมทั้งพุทธเจ้าโคดม ก็สามารถเรียกมาคุยได้ ถึงแม้พระองค์ท่านจะปรินิพพานแล้ว แต่ดวงพลังงานยังอยู่ เพียงท่านไม่เวียนว่ายตายเกิด ยมฑูต ยมบาล ก็เรียกมาได้เช่นกัน
ส่วนที่นักวิชาการระบุว่าเหตุการณ์แบบกิจกรรมล้างกรรมเป็นการอุปาทานหมู่ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องของนักวิชาการที่ท่องจำมา เรื่องของตนเป็นเรื่องของสติปัญญาระดับโพธิญาณ ส่วนวันนี้ก็จะมีกิจกรรมนั่งพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับการพิจารณาถึงความเชื่อในพระอริยเมตไตรย และช่วงค่ำก็จะสวดมนต์ทำพิธีล้างบาปเพิ่มบุญ ก่อนจะทำพิธีภาคทิพย์ช่วงหลัง 22.00 น. เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรม
ส่วนกรณีหมอปลาจะมาท้าพิสูจน์ อยากมาปฏิบัตินั้นตนเองไม่ได้ห้าม แต่เพียงมองว่าไม่มีประโยชน์ จะมาปฏิบัติก็ต้องมาที่สวนธรรม ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง จะรู้ด้วยตัวเอง แต่ตนไม่ได้สนใจ อยากถามว่าคนกลุ่มนี้ช่วยอะไรมนุษย์บ้าง หากตนเองเป็นผู้นำ มีอำนาจปกครองประเทศ ตนเองจะจับพวกนี้ให้หมด
ช่วง 13.30 น. มีพระสงฆ์ 1 รูป และเณร 1 รูป เป็นพระในจังหวัดหนองบัวลำภู เดินทางมาที่สวนธรรมชาวศรีวิไล เมื่อมาถึงได้มีการทำท่าทางแบมือ 2 ข้าง กล่าวว่า "โส โส โส" ศิษย์ก็ขานรับ "สิ" จากนั้นมีการเรียกรวมตัวศิษย์มานั่งฟังสนทนาธรรม มีการเทศนาธรรมทั่วไป
หลวงพ่อจิมมี่ มีการระบุว่า ที่เดินทางมาเป็นการตั้งใจ เนื่องจากว่าทราบข่าวว่ามีพระศรีอริยเมตไตรยในจังหวัดหนองบัวลำภู อาตมาไม่มีเจตนาอื่น ไม่ได้มีผลประโยชน์ ส่วนเรื่องพระศรีอริยเมตไตรยนั้น อาตมามองว่าใครจะประกาศเป็นอะไรก็ได้ แม้แต่พระ จะประกาศสำเร็จเป็นอรหันต์ก็ไม่มีใครว่า ดังนั้นจะประกาศอะไรก็ถือเป็นเรื่องนานาจิตตัง เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ส่วนโควิด-19 ก็ไม่ได้กลัว แต่มองว่าโควิด-19 ไม่กล้าเข้าหาคนที่มีศีล เพราะสังเกตได้ว่าพระจะไม่ติดโควิด-19
หลวงพ่อจิตฐพงฐ์ สุขวัฑฒโน(ธ) หรือ หลวงพ่อจิมมี่ พระประจำศูนย์ปฏิบัติธรรมพุทธวัจนสถาบันหนองบัวลำภู เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาวันนี้ เพราะทราบว่ามีพระศรีอริยเมตไตรยเกิดขึ้นใน จ.หนองบัวลำภู และเมื่อเช้านึกอยากเดินทางมาจึงมา ทั้งที่ไม่รู้จักตำแหน่งที่ตั้งด้วยซ้ำ อาตมาไม่ได้มาพิสูจน์ ไม่ได้มาตรวจสอบ เพียงมาเยี่ยมในฐานะกัลยาณมิตร อาตมาไม่ขอยืนยันว่าใครผิดใครถูก อาตมามองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า ทุกคนบนโลกเกิดมานั้นล้วนแต่เคยเป็นพี่น้องกัน
ส่วนเรื่องสำนักพุทธ อาตมาไม่กังวล หากเชิญมาอาตมายินดี และหากจะไม่ให้อาตมามาร่วมกิจกรรมที่นี่ ก็ต้องอธิบายเรื่องเหตุผล กรณีพระศรีอริยเมตไตรย อาตมารู้เรื่องนี้ตามพระไตรปิฎกว่าจะมีเกิดขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาตามพระคัมภีร์ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครจะประกาศตัว มันคือสิ่งสมมติ จะเรียกว่าอุปโลกก็ได้
