จากกรณีศูนย์สั่งการจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนหมดสติ 3 คน ภายในบ่อดาล บริเวณที่แปลงนาในพื้นที่ หมู่ 3 ต.โพทะเล อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี
วันที่ 1 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว มีบ่อบาดาล ความลึกประมาณ 6 เมตร จุดที่นายสุนทร กลมปั่น อายุ 65 ปี คนงาน, นายสมาน ทองแดง อายุ 44 ปี คนงาน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายสกล เชื้อนิล อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยหมดสติในที่เกิดเหตุ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
โดยวันนี้กรมควบคุมโรคจังหวัดสิงห์บุรี และสำนักงานสาธารณะสุขประจำอำเภอค่ายบางระจัน เดินทางเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ ใช้เครื่องวัดออกซิเจนภายในชั้นบรรยากาศแต่ละช่วงบ่อ นำข้อมูลไปตรวจสอบว่ามีแก๊สอื่นร่วมด้วยหรือไม่
นายณัฐพล เชื้อกล้วย อายุ 33 ปี เพื่อนร่วมงาน เดินทางเข้ามาจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บของและเครื่องมือต่าง ๆ เล่าว่า วันเกิดเหตุ 31 มี.ค. 64 มีการนัดแนะกันว่าเวลาเที่ยงให้ไปรวมกันอีกบ่อ ถึงเวลานัดหมาย ตนโทรศัพท์หานายสมาน แต่ไม่มีคนรับ ก็เข้าใจว่าอาจจะทำงานอยู่ จึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. มีคนโทรมาบอกว่า "แย่แล้ว นายสุนทรและนายสมานหมดสติภายในบ่อ" ตนจึงรีบมาที่จุดเกิดเหตุ แต่ไม่ทันเจ้าหน้าที่นำร่างไปโรงพยาบาลแล้ว
ส่วนตัวรู้สึกตกใจ เพราะทั้ง 2 คนขุดมาหลายบ่อแล้ว ลึกกว่านี้ก็ไม่เคยเป็นอะไร ปกติถ้าบ่อลึกจะนำน้ำแข็งลงไปข้างล่างก่อน เพื่อปรับอุณหภูมิและอากาศภายด้านใน ก่อนที่จะลงไป คาดว่าตอนกลางวันแดดแรง อุณหภูมิน่าจะร้อนกว่าเดิม ทำให้อากาศภายในน้อยลง ซึ่งก่อนลงมือขุดบ่อก็ต้องมีการไหว้เจ้าที่เจ้าทางอยู่แล้ว ก็ไม่คิดว่ามีอาถรรพ์ใด ๆ
ที่หมู่บ้านโพทะเล จัดงานศพของนายสุนทร กลมปั่น อายุ 65 ปี ภายในบ้านของตัวเอง โดยมีเหล่าบรรดาญาติเดินทางเข้ามาร่วมแสดงความเสียใจ นางสาวน้ำฉ่ำ สุกเผือก อายุ 53 ปี ภรรยาของนายสุนทร เปิดเผยว่า ปกตินายสุนทรจะเป็นคนที่รักครอบครัวมาก เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ที่ผ่านมาดูแลตนไม่ขาดตกบกพร่อง อยากได้อะไรขอแค่บอก ทุกเย็นจะซื้อเบียร์มาให้ตนกินเป็นประจำ แต่เย็นวันที่ 30 มี.ค.64 นายสุนทรบอกกับตนเป็นลางว่า "แม่กิ๊ก หลังจากนี้แม่ต้องเดินไปซื้อเบียร์มากินเองแล้วนะ"
สภาพจิตใจในตอนนี้คือรู้สึกเสียใจ เพราะสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป งสามีเป็นคนดีมาก มีลูกสาวและลูกชายติดเมียเก่ามาก็ดูแลดี กับตนเอง สามีก็ทำให้ทุกอย่าง ข้าวปลาหามาให้หมด ตนแทบไม่ได้ใช้เงินตัวเองสักบาท อยู่ด้วยกันมา 10 ปี ก็ค่อนข้างผูกพันมาก หลังจากนี้ก็คงต้องสู้ต่อไป
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังวัดคลองระมาน บรรยากาศภายในศาลาวัด ถูกจัดตั้งศพของนายสกล เชื้อนิล อายุ 30 ปี และนายสมาน ทองแดง อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ญาติเดินทางมาร่วมงานศพ
นายเฉลิม เชื้อนิล อายุ 57 ปี พ่อของนายสกล กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายของตนเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ปกติทำงานอยู่ที่ อบต. เขาให้ช่วยทำอะไรก็ทำหมด ขอแค่เอ่ยปาก กชายมีครอบครัวแล้ว มีลูกชายอายุ 7 ปี และเป็นเสาหลักของครอบครัวมาโดยตลอด ตนได้คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายคือช่วงเช้าวันที่ 31 มี.ค. 64 ก่อนที่ลูกชายจะออกไปทำงาน พูดคุยกันตามประสาพ่อลูก ลูกชายก็เล่าให้ตนฟังว่าตั้งแต่ต้นปีผ่านมา หมู่ที่ 5 มีคนเสียชีวิตไปแล้ว 2 ศพ แต่หมู่ 3 ยังไม่มีใครตาย ซึ่งพอหลังเกิดเหตุ ตนเพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าเป็นการพูดลางไม่ดี ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุนี้
ส่วนตัวไม่ติดใจในการเสียชีวิต แต่แค่รู้สึกเสียใจแ ละทำใจไม่ได้ที่ลูกชายเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน สาเหตุมาจากความประมาท เนื่องจากนายสกลคงทราบว่าคนที่ตกบ่อลงไปคือนายสมาน น้าชาย ใจก็คงรีบลงไปโดยที่ยังไม่ได้ประเมินความปลอดภัยหน้างานของตัวเอง ซึ่งตนก็บอกกับลูกชายในใจว่าให้ไปสบาย ขอให้หมดห่วง ตนจะช่วยเลี้ยงดูหลานเอง ตอนนี้สภาพจิตใจค่อนข้างแย่ เพราะมีลูกชายคนเดียว จะมีการเผาศพวันเสาร์ที่ 3 เม.ย. 64
ด้านนางอนุชนาฎ ทองแดง อายุ 48 ปี ภรรยานายสมาน บอกว่ าสามีเป็นคนขยัน อยู่กินกันมา 20 กว่าปี ไม่เคยคาดตกบกพร่องหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ส่งลูกเรียนมหาลัยทั้ง 2 คน เช้าวันเกิดเหตุสถานการณ์ทุกอย่างดูปกติดี ไม่มีลางสังหรณ์ แต่ทุกครั้งที่สามีจะเดินทางไปทำงานรับจ้างขุดบ่อ ตนก็จะเตือนเสมอว่าให้ระมัดระวังตัว ถ้าหากว่าลึกมากก็ไม่ต้องลง ให้เน้นความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เรื่องของความเชี่ยวชาญก็ขุดมาหลายบ่อแล้ว
ตนไม่ได้ติดใจการตาย เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ชั้นบรรยากาศข้างในอาจจะไม่มีออกซิเจน แต่สภาพจิตใจขณะนี้ รู้สึกเสียใจและยังทำใจไม่ได้ เนื่องจากสูญเสียทั้งสามีและหลานชายพร้อมกัน สองคนนี้มีนิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่นเหมือนกัน ขอแค่เอ่ยปากให้ช่วย บางครั้งไปช่วยทำ ก็ไม่เก็บค่าแรง