วันที่ 1 เม.ย. 64 เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เข้าตรวจสอบกรณีตายายที่นายธนา ลูกชายเป็นหนี้ กยศ. แล้วนำโฉนดบ้านและที่ดินไปจำนอง จากนั้นก็หายตัวไป จนศาลสั่งบังคับคดีให้ขายทอดตลาด ผู้ซื้อบ้านและที่ดินไปขึ้นป้ายประกาศขายต่อ สร้างความเสียใจให้กับตายายเป็นอย่างมาก
โดยตายายร้องสื่อ ตามหาลูกชายขอให้กลับบ้าน เนื่องจากโดนยืดที่ดินขายทอดตลาด เพราะลูกชายไปกู้เงิน กยศ. เป็นเงินกว่า 100,000 บาท แล้วไม่ได้ใช้ จากนั้นได้มาขอโฉนดที่ดินไปจำนองกับ ธกส. ได้เงินมา 400,000 บาท แต่กลับไม่นำเงินไปใช้หนี้กยศ. กลับนำเงินหายไปเป็นเวลานาน สุดท้ายถูกศาลสั่งบังคับคดีให้ขายที่ดินพร้อมบ้าน จนมีผู้ซื้อไปแล้วขึ้นป้ายประกาศขายต่อในราคากว่า 800,000 บาทนั้น
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าคดีนั้นได้สิ้นสุดไปตามกระบวนการแล้ว ตั้งแต่กยศ. ศาล สำนักงานบังคับคดี ซึ่งได้ประกาศขายทอดตลาดไปแล้ว จนกระทั่งมีผู้มาซื้อที่ดินดังกล่าว เพราะมีการทำสัญญาซื้อขายพร้อมวางมัดจำไปเรียบร้อย ถือว่ากระบวนการทางกฎหมายเป็นที่สิ้นสุด
สิ่งที่ทำได้คือทางเจ้าของบ้านเดิมจะต้องนำเงินไปจ่ายให้ครบตามจำนวนที่ตกลงซื้อขายกันไว้ ส่วนจะลดราคาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
ขณะที่นายเชิด นุ่มวงษ์ อายุ 88 ปี และนางทองคำ นุ่มวงษ์ อายุ 84 ปี บ้านเลขที่ 29 ม.1 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ตนเองไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาซื้อที่ดินและบ้านคืนมา ตนติดต่อลูกชายก็ไม่ได้ หายไปเลย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ตนเองกับสามีก็แก่มากแล้ว มีโรคประจำตัวทั้ง 2 คน ลูกที่อยู่ด้วยกันก็มีอาชีพรับจ้างทำไร่ทำนา ไม่มีเงินเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ถ้าบ้านและที่ดินถูกยึดไป ตนคงไม่มีที่ไป เพราะแก่แล้ว ขอตายอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะบ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของปู่ในช่วงแต่งงานกับย่า ต่อมาปู่ได้ยกให้กับนายเชิด พร้อมสั่งว่าให้อยู่ไปตลอด ห้ามขายเด็ดขาด แต่มาถูกลูกชายนำไปจำนองเป็นเงิน 800,000 บาท หลังจากได้เงินมาแล้วก็ไม่เคยนำเงินไปชำระหนี้ กยศ. จำนวน 130,000 บาท จนถูกฟ้อง และถูกบังคับคดีขายที่ดินและบ้านดังกล่าวไปในราคา 402,000 บาท
จนกระทั่งมีผู้ซื้อไปแล้ว นำมาขายต่อในราคา 800,000 บาท ลูกชายได้ติดต่อขอซื้อบ้านพร้อมที่ดินคืน ได้มาทำสัญญาซื้อขายกันที่บ้านหลังนี้ พร้อมทั้งได้จ่ายเงินมัดจำไปจำนวน 20,000 บาท หลังจากนั้นลูกชายก็หายออกไปจากบ้าน โดยไม่มีการติดต่อกลับมาอีก จนผู้ที่ซื้อกลับมาสอบถามหลายครั้งว่าจะชำระเงินที่ส่วนที่เหลือได้เมื่อไร ซึ่งทางบ้านก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะไม่มีเงิน และ 18 ชีวิตก็ยังคงกังวลว่าจะถูกให้ออกไปจากบ้านวันไหนก็ไม่รู้
ต่อมาผู้ที่ซื้อที่ดินและบ้านไปได้นำป้ายประกาศขายที่ดินพร้อมบ้านของตน จึงทำให้ตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านและที่ดินกลับมา ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้เก่าทรงไทยหลังใหญ่สวยงาม ภายในสวนปลูกไม้ผลไว้หลากหลายชนิด จึงทำให้ตนและครอบครัวเสียดายมาก ถ้าถูกขายไปจริง ตนก็ขอตายที่นี่ ไม่ย้ายไปไหนเด็ดขาด จึงวอนผู้ใจบุญที่สามารถช่วยเหลือไถ่ถอนบ้านและที่ดินหลังนี้คืนมาให้กับตนด้วย
Advertisement