ด้านนางนิชาดา กุศลธัมมะกุล หนึ่งในอัครสาวก เปิดเผยว่า ตนเองมีความเชื่อเกี่ยวกับพระศรีอริยเมตไตรย เหตุการณ์ที่เหลือเชื่อของตนเกิดขึ้นเมื่อ 24 มี.ค. 64 ช่วงเวลา 05.10 น. ตอนนั้นตนเองขับรถไปที่ จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าระหว่างทางมีสุนัขวิ่งตัดหน้า ทำให้ตนเองหักหลบลงข้างทาง ซึ่งขับรถมาด้วยความเร็ว 130 กม./ชั่วโมง
จังหวะนั้นตนเองเรียก "ท่านพ่อช่วยลูกด้วย" ก่อนที่จะไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งรู้สึกตัวอีกที พบว่ารถพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง สภาพรถเสียหาย ตื่นมาตนนอนอยู่ในรถสภาพปกติ ไม่มีบาดแผล ไม่ได้รับบาดเจ็บ ตนเองตั้งสติปีนออกมานอกรถ จากนั้นก็มาดูสภาพรถ และถ่ายรูปเอาไว้ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
ส่วนการฝึกธรรม ตนเองฝึกปฏิบัติมาได้ 1 ปีเศษ ตอนนี้ตนเองมีจิตอยู่ในระดับอรหันต์ ตนเองมีความเชื่อเรื่องพระศรีอริยเมตไตรย ที่ยุคนี้จะสามารถช่วยเพิ่มบุญ ล้างบาป จนตนเองบรรลุ อีกทั้งตนเองนับถือพระศรีอริยเมตไตรยเป็นพ่อ พ่อจากจิตวิญญาณ ที่เป็นเหมือนผู้มอบกล่องวิญญาณให้ตนเองได้มาเกิด
นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา เปิดใจว่า เรื่องจะไปท้าพิสูจน์คำสอนกับนายกุศลนั้น ตนท้าแน่นอน แต่อยากให้นายกุศลมาเจอที่กรุงเทพฯ จะสะดวกกว่า จึงอยากถามนายกุศลว่า "พร้อมเมื่อไร เพราะผมไม่เชื่อคุณ" สำหรับเรื่องที่นายกุศลอ้างตัวเป็นผู้วิเศษ ทำพิธีเพิ่มบุญ เรียกพระพุทธเจ้ามาคุยได้ เป็นเรื่องเพ้อ เป็นเรื่องตั้งลัทธิตั้งตนเป็นผู้วิเศษ แท้ที่จริงคือการหากินอีกรูปแบบหนึ่ง โดยอาศัยคนที่สติไม่ค่อยจะดีมาร่วมพิธี ภาษาที่ลูกศิษย์พูดอ้างเป็นภาษาเทพนั่นคือภาษาคนป่วย คนป่วยพูดภาษานี้คุยด้วยกันเองจะรู้เรื่อง หากไม่ใช่คนป่วย คุยภาษานี้จะไม่เข้าใจ
ส่วนอาการของคนร่วมพิธีทั้งอ้วก และร้องไห้ตาม ๆ กัน เป็นการแสดงหลอกคน และเกิดจากอุปาทานหมู่ คือพิธีกรรมต้มตุ๋นหลอกลวง สำหรับพิธีมองเห็นอดีตชาติได้เป็นเรื่องไร้สาระ เพ้อเจ้อ ใครก็พูดได้ มโนเอาเองว่าชาติที่แล้วเกิดจากที่ไหน ถ้ารู้เรื่องอดีตชาติคนพวกนี้ต้องรู้ว่าเอาสมบัติตัวเองไปฝังที่ไหน แต่คนพวกนี้ก็พิสูจน์ไม่ได้ ตนอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปตรวจสอบ ดูแล และกำจัดบุคคลเหล่านี้ได้แล้ว อย่าปล่อยไว้จนเป็นเรื่องบานปลายและสายเกินแก้
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักคิดนักเขียนวัดสร้อยทอง กล่าวว่า โยมกุศลเป็นคนเลอะเทอะมาก เมื่ออาตมามองครั้งแรกอย่างไรก็เป็นเช่นนั้นเหมือนเดิม มิหนำซ้ำยังหนักมาขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งหน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลนั้นไม่มีน้ำยา ไม่สามารถเข้าไปจับไปจัดการดำเนินการอะไรได้ ปล่อยให้สอนความเชื่อที่ผิดเพี้ยน และอ้างถึงความเชื่อในศาสนาพุทธ อ้างถึงพระศรีอริยเมตไตรย อ้างถึงเปิดสวรรค์ อ้างการล้างกรรม ตัดกรรม หรือเพิ่มพลังบุญนั้น ถือว่าหลอกลวงโดยชัดเจน เพราะพระพุทธเจ้าไม่เคยมีคำสอนเช่นนี้
