จากกรณีที่เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 2 เม.ย. 64 ร.ต.อ.รุ่งเรือง ชัยอุปกาละ รองสว.(สอบสวน) สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านหมู่ที่ 1 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยห้างฉัตรเวียงตาล
พบนายณัฐพล ผาวงศ์ อายุ 34 ปี ถูกนายธีระพงศ์ สิงห์อินทร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา ใช้ทั้งเท้าทั้งหมัดซัดไปที่ศีรษะ และลำตัว อาการสาหัส หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ห้างฉัตร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ไปชวนผู้ต้องหาและภรรยามาดื่มสุราที่บ้านจนเมาได้ที่ ระหว่างที่ผู้ก่อเหตุไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้า ปรากฏว่าภรรยาผู้ก่อเหตุ และผู้ตายพากันเข้าไปนอนที่ในห้องนอน และล็อกประตู เมื่อผู้ก่อเหตุมาถึงพบว่าภรรยาอยู่ที่ในห้องกับผู้ตายจึงเข้าใจผิด พังประตูเข้าไป ก่อนที่จะทำร้ายผู้ตายจนอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
น.ส.สุธาสินี อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายคนแรกมาชวนตนเองและสามีไปดื่มสุราที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งนั่งดื่มที่โต๊ะหน้าบ้านจนเมาได้ที่ ระหว่างนั้นสามีที่ผู้ก่อเหตุขี่รถออกไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ตนเองเมามากและอยากจะนอน ประกอบกับผู้ตายก็เมาไม่ได้สติเช่นเดียวกัน ตนจึงพาผู้ตายไปนอนในห้อง แต่เผลอล็อกห้อง จนแม่ของผู้ตายมาโวยวายที่หน้าห้องเพื่อให้เปิดประตู ซึ่งเพียงไม่ถึง 5 นาที สามีก็กลับจากซื้อเบียร์มาพอดี เข้าใจผิดประกอบกับความเมา จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
หลังจากนั้นตนเองได้เดินกลับมาบ้าน ก็มานั่งดื่มสุราต่อกับเพื่อนข้างบ้านที่บนบ้านเช่าของตนเองอีกหลัง จากนั้นก็เผลอหลับไม่รู้เรื่องเพราะเมามาก และยอมรับว่าไม่รู้ว่ามีคนมาตายที่บนบ้านรายที่ 2 อีก และไม่รู้ว่าตกตึกได้อย่างไร
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 3 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ มีชาวบ้านในพื้นที่ต่างมาช่วยกันจัดเตรียมงานศพ โดยนายศรีนุช ผาวงศ์ อายุ 59 ปี และนางนภาพร ผาวงศ์ อายุ 59 ปี พ่อและแม่ของผู้ตาย นำไปดูจุดที่เกิดเหตุ ห้องนอนของผู้ตาย พบรอยเลือดหลงเหลืออยู่
เมื่อช่วงสายวานนี้ 2 สามีภรรยาได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาลูกชายตนเองที่บ้าน และก็นั่งดื่มสุรากันที่โต๊ะหน้าบ้าน ระหว่างที่ผู้ก่อเหตุขี่รถไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ซึ่งห่างกันประมาณ 300 เมตร ปรากฏว่าภรรยาผู้ก่อเหตุได้พาลูกชายตนเองเข้าไปในห้อง ซึ่งตอนนั้นลูกชายตนเองอยู่ในสภาพเมาอย่างหนัก ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเมื่อภรรยาผู้ก่อเหตุล็อกประตู ตนเองเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปเรียกให้เปิดประตู เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไม่งาม ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับผู้ก่อเหตุกลับมา
จึงมีการเรียกให้เปิดประตู แต่ก็ไม่มีใครยอมเปิด ฝ่ายผู้ก่อเหตุจึงพังประตูห้องนอน ลูกชายของตนเองตอนนั้นเมาหลับ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้ทั้งเท้าหมัดท่อนไม้และขวดเบียร์ทุบที่ศีรษะลูกชาย ตนเองจึงพยามเข้าห้าม แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟัง ตนเองแรงสู้ไม่ได้ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และแจ้งตำรวจ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