วันที่ 10 ก.ค. 61 เวลา 8.30 น. พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ตรวจ 11 จุด ล้างนอมินีของนายทุนข้ามชาติหลังเหตุเรือล่มภูเก็ต พร้อมระบุหลังเกิดเหตุบางบริษัทแอบนำเรือหนีออกนอกพื้นที่บ้างแล้ว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เนื่องจากเหตุเรือฟีนิกซ์ และ เรือเซเรนาต้า ล่มในทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่าน ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงได้รับการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเหตุเรือล่มในครั้งนี้ โดยมีการสนธิกำลังร่วมกันหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ศุลกากร กรมท่องเที่ยว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงาน
สำหรับการตรวจสอบทั้ง 11 จุด เน้นตรวจสอบในทุกๆเรื่อง เช่น การตรวจสอบเรือ จะต้องตรวจสอบว่าเป็นเรือที่นำเข้ามาโดยถูกต้องหรือไม่ มีการชำระภาษีหรือไม่ ในส่วนของกรมเจ้าท่ามีการตรวจสอบเรือที่จะออกจากท่าหรือไม่ ในวันนี้จึงเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการตามมาตรการปราบปรามนอมินีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
สำหรับการดำเนินการตรวจสอบจะดำเนินการตรวจสอบในเรื่องของภาษีอากร และมูลฐานความผิดที่จะนำไปสู่การฟอกเงิน ซึ่งเป็นการปฏิบัติการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง วันนี้จังหวัดภูเก็ตและอันดามัน เรื่องของนอมินีข้ามชาติจะต้องหมดสิ้น และ เหตุเรือล่ม เรือไฟไหม้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกแล้วถ้าสาเหตุเกิดจากนอมินี ยกเว้นเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอมินีข้ามชาติ เข้ามาใช้ทรัพย์กรในประเทศไทย ในภูเก็ต ในอันดามัน แต่รายได้ไม่เข้าประเทศไทย เข้ามาแย่งพื้นที่ แย่งอาชีพ ของคนไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยในพื้นที่จะต้องถอยให้กับนอมินีต่างชาติจนไม่มีที่ยืน เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำให้คนไทย ที่เสียภาษีมีที่ยืน
ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำ ใน 2 เรื่อง คือเรื่องการดูแลผู้ประสบภัย การเยียวยา จะต้องได้รับการดูแลที่ดีที่สุด และเรื่องการปราบปรามผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้ทุกคน รวมทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้โดยเด็ดขาด
ซึ่งหลังจากมีข่าวว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องนอมินี ทราบว่าตอนนี้เริ่มมีบางบริษัท เจ้าของเรือบางคนลักลอบนำเรือออกจากจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว แต่ก็จะตามกลับมาให้ได้อย่างแน่นอน