อีกทั้งเรื่องเหล่านี้สามารถขายได้ ชาวบ้านไม่ศึกษาในหลักคำสอนพระพุทธเจ้าก็มักหลงเชื่อคนอวดอุตริ เป็นเจ้าลัทธิ ส่วนที่บอกว่าสามารถสื่อสารถึงพระพุทธเจ้าที่ปรินิพพานไปแล้วได้จริง ใครไปหลงเชื่อถือว่าติงต๊องหนัก ส่วนกรณีพิธีภาคทิพย์ที่มองย้อนอดีตนั้น หลอกลวงได้เพียงแค่คนโง่เท่านั้น แต่อาตมามองว่าผู้คนส่วนใหญ่คิดแยกแยะได้ ไม่ได้โง่
อีกทั้งเมื่อทำพิธีและมีการอ้วก ร้องไห้พร้อมกัน เป็นเพียงอุปาทานหมู่ อาตมาไม่แปลกใจ หากผู้ที่ไม่ทำตามอาจจะทำให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นอาจเข้าไม่ถึง หรือไม่ได้รับในส่วนนั้น อยากฝากให้เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าไปตรวจสอบดูแลบ้าง ยิ่งสำนักงานพุทธบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ไม่ได้ เนื่องจากมีการอ้างถึงหลักคำสอนพระพุทธศาสนา ต้องออกประกาศต่าง ๆ ให้คณะสงฆ์ตักเตือนชาวบ้าน หรือเข้าตรวจสอบดำเนินการกับผู้แอบอ้าง อีกทั้งฝากเตือนหากพบเห็นผู้แอบอ้างมีวิชา มีพลัง สามารถสื่อสารกับพระพุทธเจ้าได้นั้นคือของเก๊มีแต่หวังจะหลอกเอาเงินจากผู้ที่หลงเชื่อ
ผู้ที่มีอาการขณะตนทำพิธี ได้อาเจียนออกมา หลังจากตนท่องคำว่า "อริยะ" ซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง และย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ตนป่วยโรคเกี่ยวกับปอด และระบบทางเดินหายใจ แต่วันนี้รู้สึกโล่งขึ้น ดีขึ้น
เวลา 22.35 น. มีการทำพิธีเชิญดวงวิญญาณแม่ปทุมมาวตี แม่พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ระบุว่าการที่พระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าโคตะโม เคยกล่าวไว้ว่าพระศรีอริยเมตไตรยจะอุบัติหลังพ้นกึ่งพุทธกาล นายกุศลกล่าวว่า "โสสิ โสสิ โสสิ ท่านแม่ วันนี้เหล่าอัครสาวก และนักข่าวต้องการรู้ว่าตนที่ได้ประกาศตนเป็นศาสดาแล้ว ให้แม่ยืนยันกับนักข่าว"
แม่ปทุมมาวตี ระบุว่า "แล้วเหล่าพวกเจ้ามีความเชื่อกันไหม พวกเจ้านี่ช่างโง่เขลาเบาปัญญากันแท้ มีกายเนื้อกายหยาบ แต่จักมีปัญญาในการคิดนะ" ตนมาครั้งนี้ไม่ได้จะมาแสดงอภินิหารใด ๆ ตนไม่ได้ต้องการมาชี้แจง แต่ที่พระศรีอารย์ต้องมา เพราะช่วงนี้จะเกิดความอดอยาก โรคระบาด การฆ่ากัน ดังนั้นต้องมีการสืบทอดต่อธรรม มาสานต่อยุคพระพุทธเจ้าปัจจุบัน ส่วนใครจะนับถือจะเชื่อขึ้นอยู่กับใจคน เพราะพระศรีอารย์อยู่ที่ใจ ส่วนนักบวชหากต้องการเป็นสงฆ์เช่นเดิมก็ทำได้ หากจะสึกก็แล้วแต่ ไม่มีใครไปบังคับ
ตนเองมีร่างเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน มีเพียงดวงจิต มาจากที่ ๆ เป็นอนัตตา เป็นธาตุที่ไม่มีตัวตน ไม่มีความรู้สึก ส่วนการที่นายกุศลอ้างว่าจะเป็นนายกฯ ต่อไป ตนเองบอกได้เพียงว่าหากอยากเป็นอะไรก็จะได้เป็น หากจะทำอะไรก็จะได้ทำ