เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 รายที่หอพัก สภาพนอนทับกันอยู่ภายในห้องน้ำ ทราบชื่อผู้ตายคือ นายลิน โกโก อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ลำคอและลำตัวหลายแผล
อีกรายคือ น.ส.เท๊ต เท๊ต ทู สัญชาติเมียนมา อายุ 26 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ลำคอและลำตัว เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 28 มี.ค. 64 ล่าสุด จับตัวผู้ต้องหาได้แล้วคือนายนิว วิน อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
วันที่ 31 มี.ค. 64 เวลาประมาณ 10.30 น. ตำรวจนำตัวนายนิว วิน อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารห้องเช่า 4 ชั้น ห้องที่เกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 4 ใกล้กับบันไดทางหนีไฟ ภายในห้องยังคงมีของผู้ตายอยู่ แต่ทั้งชั้นไม่มีผู้พักอาศัยแล้ว
สืบเนื่องจากวันที่ 28 มี.ค. นายนิว วิน ผู้ต้องหา เดินทางมาหาผู้ตายที่อะพาร์ตเมนต์ จากนั้นมองจากหน้าตึกขึ้นไปเห็นนายลิน ผู้ตาย เดินออกจากห้องนางสาวเท๊ต จึงโทรผ่านแชตเฟซบุ๊กไปหาผู้หญิง แต่นายลินแย่งโทรศัพท์ไปแล้วตัดสายทิ้ง นายนิวจึงเดินขึ้นไปที่ห้องเกิดเหตุ พบนายลินนั่งอยู่หน้าห้อง นายนิวถามว่า "มึงมองหน้ากู อยากมีปัญหาหรืออยากโดนแทง" ก่อนจะเตะางของนายลิน จนหงายหลังเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู จากนั้นก็ใช้มีดสปริงเข้าไปแทงที่ช่วงท้องของนายลิน 1 ครั้งจนล้มลงอีก
ขณะนั้น นางสาวเท๊ตเข้ามาห้ามนายนิว บอกว่า "พอแล้ว ไม่ต้องทำแล้ว อย่าทำเขาเลย" จังหวะนั้นนายลินคว้ามีดในห้องได้ จ้องจะไปแทงนายนิว แต่ไปโดนที่คอของนางสาวเท๊ต นายนิวจึงให้ใช้มีดแทงที่บริเวณช่วงท้องของนายลิน จากนั้นนำตัวของนางสาวเท๊ตไปพิงข้างฝาผนังห้อง ในขณะที่นายลินขยับตัวไปที่ห้องน้ำ
หลังมีการต่อสู้เสร็จ นางสาวเท๊ตเอามืออุดคอตัวเอง แล้วสั่งเสียว่า "ฉันคงไม่รอดแล้ว ถ้าฉันตาย ให้ผู้ต้องหาหนีไปอยู่ที่พม่า ขอให้ดูแลพ่อกับแม่ตนด้วย และอย่ามีผู้หญิงใหม่" บอกว่าให้นายนิวอาบน้ำล้างตัวให้ เพื่อจะได้ไม่มีรอยนิ้วมืออยู่บนตัวคนตาย ส่วนตัวผู้ต้องหาเองก็ให้อาบน้ำด้วย จากนั้นผู้ต้องหาก็ทำตามที่ผู้หญิงบอกทุกอย่าง แล้วหลบหนี
ทั้งนี้ ตอนแรกนายนิว ไม่รับสารภาพ บอกว่าถ้ามีหลักฐานก็ให้เอาหลักฐานมา ตำรวจเห็นว่าชาวพม่าเคร่งในเรื่องศาสนามาก จึงเอาพระพุทธรูปมาวางต่อหน้า แล้วให้จุดธูปสาบานก่อนสอบปากคำว่าถ้าโกหกให้มีอันเป็นไปและมีบาปติดตัว ให้ตกนรก สักพักผู้ต้องหาก็ร้องไห้ แล้วยอมรับว่าเป็นคนทำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายนิวในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
นายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 38 ปี เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ บอกว่า นางสาวเท๊ตอาศัยอยู่ที่นี่มาประมาณ 2 ปีแล้ว แรก ๆ อยู่กับเพื่อนสาว แต่พอคบหากันกับนายลิน เพื่อนสาวก็ย้ายออกไป หลังเกิดเหตุผู้เช่าจำนวน 9 ห้อง ย้ายหนีออกไปกันหมด ทำให้เสียรายได้พอสมควร เนื่องจากชาวเมียนมาจะเชื่อเรื่องวิญญาณ ทำให้กลัวผี ไม่กล้าอยู่ ส่วนตัวก็รู้ตกใจกลัวไม่ต่างกัน โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะนิมนต์พระ4 รูป มาสวดบำเพ็ญกุศลให้กับดวงวิญญาณ และจะมีการทำความสะอาดใหม่ทั้งชั้นอีกครั้ง
นายซอจู อายุ 36 ปี เพื่อนข้างห้อง บอกกับทีมข่าวว่า นางสาวเท๊ตคบหากับนายลินได้ประมาณ 2 เดือน เนื่องจากทำงานที่เดียวกัน พักที่เดียวกัน และชอบกัน ห้องเกิดเหตุคือห้องที่ 32 ตนอาศัยอยู่ที่ห้อง 33 กับภรรยาและลูกสาว ปกติจะเห็นผู้ตายทั้ง 2 คนเลิกงานประมาณ 21.00 น. ของทุกวัน รวมถึงภรรยาของตนที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันด้วย อุปนิสัยนางสาวเท๊ตก็ค่อนข้างมีน้ำใจ บางครั้งก็ซื้อขนมมาฝากลูกสาวของตน
วันเกิดเหตุ 26 มี.ค.64 ช่วงประมาณดึก ๆ ตนได้ยินเสียงห้องของนางสาวเท๊ตทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงผู้ชาย ได้ยินเสียงโครมคราม และขอให้ช่วยเป็นภาษาเมียรมา ตนก็เข้าใจว่าเป็นการทะเลาะกันปกติ จึงไม่อยากยุ่ง กระทั่งเช้าวันที่ 27 มี.ค. เพื่อนของนายลินบอกผ่านภรรยาตนมาว่าผู้ตายไม่มีทำงาน ให้ช่วยไปสอดส่อง จากนั้นเวลา 21.00 น. ไปที่ห้องพบว่าไม่ได้ล็อก กระทั่งเดินเข้าไปหลังห้องเจอศพของนายลิน และศพของนางสาวเท๊ตคว่ำหน้านอนทับร่างของนายลินอยู่ ภรรยาตนก็ช็อกตกใจกลัว จากนั้นก็คุยกันว่าจะย้ายออกทันที เพราะกลัวผี ซึ่งวันนี้ตนเห็นตำรวจจับตัวคนร้ายได้แล้วก็รู้สึกดีใจ เพราะตนก็กลัวว่าคนร้ายจะกลับมาที่เดิมสำหรับนายนิว ผู้ต้องหา ตนก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน